ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จังหวัดชลบุรี
คำสำคัญ:
พฤติกรรมทางเพศ, ความรอบรู้ด้านเพศ, โควิด-19, วัยรุ่นบทคัดย่อ
ปัจจุบันมีการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นปัญหาทางสุขภาพที่รุนแรงนำไปสู่การเจ็บป่วยและมีโอกาสเสียชีวิตได้ การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวางเพื่อศึกษาพฤติกรรมทางเพศและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษา จำนวน 394 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และหาความสัมพันธ์ของปัจจัยโดยใช้สถิติเชิงอนุมานด้วยการทดสอบไคสแควร์ ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาเป็นเพศหญิง ร้อยละ 69.0 มีการแสดงออกทางเพศแบบรักต่างเพศ ร้อยละ 73.6 เคยมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 44.9 มีทัศนคติต่อเรื่องเพศในทางลบ ร้อยละ 74.4 มีความรอบรู้ด้านเพศในระดับดี ร้อยละ 58.9 และมีพฤติกรรมทางเพศในระดับที่ไม่เหมาะสม ร้อยละ 40.6 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) มีดังนี้ 1) ปัจจัยนำ ได้แก่ สถานภาพการมีแฟน/คู่รัก ประสบการณ์การกอด ประสบการณ์การจูบ ประสบการณ์การเล้าโลม ประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์ ทัศนคติทางเพศ ความรอบรู้ด้านเพศ 2) ปัจจัยเอื้อ ได้แก่ บุคคลที่พักอาศัยร่วม การเข้าถึงสิ่งกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ และ 3) ปัจจัยเสริม ได้แก่ อิทธิพลจากบุคคลรอบข้าง จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่านักศึกษาเกือบครึ่งหนึ่งมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นมหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดกิจกรรมหรือจัดอบรมเพื่อเพิ่มทัศนคติทางเพศและความรอบรู้ด้านเพศ เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศให้มีความเหมาะสม
Downloads
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. What works to improve young people’s sexual and reproductive health [online]. [cited 2021 Feb 5]. Available from: https://www.who.int/reproductivehealth/topics/adolescence/what-works-ASRHR/en/.
ปัญญ์กรินทร์ หอยรัตน์, ปราโมทย์ วงศ์สวัสดิ์. วัยรุ่นไทยกับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี 2560; 2: 173-82.
ซอลาฮ เด็งมาซา, ปุญญพัฒน์ ไชยเมล์, สมเกียรติยศ วรเดช. พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนอาชีวศึกษาในอำเภอแห่งหนึ่งของจังหวัดภาคใต้ตอนกลาง. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน 2562; 1: 14-28.
องค์การอนามัยโลก. สถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 17 มกราคม 2564]. แหล่งข้อมูล: https://covid19.who.int/?fbclid=IwAR31XKcc44D5Ekqnvc6uh9bXE1Rr1ivHkRfjqU5NtOLikXJP1YdDlHT5lso.
World Health Organization. Coronavirus disease (COVID-19): Adolescents and youth [online]. [cited 2021 Feb 5]. Available from: https://www.who.int/news-room/questions-and-answers/item/coronavirus-disease-covid-19-adolescents-and-youth.
อวาทิพย์ แว. ปัจจัยด้านครอบครัวและสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนระดับอาชีวศึกษาในเขตเทศบาลนครยะลา (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). ภาควิชาสร้างเสริมสุขภาพ, คณะศึกษาศาสตร์. ปัตตานี: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2550.
อุดชัย มัณยานนท์, จินตนา สรายุทธพิทักษ์. ผลการใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์เรื่องเพศศึกษาที่มีต่อพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนชายมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2563; 3: 428-42.
ศิวานิตย์ ทองคำดี, ฉวีวรรณ บุญสุยา, เสาวนีย์ ทองนพคุณ, สาวิตรี วิษณุโยธิน. พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ในพื้นที่อุตสาหกรรม. วารสารสาธารณสุข มหาวิทยาลัยบูรพา 2563; 1: 85-98.
