Effects of Improving Health Literacy on Malaria by Village Health Volunteers in the Thai-Cambodian Border Area, Sisaket province, Thailand
Keywords:
Health literacy, Malaria, Village health volunteer, Thai-Cambodian Border areaAbstract
The objective of this quasi-experimental study was to investigate the effect of malaria health literacy development among village health volunteers in the Thai-Cambodian Border area, Sisaket province, Thailand. A total of 238 village health volunteers were enrolled by using a cluster random sampling method of 3 districts in the border area. Data were retrieved before and after experiments from 1st February 2020 to 31st March 2020 using questionnaires. A multilevel mixed-effects linear regression was used for analyzing the mean difference score of malaria health literacy. Presented in terms of adjusted mean difference and 95% confidence interval. Results from this study showed that most of the village health volunteers were female (71.43%) with a mean age of 47±9.79 years. Of these 12.9% used to have a history of malaria infection. The participants received malaria screening and malaria workshops were 42.02% and 70.71%, respectively. Results showed a high score of all health literacy skills of malaria included: cognitive, accession, communication and social support, decision, self-management, and media literacy skills both before and after the experiment. The mean scores of 6 skills of health literacy before the experiment were 7.95±1.61, 3.62±0.67, 3.56±0.89, 3.92±0.73, 3.77±0.94, and 3.82±0.96 respectively. The mean scores of 6 skills of health literacy after experimental were 8.67±1.24, 4.02±0.52, 3.99±072, 4.15±0.48, 4.15±0.60, and 4.20±0.66 respectively. In addition, a total score of malaria health literacy was also high before and after experimental (56.72% and 84.03). Health literacy scores before and after the experiment were significant differences. Especially, their health literacy scores after the experimental increased more than before the experiment 15.42 points (Adjusted mean difference = 15.42, 95% CI. = 12.10-18.74 p-value <0.001). Therefore, public health officials should apply this model of health literacy development to promote health knowledge about malaria prevention according to the area context more efficiently.
References
2. ประยุทธ สุดาทิพย์, เสาวนิต วิชัยขัทคะ, และสุธีรา พูลลิน. การประเมินผลการดำเนินงานควบคุมโรคมาลาเรีย โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 43 จังหวัด ภายใต้โครงการกองทุนโลกรอบที่ 7: การประเมินเชิงนโยบายและผลกระทบการดำเนินงาน. วารสารสาธารณสุขล้านนา 2011: 225-239.
3. สำนักระบาดวิทยา. สรุปสถานการณ์โรคไข้มาลาเรีย ประจำปี 2561: รายงานในระบบเฝ้าระวังโรค. แหล่งข้อมูล: http://www.boe.moph.go.th/boedb/
surdata/506wk/y61/d30_5261.pdf. [สืบค้นเมื่อ 1 มิ.ย. 2563].
4. ปรีชา ปิยะพันธ์. พฤติกรรมการป้องกันโรคมาลาเรียของประชาชนพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7. 2556; (4): 30-39.
5. กองโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค. แนวทางการปฏิบัติงานกำจัดโรคไข้มาลาเรีย สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2562. 55-8.
6. คณะกรรมการอำนวยการจัดทำแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12 กระทรวงสาธารณสุข. แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560-2564. [online]. แหล่งข้อมูล: http://wops.moph.go.th/ops/oic/data/
20180914162453_1_.pdf. [สืบค้นเมื่อ 1 มิ.ย. 2563].
7. เดือนนภา ศิริบูรณ์ และนพรัตน์ ส่งเสริม. ผลของโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อการป้องกันและควบคุมโรคมาลาเรียของตัวแทนครัวเรือนตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี. SNRU journal of science and Technology. 2016; 8(3): 292-300.
8. สมหมาย งึมประโดน, จิระภา ศิริวัฒนเมธานนท์ และสมศักดิ์ ศรีภักดี. การพัฒนารูปแบบการดำเนินงานป้องกันโรคมาลาเรียโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ตำบลหนองแวง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น. 2559; 23(1): 35-45.
9. สุวรรณี สิริเศรษฐภักดี. การมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันโรคไข้มาลาเรียของประชาชนเขตพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์. วารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา. 2555; 18(2): 44-55.
10. รุ่งนภา อาระหัง. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงสำหรับกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงที่ชุมชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม (วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต). ภาควิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน, คณะพยาบาลศาสตร์. กรุงเทพฯ; มหาวิทยาลัยคริสเตียน: 2560.
11. อุทัย เจริญจิตต์. ผลของการใช้โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพในผู้ป่วยโรคเบาหวานต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพแลพฤติกรรมตาม 3อ 2ส ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง โรงพยาบาลบ้านโป่ง. วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล. 2561; 3(2): 58-72.
12. จุพามณี กันกรุง. การศึกษาความฉลาดทางสุขภาวะของนักศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). พิษณุโลก; มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม: 2558.
13. Cho, Y. I., Lee, S. Y., Arozullah, A. M., & Crittenden, K. S. (2008). Effects of health literacy on health status and health service utilization among the elderly. Social Science & Medicine,
66(8), 1809-1816.
14. Von Wagner, C., Knight, k., Steptoe, A., & Wardle, J. (2007). Functional health literacy and health promoting behavior in a national sample of British adults. Journal Epidemio Community Health, 61(12), 1086-1090.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกเพื่อการพัฒนางานด้านวิชาการ แต่ต้องได้รับการอ้างอิงที่ถูกต้องเหมาะสม