การสำรวจพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของผู้รับบริการในคลินิกโรคผิวหนัง สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงสำรวจ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID -19)) ของผู้รับบริการในคลินิก
โรคผิวหนัง สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนทั่วไปที่มารับบริการในช่วง
เดือน มิถุนายน – สิงหาคม 2563 ณ คลินิกโรคผิวหนัง สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง โดยใช้วิธีการ
เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา
ผลการสำรวจพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของผู้รับบริการในคลินิก
โรคผิวหนัง สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง จำนวน 165 รายพบว่า พฤติกรรมในการป้องกันตนเอง
จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของผู้รับบริการส่วนใหญ่สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้านคิด
เป็นร้อยละ 97.72 ปฏิบัติตามมาตรการทางสังคมได้แก่ ใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ล้างมือ เว้นระยะ
ห่างคิดเป็นร้อยละ 96.66 ล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหารคิดเป็นร้อยละ 91.06 ซึ่งพฤติกรรม
ส่วนใหญ่มีการป้องกันและดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิด ทั้งนี้ควรมีการเพิ่มเติมเรื่องความรู้
และความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้าไปด้วยอย่างต่อเนื่องอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิด
พฤติกรรมการป้องกันตนเองต่อไปอย่างยั้งยืน
Article Details
บทความที่พิมพ์ในวารสารสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ถือว่าเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัยและวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง ไม่ใช่ความเห็นของสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง หรือคณะบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือเจ้าหน้าที่ในการตอบโต้ภำวะฉุกเฉิน กรณีการระบาด
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย[อินเทอร์เน็ต]. 2563. [เข้าถึงเมื่อ 10 มิถุนายน 2563]. เข้าถึงได้จาก:https://ddc.moph. go.th/viralpneumonia/file/g_health_care/g07_ppe.pdf
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. คำแนะนำกำรใช้อุปกรณ์ส่วนบุคคลป้องกันการติดเชื้อ
(Personal Protective Equipment, PPE) ฉบับ วันที่ 20 เมษายน 2563[อินเทอร์เน็ต].2563. [เข้าถึงเมื่อ10 สิงหาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก:https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/g_health_care/g07_ppe_200463.pdf
จารุวรรณ แหลมไธสง. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมป้องกันโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจของผู้ดูแลเด็กปฐมวัยในศูนย์เด็กเล็กกรุงเทพมหานคร[อินเทอร์เน็ต]. 2563. [เข้าถึงเมื่อ 28 กรกฎาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก: http://thaiphn.org/journal/thai/2562/่jounal1_62/1%20%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93.pdf
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทำงเวชปฏิบัติกำรวินิจฉัยดูแลรักษำและป้องกัน
กำรติดเชื้อในโรงพยำบำลกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับปรับปรุง วันที่ 1 พฤษภำคม พ.ศ. 2563สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข [อินเทอร์เน็ต]. 2563. [เข้าถึงเมื่อ 28 มิถุนายน 2563]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go. th/viralpneumonia/file/g_health_ care/g05_ 010563.pdf
Farah M, Ibtissam AF, Salim G. A Review of the Dermatological Manifestations of Coronavirus Disease 2019 (COVID-19). Dermatology Research and Practice [internet]. 2020[cited 2021 Mar 5]:2020:1-9. Available from: https://doi.org/10.1155/2020/9360476
Jiajia L, Zexing S, Xiaoping M, Hang L, Yan L, Liyun D, et al. Skin damage among health care workers managing coronavirus disease-2019. Journal of the American Academy of Dermatology[internet]. 2020[cited 2021 Mar 5];82:1215-16. Available from: https://doi.org/10.1016/j.jaad.2020.03.014
กลุ่มฉุกเฉินทางการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. แนวทำงกำรจัดเตรียมพื้นที่ กรณีมีกำรระบำดในวงกว้ำงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) : โรงพยำบำลสนาม [อินเทอร์เน็ต]. 2563. [เข้าถึงเมื่อ 30 สิงหาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph. go.th/viralpneumonia/file/g_health_care/g06.pdf
สำนักงานป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อและเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล สถาบันบำราศนราดูร. ข้อแนะนำแนวปฏิบัติกำรป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ กรณีโรคโคโรนาไวรัสสำยพันธุ์ใหม่ 2019 (Novel Corona virus: nCoV)(ฉบับวันที่ 3 กุมภำพันธ์ 2563)[อินเทอร์เน็ต].2563. [เข้าถึงเมื่อ10มิถุนายน2563].เข้าถึงได้จาก:https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/g_ health_care/ G32.pdf
คณะทำงานด้านการรักษาพยาบาลและการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ จากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ. แนวทำงกำรจัดระบบบริกำรของโรงพยำบำลกรณีมีกำรระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในวงกว้ำง(ร่ำง) ฉบับวันที่ 2 มีนำคม พ.ศ. 2563[อินเทอร์เน็ต].2563. [เข้าถึงเมื่อ1 มิถุนายน 2563]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/ viralpneumonia/file/g_health_care/G33_2.pdf
บุษกร พันธ์เมธาฤทธิ์, ลักขณา คงแสง, จุฑารัตน์ คงเพ็ชร, ปราณี คำจันทร์,ลดาวัลย์ ประทีป ชัยกูร,
พรทิพย์ พูลประภัย. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมกำรดูแลเด็กของผู้ปกครองในกำรป้องกันควบคุมโรคติดต่อที่บ้าน. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์ 2562; 39(2):23-63.
จีระศักดิ์ เจริญพันธ์และเฉลิมพล ตันสกุล. (2550). พฤติกรรมสุขภำพ Health behavior. พิมพ์ครั้งที่ 6. มหาสารคาม: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
Genovese G, Moltrasio C, Berti E, Marzano A.V. Skin Manifestations Associated with COVID-19: Current Knowledge and Future Perspectives. Dermatology[internet]. 2021[cited 2021 Mar 5];237:1-12. Available from: https://doi.org/10.1159/000512932
Razvigor D and Nikolai T. Covid-19 pandemic and the skin - What should dermatologists know?. Clinics in Dermatology[internet]. 2020[cited 2021 Mar 5];38:785-7. Available from: https://www.ncbi.nlm. ih.gov/pmc/articles/PMC7102542/pdf/main.pdf
กมลรัตน์ (ศักดิ์สมบูรณ์) เทอร์เนอร์และศุภาพิชญ์ (มณีสาคร) โฟน โบร์แมนน์. พฤติกรรมกำรใช้บริการสุขภาพและกำรรับรู้คุณภาพบริการสุขภาพของชาวต่างชาติในประเทศไทย.วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข[อินเตอร์เน็ต]. 2556. [เข้าถึงเมื่อ 5 มีนาคม 2564];23:1:1-14. เข้าถึงได้จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/tnaph/article/ view/9816