กระทรวงสาธารณสุข. แนวโน้มผู้ติดเชื้อ ตามมิติต่างๆด้านประชากร จังหวัด: ชลบุรี [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 1 ธ.ค. 2564]. แหล่งข้อมูล: https://ddc.moph.go.th/covid19-dashboard/?dashboard=select-trend-line
ฐิติกานต์ บัวรอด, ชิดชนก แก้วพรรณนา, เสาวนีย์ ทองนพคุณ, สาวิตรี วิษณุโยธิน. การรับรู้สุขภาพทางเพศเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ของนักศึกษาในจังหวัดชลบุรี. วารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 2563; 1: 68-76.
ระบบการศึกษา. จำนวนนิสิตปัจจุบัน [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2564]. แหล่งข้อมูล: http://reg.buu.ac.th/document/CurrStu/CurrALLLan29012564_2_2563.pdf
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. สถิติวิเคราะห์เพื่อการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์; 2553. 512.
จุฑาวดี กมลพรมงคล, สุวิชัย โกศัยยะวัฒน์, วรวุฒิ เพ็งพันธ์. การสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศสำหรับวัยรุ่นหญิงที่มีพฤติกรรมเสี่ยง. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย 2563; 53: 74-85.
โศภิสุดา วิบูลย์พันธุ์. ความสัมพันธ์ระหว่างการรู้เท่าทันสื่อสังคมออนไลน์กับพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่น อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). ภาควิชาการสร้างเสริมสุขภาพ, คณะสาธารณสุขศาสตร์. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2560.
เนตรนภา พรหมมา. การรับรู้ความสามารถของตนเองในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2564; 1: 5-13.
อัครวัฒน์ ราตรีสวัสดิ์, ศุภฤกษ์์ โพธิไพรัตนา. พฤติกรรมการสื่อสารและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้พฤติกรรมทางเพศของเยาวชนยุคดิจิทัลในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารการสื่อสารมวลชน 2564; 1: 26-51.
ปิยะนันท์ ลิมเรืองรอง, รวมพร คงกำเนิด, วารุณี เกตุอินทร์, ศิริอร สินธุ. การศึกษาเปรียบเทียบพฤติกรรมความเสี่ยงการมีเพศสัมพันธ์การรับรู้ความเสี่ยงปัญหาสุขภาพทางเพศและการปกป้องสุขภาพทางเพศของเยาวชนในสถานศึกษา. วารสารพยาบาลศาสตร์ 2560; 4: 33-48.
พรพิมล ช้างเนียม, ณัฐริกา หอมรื่น, ชลธิชา ดัชถุยาวัตร, พิมลพรรณ ดีเมฆ. พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร. สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร 2562; 6: 929-41.
มาศฤดี ศรีวิเศษ, สมบัติ ท้ายเรือคํา, บังอร กุมพล. ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อ เจตคติต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่ 2 จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 2559; พิเศษ: 247-57.
Nutbea D. The evolving concept of health literacy. Social science & medicine 2008; 12: 2072-8.
จิระภา ขำพิสุทธิ์. ความฉลาดทางสุขภาพและพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 2561; 1: 67-78.
ชุมาภรณ์ ฝาชัยภูมิ. เพศวิถีศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 1 กรุงเทพมหานคร: ซีเอ็ดยูเคชั่น; 2559. 256.
กษศรณ์ นุชประสพ. พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์. วารสารวิจัยราชภัฏพระนคร สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ 2562; 1: 28-43.
กษศรณ์ นุชประสพ, สุพัตรา สกุลศรีประเสริฐ. ความสัมพันธ์ของการรับรู้ภาวะเสี่ยงทางเพศ บุคลิกภาพห้าองค์ประกอบและความฉลาดทางอารมณ์กับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ. วารสารปัญญาภิวัฒน์ 2563; 3: 284-99.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกเพื่อการพัฒนางานด้านวิชาการ แต่ต้องได้รับการอ้างอิงที่ถูกต้องเหมาะสม