Model to drive developing desirable health behaviors of prototype population district in health region 10th: Pathum Ratchawongsa District, Amnat Charoen Province
Keywords:
Developing Model, Desirable Health Behaviors, Prototype Population, Health region 10thAbstract
This action research aims to study model to drive developing desirable health behavior of prototype population district in health region 10th: Pathum Ratchawongsa District, Amnat Charoen Province. The sample groups in this study included mayors of municipality, district administrative mayors, sub-district headman, district chiefs, village chief man, assistant village chief man, health village volunteer president, district developer, health village volunteer, director of health promotion hospital, housekeeper representative of Pathum Ratchawongsa District, public health scholars, nurse, nutritionist and sport and health scholar totally 63. The ages of a subject to collect data were between 15-59 years old. Sample sizes 380 people. Collecting data by questionnaires, activity records, group discussion records, and assessment reports. The research started from March to July 2019. Data analysis by descriptive statistic, content analysis, mean different and paired t-test. The results of this study showed that 8 procedures which are 1) Health behavior survey of working-age 2) The data feedback and passing information knowledge and experience behavior change guideline through various media. 3) To analyze the cause of problems 4) Analyze social fundamental 5) Project activity and methods are distinct results in changing behavior. 6) Participatory in every part of the integration action. 7) Empower and support to the participant to continue activity. 8) Evaluation of working outcome to improve the activity. The result of this project caused waist circumference and body mass index of volunteer decreased. Moreover, the average scores of food consumer behavior, exercise record, alcohol consumption behavior, and smoking behavior have been increased significantly (P-value < 0.05). Therefore, this pattern of developing health behavior could apply and use to solve the nutrition problem in the working-age population.
References
2. Kemmis, S., & McTaggart, R. 1988. The action research planner (3rd ed.). Geelong: Deakin University press.
3. Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), pp. 607-610.
4. รพีพัฒน์ ศรีมาลา, พรสุข หุ่นนิรันดร์ และทรงพล ต่อนี. การจัดการสุขภาพชุมชนแบบมีส่วนร่วม: กรณีศึกษาชุมชนแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา วารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. 2559; 11(3): 159 -168.
5. ชัยพร พรหมสิงห์ และคณะ ผลของกระบวนการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อภาวะเส้นรอบเอว และค่าดัชนีมวลกายเกินเกณฑ์มาตรฐานในประชากรกลุ่มวัยทำงาน : กรณีศึกษา บ้านศาลา อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ วารสารศูนย์อนามัย 7 อุบลราชธานี ปีที่ 4 ฉบับที่ 1 มกราคม – ธันวาคม 2558 ห้างหุ้นส่วนจำกัด อุบลกิจออฟเซทการพิมพ์ จังหวัดอุบลราชธานี 2557.
6. ปัณณธร ชัชวรัตน์ และคณะ (2557) กระบวนการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของครอบครัวในการแก้ไขปัญหาการดื่มสุราในชุมชนบ้านสันป่าบง ต.สันป่าม่วง อ.เมือง จ.พะเยา เอกสารบทคัดย่อ การประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 7 ปี 2557.
7. นิชาภา โพธาเจริญ รูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการโรคอ้วนของชุมชนอรุณนิเวศน์ กรุงเทพมหานคร บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเฉลิมพระเกียรติ 2555.
8. เบญญทิพย์ พรรณศิลป์, วิรัติ ปานศิลา และ รณรุทธ์ บุตรแสนคม. การพัฒนารูปแบบการดำเนินงานเพื่อลดภาวะอ้วนของคนในชุมชน ตำบลหนองแสง อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 2560; 19(2): 108 -123.
9. ปุณญณิน เขื่อนเพ็ชร์ และลำเนา วงค์ใจ. ประสิทธิผลของกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนต่อการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมภาวะอ้วนลงพุงในผู้สูงอายุเครือข่ายบริการสุขภาพ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เชียงรายเวชสาร. 2559; 7(1): 103 – 112.
10. สุรินทร์ สีระสูงเนิน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสขภาพตามหลัก 3 อ. แบบพอเพียงด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น กรณีศึกษา : ตําบลหนองชัยศรี อําเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ (เอกสารอัดสำเนา) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ปี 2555.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกเพื่อการพัฒนางานด้านวิชาการ แต่ต้องได้รับการอ้างอิงที่ถูกต้องเหมาะสม