ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนของนักศึกษาสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ ทัศนคติ พฤติกรรมเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน และศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน ในนักศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ จำนวน 174 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามในรูปของ google form ตามความสมัครใจได้จำนวน 211 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณา ได้แก่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาความสัมพันธ์โดยการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson product moment correlation) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของสเปียร์แมน (Spearman rank-order correlation) และ Logistic regression ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความรู้อยู่ในระดับสูง ร้อยละ 94.8 มีทัศนคติอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 83.4 และมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนอยู่ในระดับปานกลางร้อยละ 92.4 ความรู้มีความสัมพันธ์ทางลบในระดับต่ำกับพฤติกรรมเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน r= -0.22 (95%CI: -0.09 ถึง -0.35), ทัศนคติมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำกับพฤติกรรมเสี่ยงต่อภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน r= 0.22 (95%CI: 0.09 ถึง 0.35), และ กิจกรรมคลายเครียดด้านการออกไปทำกิจกรรมกับเพื่อนเป็นประจำหรือบ่อยครั้งเป็นปัจจัยป้องกันภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน OR= 0.19 (95%CI: 0.06 - 0.64) ซึ่งการให้ความรู้แก่นักศึกษาอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอที่จะสร้างพฤติกรรมที่ดี ดังนั้น ผู้บริหารและอาจารย์ควรจัดโครงการหรือสอดแทรกเนื้อหาระหว่างเรียนที่สามารถสร้างทัศคติที่ดีควบคู่กันกับการเรียนในมหาวิทยาลัย อีกทั้งส่งเสริมกิจกรรมหรือมอบหมายงานงานที่มีโอกาสให้นักศึกษาได้ทำกิจกรรมร่วมกัน