การศึกษาสถานการณ์สุขภาพและการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันภาวะถดถอยทางกายในผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคม จังหวัดสระบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจภาวะถดถอยทางกายของผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคม ของจังหวัดสระบุรี และแนวทางการดำเนินงานด้านการส่งเสริม ป้องกันผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคมที่มีภาวะถดถอยทางกาย กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคม จำนวน 60,494 คน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 103 คน ประกอบด้วย สมาชิกครอบครัวผู้สูงอายุ ผู้นำชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุข และบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบประเมินภาวะถดถอย และการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิง พรรณนา และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า ผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคม อายุระหว่าง 60 - 69 ปี ไม่พบภาวะถดถอยทางร่างกาย (ร้อยละ 54.71) และพบภาวะถดถอยทางกาย (ร้อยละ 45.29) ปัญหาที่พบสูงสุด คือ ภาวะถดถอยด้านการมองเห็น (ร้อยละ 63.14) ด้านช่องปาก/การขบเคี้ยว (ร้อยละ 45.44) และด้านการเคลื่อนไหว (ร้อยละ 36.80) ในขณะที่สังคมสระบุรีตระหนักต่อปัญหาสำคัญ 3 ด้าน คือ (1) ภาวะถดถอยด้านการเคลื่อนไหว (2) ภาวะถดถอยด้านความคิดความจำ และ(3) ภาวะถดถอยด้านการขาดสารอาหารและการกลั้นปัสสาวะ และแนวทางการส่งเสริมป้องกันภาวะถดถอยประกอบด้วย (1) ผู้สูงอายุต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของตนเอง (2) ครอบครัวต้องเรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติผู้สูงอายุสังเกต ดูแล ช่วยเหลือ ให้กำลังใจ (3) ชุมชนหรือสังคม สนับสนุนทรัพยากรส่งเสริมให้มีกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ และ (4) ผู้ให้บริการสุขภาพ มีการตรวจคัดกรอง และจัดระบบบริการสุขภาพแบบครอบคลุมผสมผสาน และจัดระบบการส่งต่อแบบไร้รอยต่อ
Article Details
บทความที่พิมพ์ในวารสารสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ถือว่าเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัยและวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง ไม่ใช่ความเห็นของสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง หรือคณะบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน
เอกสารอ้างอิง
[อินเทอร์เน็ต]. 2563 [สืบค้นเมื่อ 20 ก.ย. 2563]. แหล่งข้อมูล: https://www.unfpa.org/sites/default/files/pub-
pdf/Thai%20summary_Ageing%20in%20the%2021st%20Century_0.pdf
2. มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2559 [อินเทอร์เน็ต]. 2560
[สืบค้นเมื่อ 20 ก.ย. 2563]. แหล่งข้อมูล: https://thaitgri.org/?p=38427
3. สมศักดิ์ ศรีสันติสุข. สังคมวิทยาภาวะผู้สูงอายุ: ความเป็นจริงและการคาดการณ์ในสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร: สานัก
พิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550.
4. กระทรวงสาธารณสุข. แผนการตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 [อินเทอร์เน็ต]. 2563
[สืบค้นเมื่อ 20 ก.ย. 2563]. แหล่งข้อมูล: http://bie.moph.go.th/
5. กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. แผนพัฒนาสุขภาพจิตแห่งชาติ ฉบับที่ 1
(พ.ศ. 2561 - 2580) [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [สืบค้นเมื่อ 23 ก.ย. 2563]. แหล่งข้อมูล: http://www.stopcorruption.moph.go.th
6. กรมสุขภาพจิต. พม.จ่อชงผู้สูงอายุเป็น "วาระแห่งชาติ" เผยตัวเลขคนแก่ติดบ้าน 2 ล้านคนเสี่ยงซึมเศร้า [อินเทอร์เน็ต].
2561 [สืบค้นเมื่อ 22 ก.ย. 2563]. แหล่งข้อมูล: https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=28216
7. ปราโมทย์ ประสาทกุล. รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทยประจำปี 2559. กรุงเทพฯ: บริษัท พริ้นเทอรี่ จำกัด 999, 2559.
