การศึกษาการคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี และซี ในผู้รับบริการกลุ่มเสี่ยงที่มารับบริการ ณ ศูนย์นวัตกรรมคลินิกเขตเมือง
Main Article Content
บทคัดย่อ
โรคไวรัสตับอักเสบบีและซีเป็นโรคที่มีความสำคัญในประเทศไทย เนื่องจากทำให้เกิดโรคตับอักเสบตับแข็ง และมะเร็งตับ ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะมีการคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี และซี ในผู้รับบริการกลุ่มเสี่ยงที่มารับบริการ ณ ศูนย์นวัตกรรมคลินิกเขตเมือง โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อค้นหาและส่งต่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ลดการแพร่เชื้อและลดโอกาสป่วยของโรค โดยเก็บข้อมูล ระหว่างพฤศจิกายน ถึ งเดือน ธันวาคม 2563 จำนวน 208 รายเครื่องมือที่ใช้ แบบบันทึกข้อมูลตามแบบที่กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรคกำหนด และผลการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี และซี โดยใช้ชุดตรวจ Rapid test นำมาวิเคราะห์ผลใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงวิเคราะห์ paired t- test
ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 208 ราย เป็นเพศหญิง ร้อยละ 62.0 อายุส่วนใหญ่ระหว่าง 50-59 ปี ร้อยละ 26.9 สถานภาพส่วนใหญ่ คู่ ร้อยละ 43.8 โสด ร้อยละ 40.4 ศาสนาพุทธ ร้อยละ 96.9 สัญชาติไทย ร้อยละ 84.4 อาชีพข้าราชการ/พนักงานราชการ ร้อยละ 20.7 รับจ้าง ร้อยละ 18.3ไม่มีโรคประจำตัว ร้อยละ 63.3 มีโรคประจำตัว ร้อยละ 36.5 ส่วนใหญ่ มีโรคไขมันในเส้นเลือดสูง ร้อยละ 25.0 ผลการตรวจคัดกรอง พบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี 2 ราย ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี 1 ราย รวมเป็น 3 ราย และความเสี่ยงของผู้รับบริการ ผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2535 และผู้ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่เคยถูกเข็มหรือของมีคมตำขณะปฏิบัติหน้าที่ มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี และซี ผู้ที่เคยได้รับเลือด หรือสารเลือด ก่อนปี พ.ศ. 2535 มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยเคยสักผิวหนัง เจาะหู ฝังเข็ม ในที่ที่ไ ม่ใช่สถานพยาบาล และเคยใช้ของมีคมบางชนิดร่วมกับผู้อื่น เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ เป็นต้น มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี
สรุป ผู้รับบริการที่มีความเสี่ยง ควรได้รั บการคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี และซี เพื่อค้นหาและส่งต่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ลดการแพร่เชื้อและลดโอกาสป่วยด้วยโรคไวรัสตับอักเสบ บี และซีตามเป้าหมายการดำเนินงานกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่พิมพ์ในวารสารสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ถือว่าเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัยและวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง ไม่ใช่ความเห็นของสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง หรือคณะบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน
เอกสารอ้างอิง
กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. (2564). กรมควบคุมโรค เร่งสร้างความรอบรู้เรื่อง “โรคไวรัสตับอักเสบบี” ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม หวังยุติภายใน 9 ปี. [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2565]. แหล่งข้อมูล : https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=21693&deptcode=brc&news_views=3235
ศูนย์ประสานงานโรคตับอักเสบจากไวรัส กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. (2563). แนวทางการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ ซี ประเทศไทย (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: เจ เอส การพิมพ์.
ศูนย์ประสานงานสำนักโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. (2564). กรมควบคุมโรค เร่งสร้างความรอบรู้เรื่อง “โรคไวรัสตับอักเสบบี” ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้ามหวังยุติภายใน 9 ปี. [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2565]. แหล่งข้อมูล : https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=21693&deptcode=brc&news_views=3235
ศูนย์ประสานงานโรคตับอักเสบจากไวรัส สำนักโรคเอดส์วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2560). แผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไวรัสตับอักเสบ พ. ศ. 2560-2564 (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: เจ เอส การพิมพ์.
กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. (2564). แนวคิด การรณรงค์ วันตับอักเสบโลก ประจำปี 2563 กำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ภายในปี2573 : Eliminate Hepatitis B and C 2030. [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2565]. แหล่งข้อมูล : https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=21693&deptcode
คณะสาธารณสุขศาสตร์. การศึกษาทบทวนชุดสิทธิประโยชน์ภายใต้หลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ ในการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี ในประชากรกลุ่มเสี่ยง ประเทศไทย 2564 ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประเทศไทย ปี 2564. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
เกรียงศักดิ์ ฤชุศาศวัต.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์.การตรวจประเมินคุณภาพของชุดนํ้ายาตรวจแอนติเจนของ เชื้อไวรัสตับอักเสบ บี แบบรวดเร็วในประเทศไทย. กรุงเทพฯ. [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564]. แหล่งข้อมูล : http://nih.dmsc.moph.go.th/research/showimgdetil.php?id=595
Oberste MS, Maher K, Williams AJ, et al. Species-specific RT-PCR amplification of human enteroviruses: a tool for rapid species identification of uncharacterized enteroviruses. J Gen Virol 2007; 87: 119-128
Nix WA, Oberste MS, Pallansch MA. Sensitive, SeminestedPCR Amplification of VP1 Sequences for Direct Identification of All EnterovirusSerotypes from Original Clinical Specimens. J Clin Microbiol 2007; 44(8): 2798-2704.
เพ็ญแข แสงแก้ว. (2541). การวิจัยทางสังคมศาสตร์, พิมพครั้งที่ 3 กรุงเทพมหานคร โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เอกชัย แดงสอาด.(2562). ความชุกของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ และการได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีในกลุ่มผู้มารับบริการชาย คลินิกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร. วารสารกรมควบคุมโรค ปีที่ 45 ฉบับที่ ม.ค – มี.ค. 2562
Otta JJ. Stevens GA, Groeger J. Wiersma ST. Global epidemiology of hepatitis B virus infection: new estimates of age-specific HBsAg seroprevalence and endemicity. Vaccine 2012; 30:2212-9
Risbud A, Mehendale S, Basu S, Kulkarni S, Walimbe A, Arankalle, et al. Prevalence
and incidence of hepatitis B infection in STD clinic attendees in Peru, India. Sex Transm Infect 2002;78:169-73.
Duynhoven YT van, Laar MJW van de, Schop WA, Rothbarth WI, Rothbarth PhH, Loon AM van, et al. Prevalence and risk factors for hepatitis B virus infections among visitors to an STD clinic. Genitourin Med 1997;73:488-92.
ไกลตา ศรีสิงห์ และธิติมา เงินมาก. (2558) ..ศึกษาความชุกไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังในจังหวัดพิษณุโลก. วารสารกุมารเวชศาสตร์ ฉบับที่ ก.ค – ก.ย. 2558.
บุณยานุช ขันไชยวงค์. (2559) . การศึกษาการติดเชื้อและการมีภูมคุ้มกันต่อไวรัสตับเสบบี ในเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยง โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง. [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564]. แหล่งข้อมูล : https://www.lpch.go.th/km/index.php/km/read/3/223
จีรนันท์ จันทร์เมฆา.ความชุกและปัจจัยเสี่ยงของภาวะภูมิคุ้มกันโรคไวรัสตับอักเสบบีในบุคลากรทางการแพทย์. ศรีนครินทร์เวช. [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564]. แหล่งข้อมูล : http://www.smj.ejnal.com/e-journal/showdetail/?show_detail=T&art_id=1655
ส่องหล้า จิตแสง. การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ. วารสารสรรพสิทธิเวชสาร ประจำเดือนมกราคม-ธันวาคม 2562 ปีที่ 40 ฉบับที่ 1-3 น.62.
นพ.ทวีศักดิ์ แทนวันดี. ไวรัสตับอักเสบ” ภัยเงียบก่อตับแข็ง – มะเร็งตับ. [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้น เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565]. แหล่งข้อมูล : https://mgronline.com/qol/detail/9590000073625