ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ต่อความร่วมมือในการรับประทานยา และผลตรวจเสมหะในผู้ที่เป็นวัณโรคปอดรักษาซ้ำ

Main Article Content

นิภาพร ฝางคำ
ปชาณัฎฐ์ นันไทยทวีกุล
ศิรินภา จิตติมณี

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เปรียบเทียบความร่วมมือในการรับประทานยาในผู้ที่เป็นวัณโรคปอดรักษาซ้ำ ก่อนและหลังได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ เปรียบเทียบความร่วมมือในการรับประทานยาในผู้ที่เป็นวัณโรคปอดรักษาซ้ำ หลังได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ และกลุ่มที่ได้รับการพยาบาลปกติ ประเมินผลการตรวจเสมหะจากพบเชื้อเป็นไม่พบเชื้อวัณโรคในผู้ที่เป็นวัณโรคปอดรักษาซ้ำ หลังได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ รูปแบบการศึกษาเป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (quasi-experimental research) แบบสองกลุ่มวัดผลก่อนและหลังการทดลอง (The pretest-posttest design) กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นวัณโรคปอดรักษาซ้ำ ทั้งเพศชายและเพศหญิง อายุ 20-60 ปี มารับการรักษาที่คลินิกวัณโรค ณ โรงพยาบาลตติยภูมิแห่งหนึ่ง แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 30 คน และกลุ่มควบคุม 30 คน โดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองฯ ประกอบด้วยการให้ความรู้ การให้การปรึกษา การจดบันทึกการรับประทานยาและมีการติดตามผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ในระหว่างเดือน เมษายน 2568 ถึง มิถุนายน 2568 ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา เปรียบเทียบความแตกต่างด้วยสถิติที (t-test) และการทดสอบของฟิชเชอร์


ผลการศึกษาพบว่าความร่วมมือในการรับประทานยาในผู้ที่เป็นวัณโรคปอดรักษาซ้ำ ภายหลังได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์มากกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นอกจากนั้นความร่วมมือในการรับประทานยาในผู้ที่เป็นวัณโรคปอดรักษาซ้ำ ภายหลังได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์สูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมฯ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สำหรับผลตรวจเสมหะในผู้ที่เป็นวัณโรคปอดรักษาซ้ำ หลังได้รับโปรแกรมการจัดการตนเองโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ พบว่าเปลี่ยนเป็นไม่พบเชื้อ สูงกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ดังนั้นโปรแกรมการจัดการตนเองโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์สามารถส่งเสริมความร่วมมือในการรับประทานยาในผู้ที่เป็นวัณโรคปอดรักษาซ้ำได้ และควรนำไปบูรณาการในการดูแลผู้ป่วยในระบบบริการตามปกติ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
ฝางคำ น, นันไทยทวีกุล ป, จิตติมณี ศ. ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ต่อความร่วมมือในการรับประทานยา และผลตรวจเสมหะในผู้ที่เป็นวัณโรคปอดรักษาซ้ำ. วารสาร สปคม. [อินเทอร์เน็ต]. 8 ธันวาคม 2025 [อ้างถึง 30 ธันวาคม 2025];10(2):309-28. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/iudcJ/article/view/280385
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เอกสารอ้างอิง

World Health Organization. Global tuberculosis report 2024. Geneva: World Health Organization; 2024.

สำนักวัณโรค. แนวทางการควบคุมวัณโรค ประเทศไทย พ.ศ.2561 National Tuberculosis Control Programme Guideline, Thailand 2018. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2561.

Al-Salmi Z. Anti-tuberculosis drug-induced hepatitis in renal transplant patient with pulmonary and extra pulmonary tuberculosis. Saudi Pharm J. 2012 Apr;20(2):181-5

ธัญรดี วิไลเนตร, พจนีย์ เสงี่ยมจิตต์. ปัจจัยที่จำแนกความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยวัณโรค เสมหะพบเชื้อ. วารสารบัณฑิตวิทยาลัยพิชญทรรศน์. 2554;6(1):27-32.

วราภรณ์ พิมา. การวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและการจัดจำแนกกลุ่มของผู้ป่วยวัณโรคปอดที่เกิดโรคกลับต่อการดื้อยา. [ปริญญานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2555.

กองวัณโรค. แนวทางการควบคุมวัณโรคประเทศไทย พ.ศ. 2564. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2565.

ศุภัชญา สุขกายะ. ปัจจัยที่มีผลต่อการรักษาไม่สำเร็จของผู้ป่วยวัณโรคปอดโรงพยาบาลวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก.พิษณุโลก: ศูนย์อนารมัยที่ 2 พิษณุโลก; 2563.

Sengul A, Akturk UA, Aydemir Y, Kaya N, Kocak ND, Tasolar FT. Factors affecting successful treatment outcomes in pulmonary tuberculosis: a single-center experience in Turkey, 2005-2011. J Infect Dev Ctries. 2015 Aug 29;9(8):821-8.

