ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดและการจัดการความเครียดของพยาบาล โรงพยาบาลศรีสะเกษ
คำสำคัญ:
ความเครียด, การจัดการความเครียด, พยาบาลบทคัดย่อ
โรงพยาบาลศรีสะเกษมีจำนวนผู้มารับบริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในและอัตราการครองเตียงมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้อัตรากำลังของพยาบาลไม่เพียงพอ ในปี 2558-2559 พบว่า พยาบาลลาออกร้อยละ 2.9 และ 1.8 ตามลำดับ โดยมีเหตุผลคือประกอบอาชีพอื่นหรือทำธุรกิจส่วนตัว ทำงานที่อื่น ศึกษาต่อ และอยู่กับครอบครัวที่ต่างจังหวัด การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความเครียด วิธีการจัดการความเครียดและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดของพยาบาลโรงพยาบาล ศรีสะเกษ รูปแบบการศึกษาเป็น Descriptive cross-sectional study กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาล 324 คน ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศรีสะเกษ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม ประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไป ปัจจัยที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดความเครียด แบบวัดความเครียดด้วยตนเองของกรมสุขภาพจิต และวิธีการจัดการความเครียด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าจำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Chi- square และ Pearson product moment correlation ผลการวิจัย พบว่า พยาบาลมีระดับความเครียดโดยรวมในระดับปกติร้อยละ 59.9 สูงกว่าปกติเล็กน้อยร้อยละ 19.4 ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติอย่างมากร้อยละ 13.6 วิธีการจัดการความเครียด คือ นอนพักผ่อน ร้อยละ 83.6 ฟังเพลงร้อยละ 71.3 ระบายความเครียดให้กับผู้อื่นฟังร้อยละ 71.0 ดูภาพยนตร์/โทรทัศน์และท่องเที่ยว ร้อยละ 62.3 ส่วนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดของพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ ความเพียงพอของรายได้ (P < 0.01) ปัจจัยลักษณะงาน (r = +0.346 P< 0.01) ปัจจัยโครงสร้างและการบริหารจัดการ (r= +0.308 , P < 0.01) ปัจจัยด้านบรรยากาศ/สภาพการทำงาน (r = +0.348 , P < 0.01) และปัจจัยด้านสัมพันธภาพส่วนบุคคล ( r= +0.339 , P < 0.01) จำนวนเวรปกติและเวร OT มีความสัมพันธ์กับความเครียดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< 0.05) ส่วนเพศ สถานภาพสมรส วุฒิการศึกษา ตำแหน่ง รายได้ ที่อยู่อาศัย การมีโรคประจำตัวพบว่า ไม่มีความสัมพันธ์ความเครียด สรุปปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดของพยาบาลวิชาชีพคือ ความเพียงพอของรายได้ จำนวนเวรปกติและเวร OT ปัจจัยด้านลักษณะงาน ปัจจัยโครงสร้างและการบริหารจัดการ ปัจจัยด้านบรรยากาศ/สภาพการทำงานและปัจจัยด้านสัมพันธภาพส่วนบุคคล และวิธีการจัดการความเครียดคือการนอนพักผ่อน เล่นอินเตอร์เน็ต เข้าวัดทำบุญ ดังนั้น ควรจัดสรรอัตรากำลังให้เพียงพอ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยลดภาระงานที่หนัก ส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างความสุขให้กับพยาบาล และศึกษาปัจจัยอื่น ๆ ที่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตของพยาบาล
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. คู่มือการศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. 2546: 134-41.
3. มาริษา สมบัติบูรณ์, ศากุณ แสวงพานิช, ชรัสนิกูล ยิ้ม บุญญะ, ธชพร เทศะศิลป์. การศึกษาอุบัติการณ์การลาออกของพยาบาล และผู้ช่วยพยาบาล. ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช. 2546.
4. กาญจนา วิเชียรประดิษฐ์, ทะนงศักดิ์ ยิ่งรัตนสุข, ศรีรัตน์ ล้อมพงศ์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดจากการทำงานของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัยที่อยู่ในกำกับของรัฐ. เอกสารการประชุมวิชาการบัณฑิตศึกษาระดับชาติครั้งที่ 2; 17 พฤษภาคม 2556; ณ โรงแรมริชมอนด์. จังหวัดนนทบุรี; 2556.
