การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยโมเดลการกักกันชุมชน Clean Community Anti Covid 2019; CCA กรณีศึกษา ชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร

Main Article Content

พญ.สุธี สฤษฎิ์ศิริ
โสภณ เอี่ยมศิริถาวร
พิไลพันธ์ พุธวัฒนะ
สุรัคเมธ มหาศิริมงคล
ปรีดา แต้อารักษ์
ณัฐฐิญา โสพิศพรมงคล
ศิริพร งามขำ
ธิติพร คมแท้
สุรีรัตน์ อุสารัมย์

บทคัดย่อ

เดือนเมษายน 2564 ประเทศไทยเผชิญวิกฤตการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอก 3 โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ที่มีประชากรหนาแนน พบสายพันธุ์อังกฤษ หรือ B.1.1.7 ที่แพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ปกติถึง 1.7 เท่า ผู้ป่วยไม่ได้แสดงอาการหลังจากได้รับเชื้อระยะแรก จนอาการรุนแรง ปัญหามากมายต่อการจัดสรรทรัพยากรทางการแพทย์ จากการสอบสวนโรคพบว่ามีการละเลยมาตรการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล การเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง การปกปิดข้อมูล และการกักตัว จนวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ทีมสอบสวนโรคได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนแออัด 1 ราย เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างและออกนอกชุมชน เนื่องจากเป็นร้านค้า พักอาศัยหนาแน่น ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะพัฒนาโมเดลการกักกันชุมชนเพื่อการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 Clean Community Anti Covid 2019; CCA model โดยการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐและประชาชน วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษามาตรการควบคุมการระบาดในชุมชนโดยการกักกันชุมชน (Community Quarantine) และพัฒนาแนวทางระบบการเฝ้าระวังควบคุมโรค วิธีการศึกษา การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการช่วงที่มีการระบาดระหว่างวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ถึง 4 มิถุนายน 2564 ตั้งแต่วันที่เริ่มพบผู้ป่วย,ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด, ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ตรวจหาเชื้อซ้ำในผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหลังจากกักกันชุมชนครบ 14 วัน และ 21 วัน (หลังเปิดชุมชน 7 วัน) โดย Real time RT-PCR และตรวจหาแอนติบอดี


ผลการศึกษา พบว่าในชุมชนแห่งนี้มีพื้นที่ 4 ไร่ ประชากรทั้งหมด 196 ราย บ้าน 31 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 54.6 อายุเฉลี่ย 35.56 + 21.10 ตั้งแต่ 7 เดือน ถึง 86 ปี มีผู้ป่วยติดเชื้อ 38 ราย คิดเป็นร้อยละ 19.39 พบผู้ป่วยรายแรกในวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 (CCA day 0) รายสุดท้าย 21 พฤษภาคม 2564 จากการตรวจซ้ำผู้สัมผัสเสี่ยงสูงร่วมบ้านผู้ป่วย ผู้ป่วยทั้ง 38 ราย อาศัยอยู่ตามบ้าน 7 หลัง มีความสัมพันธ์เครือญาติและทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในบ้านของผู้ป่วยรายแรก ในบ้านแต่ละหลังมีจำนวนผู้ติดเชื้อคิดเป็นร้อยละ 50 – 100 ของจำนวนสมาชิกในแต่ละบ้าน พบสมาชิกทุกคนในบ้านมีการติดเชื้อ (100%) 3 หลัง จาก 7 หลัง (42.86%) พบการติดเชื้อตั้งแต่ครั้งแรกที่ตรวจ 35 ราย (64.81%) พบการติดเชื้อหลังจากตรวจซ้ำ 3 ราย (5.56%) เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในบ้านที่มีผู้ป่วย หลังจาก CCA วันที่ 14 ได้ตรวจหาภูมิคุ้มกัน 160 ราย ไม่พบภูมิคุ้มกันขึ้น ในผู้สัมผัสเสี่ยงสูงร่วมบ้านผู้ป่วย 14 ราย (77.78%) และในชุมชน 135 ราย (98.54%) และCCA วันที่ 21 หลังเปิดชุมชน 7 วัน ทุกรายไม่พบว่ามีภูมิคุ้มกันขึ้น ดังนั้นหากเกิดการติดเชื้อโควิด 19 ในชุมชนแออัด ควรปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
สฤษฎิ์ศิริ พ, เอี่ยมศิริถาวร โ, พุธวัฒนะ พ, มหาศิริมงคล ส, แต้อารักษ์ ป, โสพิศพรมงคล ณ, งามขำ ศ, คมแท้ ธ, อุสารัมย์ ส. การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยโมเดลการกักกันชุมชน Clean Community Anti Covid 2019; CCA กรณีศึกษา ชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร. วารสาร สปคม. [อินเทอร์เน็ต]. 30 สิงหาคม 2021 [อ้างถึง 26 ธันวาคม 2025];6(1):152-74. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/iudcJ/article/view/250181
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558. เล่ม 132 ตอนที่ 86 ก 8 กันยายน 2558.