พรพิมล รัศมีวงษ์จันทร์. การพัฒนาระบบการบริบาลทางเภสัชกรรมในผู้ป่วยวัณโรค อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี. วารสารสหวิชาการเพื่อสุขภาพ. 2566;5(1):38-54.

Das R, Baidya S, Das JC, Kumar S. A study of adherence to DOTS regimen among pulmonary tuberculosis patients in West Tripura District. Indian J Tuberc. 2015 Apr;62(2):74-9.

Zhang J, Yang Y, Qiao X, Wang L, Bai J, Yangchen T, et al, Factors Influencing Medication Nonadherence to Pulmonary Tuberculosis Treatment in Tibet, China: A Qualitative Study from the Patient Perspective. Patient Prefer Adherence. 2020 Jul 10;14:1149-58.

Jauhar M, Nursasi AY, Wiarsih W. Evaluation of impact self-management counseling on health-seeking behavior's self-efficacy pulmonary tuberculosis outpatients. Enfermería Clínica . 2019;29(Suppl 2):482-7. DOI:10.1016/j.enfcli.2019.04.072.

Kanfer FH, Gaelick-Bays L. Self-management method. In: AP Goldsteinn, editors. Helping people change: a textbook of methods. 4th ed. New York: Pergamon press; 1991. p. 305-60.

Ibrahim LM, Hadejia IS, Nguku P, Dankoli R, Waziri NE, Akhimien MO, et al. Factors associated with interruption of treatment among Pulmonary Tuberculosis patients in Plateau State, Nigeria. 2011. Pan Afr Med J. 2014 Jan 31;17:78. doi: 10.11604/pamj.2014.17.78.3464.

Mukarsa S, Sumpowthong K. Effects of a health promotion program by applying the theory of empowerment in new smear positive pulmonary tuberculosis patients. Journal of Medicine and Health Sciences. 2017;24(1):13-27.

ประดิษฐ์ ปฐวีศรีสุธา. ผลของโปรแกรมการให้ความรู้และการรักษาภายใต้การสังเกตโดยตรง โดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ต่อการรับประทานยาอย่างต่อเนื่องในผู้ป่วยวัณโรคปอด. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ. 2564;14(2):301-9.

Chaves Torres NM, Quijano Rodríguez JJ, Porras Andrade PS, Arriaga MB, Netto EM. Factors predictive of the success of tuberculosis treatment: A systematic review with meta-analysis. PLoS One. 2019 Dec 27;14(12):e0226507. doi: 10.1371/journal.pone.0226507.

นันทพร เชยชัยภูมิ. ปัจจัยทำนายความร่วมมือในการรับประทานยาของผู้ป่วยวัณโรคปอดรักษาซ้ำ [ปริญญานิพนธ์

ปริญญาพยาบาลศาตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2555.

สมพร พงศ์ชู, น้ำอ้อย ภักดีวงศ์, วารินทร์บินโฮเซ็น. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและผลการรักษาของผู้ป่วยเอดส์ที่ติดเชื้อวัณโรคปอด. วารสารสถาบันบำราษนราดูร. 2551;2(1):40-55.

กองวัณโรค. แผนปฏิบัติการระดับชาติ ด้านการต่อต้านวัณโรค ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 - 2570). กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2566.

มาลิณี ธัญรัตน์ศรีสกุล, เกียรติกำจร กุศล, สายฝน เอกวรางกูร. การส่งเสริมให้ผู้ป่วยวัณโรคกินยาอย่างต่อเนื่อง.วารสารวัณโรค โรคทรวงอกและเวชบำบัดวิกฤต. 2553;31(3):111-8.

พุทธิไกร ประมวล, จิราพร เขียวอยู่, นงลักษณ์ เทศนา. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนจากเสมหะบวกเป็นเสมหะลบ เมื่อสิ้นสุด 2-3 เดือนแรกของการรักษา ผู้ป่วยวัณโรคปอดเสมหะบวกรายใหม่ ในจังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิจัย มข (ฉบับบัณฑิตศึกษา). 2557;14(4):93-105.

สมภพ มหัทธนพรรค, สุมาลี ติรรัชกุล, นัทยา ทัศเทียมพงษ์, เพียงใจ ดอนคำมูล, กนกวรรณ แสงสว่าง. ผลการเปลี่ยนแปลงของเสมหะจากบวกเป็นลบในผู้ป่วยวัณโรคปอด: การใส่หน้ากากป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ 2 สัปดาห์ นานพอหรือไม่ ?. ลำปางเวชสาร. 2554;32(2):60-73.

พันธ์ชัย รัตนสุวรรณ. การรักษาวัณโรค: DOT vs. VOT. วารสารสถาบันบำราศนราดูร. 2561;12(1):43-7.