5. Aiken LH, Clarke SP, Sloan DM, Sochalski JA, Siber J. Hospital nurse staffing and patient mortality, nurse burnout, and job dissatisfaction. Journal of the American Medical Association 2002; 288 (16): 1987-93.
6. Feskanich D, Hastrup JL, Marshall JR, Colditz GA, Stampfer MJ, Willett WC.Stress and suicide in the Nurses’ Health Study. Journal of epidemiology Community Health 2002; 56(2): 95-98.
7. สมพร เกษมสานติ์, ธงชัย อามาตยบัณฑิต, สุชาดา คำสุชาติ. ระดับความเครียดของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลสกลนครและความสัมพันธ์กับปัจจัยบางประการ. วารสารวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดขอนแก่น. 2555; 4(1): 49-66.
8. ดวงรัตน์ วัฒนกิจไกรเลิศ, คัคนางค์ นาคสวัสดิ์,ชื่นชู ชีวพูนผล, วรรณี สัตยวิวัฒน์. ความเครียด ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียด และการจัดการกับความเครียดในพยาบาล. Journal of Nursing Science; 2010; 28(1): 68-76.
9. โรงพยาบาลศรีสะเกษ. เอกสารประกอบรายงานการประชุมการตรวจราชการและนิเทศงาน กรณีปกติ รอบที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2559. วันที่ 5-7 กรกฎาคม 2559; ณ ห้องประชุมกิตติรังษี. ศรีสะเกษ ; โรงพยาบาล ศรีสะเกษ, 2559.
10. โรงพยาบาลศรีสะเกษ กลุ่มงานทรัพยากรบุคคล. รายงานสถานการณ์การลาออกของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศรีสะเกษ ปี 2558-2559. ศรีสะเกษ: โรงพยาบาลฯ ; 2559.
11. กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. แบบประเมินและวิเคราะห์ความเครียดด้วย ตนเอง. [ออนไลน์] ม.ป.ป. [สืบค้น 14 กค. 2559] ; เข้าถึงได้จาก : URL:
http://www.manarom.com/qsocial.php
12. ปาณิภา เสียงเพราะ, ทัศนีย์ รวิวรกุล, อรวรรณ แก้วบุญชู. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดจากการทำงานของพยาบาลในโรงพยาบาลเฉพาะทางโรคมะเร็ง เขตภาคกลาง. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 2557; 8 (1): 17-27.
13. กฤษดา แสวงดี. คุณภาพชีวิตพยาบาล. 2558. [ออนไลน์]. [สืบค้น 28 กค. 2559]; เข้าถึงได้จาก : URL:https://www.hfocus.org/ content/2015/02/9250
14. สุพรรณี พุ่มแฟง, บุญใจ ศรีสถิตนรากูร. ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดในงานของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลตติยภูมิ. วารสารเกื้อการุณย์ 2558; 22(2) : 140-53.
15. อมรรัตน์ เบญจางคประเสริญ และคณะ. ความเครียดของพยาบาลโรงพยาบาลเบตง. การประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 7 ; 1-3 กันยายน 2542 ; ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้จอมเทียน. จังหวัดชลบุรี. 2542: 384-85.
16. วีรวัฒน์ ทางธรรม, สุรินธร กลัมพากร, สุนีย์ ลํากําปั่น. การวิจัยและพัฒนาหลักสูตรปัจจัย ทำนายความเครียดจากการทํางานของพยาบาลชายในประเทศไทย. วารสารกองการพยาบาล. 2557; 41(2): 6-22.
17. ธิติ ดวงสร้อยทอง, ขจรวรรณ เชาวกระแสสินธุ์. ความเครียดและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของพยาบาล สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี. วารสารวิชาการสาธารณสุข. 2557; 23(4): 695-03.
18. พีรญา ไสไหม, สรวดี ยอดบุตร, ไสว นรสาร, กรองได อุณหสูต. ความเครียดของพยาบาลหัวหน้าเวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร. วารสารสาธารณสุขศาสตร์. 2557; 44(2): 174-88.
19. ทิวา กลันเรืองแสง. ปัจจัยที่มีผลต่อความเครียดในการปฏิบัติงานของพยาบาลห้องผ่าตัด โรงพยาบาลตํารวจ.สารวิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ. 2552; 8(1): 12-23.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกเพื่อการพัฒนางานด้านวิชาการ แต่ต้องได้รับการอ้างอิงที่ถูกต้องเหมาะสม