8. วิชัย เอกพลากร. รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557. นนทบุรี:
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2557.
9. WHO. ACTIVE AGEING: A POLICY FRAMEWORK. Geneva: World Health Organization, 2002.
10. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงแห่งมนุษย์คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ. แผนผู้สูงอายุ แห่งชาติฉบับที่ 2
(2545 - 2564). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เทพวานิสย์, 2553.
11. กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. มาตรการขับเคลื่อนระเบียบวาระแห่งชาติ
เรื่อง สังคมสูงอายุ (ฉบับปรับปรุง) (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด
(มหาชน), 2562.
12. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี. (2562). ผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ปี : 2562
(เฉพาะงบดำเนินงาน) สระบุรี [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [สืบค้นเมื่อ 22 ก.ย. 2563]. แหล่งข้อมูล: http://164.115.23.235:8080/
sms2020/report/v_cipp_11110.php?projmoph_id=01&prov=19&zone=04
13. กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการคัดกรอง/ประเมินผู้สูงอายุ (พิมพ์ครั้งที่ 2). สำนักงานกิจการโรงพิมพ์
สงเคราะห์องค์การทหารผ่านศึก, 2558.
14. Borson, S. S., Brush, M., Vitaliano, P., & Dokmak, A. The Mini-Cog: A cognative "vital signs" measure for
dementia screening in ulti-lingual elderly.International Journal of Geriatric Psychiatry 2000, 15 (11), 1021-1027.
15. ชุติมา ชลายนเดชะ. คัดกรองการล้มด้วย Timed Up and Go Test (TUG). วารสารเทคนิคการแพทย์และกายภาพ
บำบัด 2557, 26 (1), 1-16.
16. กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการดูแลเฝ้าระวังโรคซึมเศร้า ระดับจังหวัด (พิมพ์ครั้งที่ 4).
กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2552.
17. ประเสริฐ อัสสันตชัย. ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุและการป้องกัน (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ:
ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคมคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, 2554.
18. เก็จกนก เอื้อวงศ์. การสนทนากลุ่ม: เทคนิคการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพที่มีประสิทธิภาพ. วารสารศึกษาศาสตร์ มสธ.
2562, 12 (1), 17-30.
19. พวงรัตน์ ทวีรัตน์. วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, 2540.
20. ปฐมพร ธรรมธวัช. ความสัมพันธ์ของการเตรียมตัวก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุและความพึงพอใจในชีวิต ของผู้สูงอายุใน
เทศบาลนครนครศรีธรรมราชจังหวัดนครศรีธรรมราช [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2555.
21. จีราพร ทองดี, ดาราวรรณ รองเมือง, และฉันทนา นาคฉัตรีย์. ภาวะสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในจังหวัด
ชายแดนภาคใต้. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข 2556, 22(3), 88-99
22. กาญจนา ปัญญาธร. ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคัดสรรกับความมั่นคงในชีวิตของผู้สูงอายุ จังหวัดอุดรธานี. วารสาร
พยาบาลกระทรวงสาธารณสุข 2556, 22(3), 24-36.
23. จิรังกูร ณัฐรังสี, สุนิตา ไชยมี, สุวนันท์ จังจิตร, สุภาวินี สุภะพินิ และสุปรียา โพธิ์อุดม. ความสามารถในการ
ประกอบกิจวัตรประจำวันและความสุขของผู้สูงอายุ ชุมชนทุ่งขุนน้อย อุบลราชธานี. Journal of Ratchathani
Innovative Health Sciences 2561, 2(1), 50-60.
24. สุภจักษ์ แสงประจักษ์สกุล. วุฒิวัยของผู้สูงอายุไทย [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย; 2557.
25. มาสริน ศุกลปักษ์ และกรัณฑรัตน์ บุญช่วยธนาสิทธิ์. องค์ประกอบด้านสุขภาพตามแนวคิดสภาวะพฤฒพลังของ
ผู้สูงอายุ: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ [วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต]. กรุงเทพฯ :
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2560.