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563

สถานการณ COVID-19 ในประเทศไทย ขอมูล ณ วันที่ 10 เมษายน 2564. ศูนยขอมูล COVID-19 กรมประชาสัมพันธ https://web.facebook.com/informationcovid19/?_rdc=1&_rdr

SARS-CoV-2 Variant Classifications and Definitions https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/cases-updates/variant-surveillance/variant-info.html เข้าถึงเมื่อ 1 พฤษภาคม 2564

Iacobucci, G. (2021). Covid-19: New UK variant may be linked to increased death rate, early data indicate. bmj, 372(230), n230.

สถานการณ COVID-19 ในประเทศไทย ขอมูล ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2564. ศูนยขอมูล COVID-19 กรมประชาสัมพันธ https://web.facebook.com/informationcovid19/?_rdc=1&_rdr

ธรณินทร์ คุณแขวน. 2555. การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านช่อระกา ตำบล นาฝาย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

สุรัยยา หมานมานะ, โสภณ เอี่ยมศิริถาวร, สุมนมาลย์ อุทยมกุล. โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) วารสารสถาบันบำราศนราดูร ปีที่ 14 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2563

Wang, P. (2020). Combination of serological total antibody and RT-PCR test for detection of SARS-COV-2 infections. Journal of virological methods, 283, 113919.

ปรีดา แต้อารักษ์, จันทนา เบญจทรัพย์, ขจีรัตน์ ปรักเอโก, สมเกียรติ พิทักษ์กมลพร, ทิพิชา โปษยานนท์, กนกวรรณ รับพรดี และคณะ. แนวปฏิบัติในการปองกันและเฝาระวังโรคโควิด-19 ของชุมชน รวมพลังพลเมืองตื่นรู สูภัยโควิด-19 ระลอก 3. นนทบุรี: สำนักงาน คณะ กรรมการ สุขภาพ แห่ง ชาติ (ส ช), สำนัก วิชาการ และ นวัตกรรม (สวน.); 2564

เกตุดาว ร, เที่ยงตรงดี อ, โทอินทร์ ภ. Development of Covid-19 Surveillance Prevention and Control Model Health Promoting Hospital in Sub-district Level, Udonthani Province-Udon Model COVID-19-การพัฒนารูปแบบการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019. J Health Sci [Internet]. 2021Feb.25 [cited 2021Jun.13];30(1):53-61. เข้าถึงจาก: https://thaidj. org/index.php/JHS/article/view/9845

Prasetyo, Y. T., Castillo, A. M., Salonga, L. J., Sia, J. A., & Seneta, J. A. (2020). Factors affecting perceived effectiveness of COVID-19 prevention measures among Filipinos during enhanced community quarantine in Luzon, Philippines: Integrating Protection Motivation Theory and extended Theory of Planned Behavior. International journal of infectious diseases, 99, 312-323.

กิตติพร เนาว์สุวรรณ. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความรุนแรงของโรคต่อบทบาทการดำเนินงานควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในชุมชนของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในประเทศไทย. วารสารสถาบันบำราศนราดูร, 14(4), 92-103.

เยาวลักษณ์ ชาวบ้านโพธิ์. (2563) บทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้านในการป้องกันการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 อําเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ. วารสารรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 4(1), 44-58.