การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการมูลฝอยติดเชื้อองค์การบริหารส่วนตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ
คำสำคัญ:
รูปแบบการจัดการ, มูลฝอยติดเชื้อ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการมูลฝอยติดเชื้อในองค์การบริหารส่วนตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ กลุ่มเป้าหมายที่เข้ามามีส่วนร่วม ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล นักวิชาการหรือผู้รับผิดชอบงานในระดับตำบล และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม การวิจัยใช้กระบวนการของ Kemmis & McTaggart (PAOR) จำนวน 3 วงรอบ โดยแต่ละวงรอบประกอบด้วย ขั้นตอน 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน การปฏิบัติ การสังเกต และการสะท้อนผล วิเคราะห์ข้อมูลโดยการรวบรวม จัดหมวดหมู่ วิเคราะห์เนื้อหา และประเมินผลของรูปแบบฯ โดยใช้สถิติ Paired t-test เปรียบเทียบผลต่างค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนและหลังพัฒนารูปแบบ ผลการศึกษา พบว่า ภายหลังดำเนินการ ความรู้ ทัศนคติ รูปแบบการจัดการขยะติดเชื้อขององค์การ ความสัมพันธ์ในองค์การ การมีส่วนร่วมในงาน และพฤติกรรมการจัดการขยะติดเชื้อเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง รูปแบบการบริหารจัดการขยะติดเชื้อขององค์การบริหารส่วนตำบลโนนหนามแท่งประกอบด้วย 1) การพัฒนาองค์ความรู้ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 2) การกำกับติดตามโดยคณะอนุกรรมการ 3) การวางแผนและบรรจุในแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 4) การทบทวนผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยแห่งความสำเร็จคือ การสร้างองค์ความรู้และทัศนคติที่เหมาะสม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและพัฒนาบรรยากาศองค์การ รูปแบบนี้สามารถนำไปใช้ในการวางแผนการบริหารจัดการมูลฝอยติดเชื้อองค์การบริหารส่วนตำบลหรือพื้นที่อื่น ๆ ให้มีความเหมาะสม ในการรองรับโรคติดเชื้ออุบัติใหม่อุบัติซ้ำได้
Downloads
เอกสารอ้างอิง
วานิช สาวาโย. มาตรการลดและคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานภาครัฐและการขับเคลื่อนการดำเนินงานลดและคัดแยกขยะมูลฝอยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นวันที่ 27 มกราคม 2566] แหล่งข้อมูล: https://www.pcd.go.th/garbage/มาตรการลด-และคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานภาครัฐ-และการขับเคลื่อนการดำเนินงานลด-และคัดแยกขยะมูลฝอย-การฝึกอบรมการลด-และค
ตรีรัก กินวงษ์. พฤติกรรมการจัดการหน้ากากอนามัยของประชากรในกรุงเทพมหานคร [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566] แหล่งข้อมูล: http://gseda.nida.ac.th/academics/database/students/fileupload/isdocument/20210730224853.pdf
ฉัตรชัย พรมเลิศ. มาตรการจัดการมูลฝอยติดเชื้อชุมชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นวันที่ 27 มกราคม 2566] แหล่งข้อมูล: http://www.dla.go.th/upload/document/type2/2021/7/25810_1_1627375884237.pdf
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นวันที่ 27 มกราคม 2566] แหล่งข้อมูล: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/
กรมควบคุมมลพิษ. ข้อเสนอการยกระดับสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกต้อง [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นวันที่ 27 มกราคม 2566] แหล่งข้อมูล: http://www.dla.go.th/upload/document/type2/2023/4/29257_3_1682403152230.pdf?time=1682403430921.
องค์การบริหารส่วนตำบลโนนหนามแท่ง. สถิติประชากรจากทะเบียนบ้าน [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นวันที่ 25 มกราคม 2566] แหล่งข้อมูล: http://www.nonnamtang.go.th/index.php?home=board&id=123.
Kemmis S, & McTaggart R. Participatory Action Research: Communicative Action in the Public Sphere, in N. Denzin and Y. Lincoln (Eds.) Handbook of Qualitative Research. California: Sage; 2000.
Bloom, BS. (1971). Handbook on formative and summative evaluation of student learning. New York: McGraw-Hill.
Best, JW. (1977). Research in Education. (3rd ed.) Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall.
พรสิทธิ์ ศรีสุข, อภิชิต กองเงิน. การพัฒนารูปแบบการจัดการขยะมูลฝอยในชุมชนแบบการมีส่วนร่วมของอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์. วารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สคร 2 พิษณุโลก 2564; 8(2):18–33.
สายัณห์ แสวงสุข. รูปแบบการจัดการมูลฝอยติดเชื้อโควิด2019 ของโรงพยาบาลสนามและศูนย์พักคอย กรณีศึกษา จังหวัดสุรินทร์. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน 2565; 8(3):155–155.
อุ่นเรือน ศิรินาค. การจัดการมูลฝอยติดเชื้อในโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา. วารสารวิจัยและพัฒนาด้านสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา 2561; 4(2):40–52.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกเพื่อการพัฒนางานด้านวิชาการ แต่ต้องได้รับการอ้างอิงที่ถูกต้องเหมาะสม