การพัฒนารูปแบบการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยากลุ่ม Carbapenem Resisteance Enterobacteriaceae ในหอผู้ป่วยอายุรกรรมโรคเลือดและมะเร็ง โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
อัตราการติดเชื้อดื้อยา CRE ในหอผู้ป่วยอายุรกรรมโรคเลือดและมะเร็งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้น พบว่ายังไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ CRE การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและประเมินผลลัพธ์ของรูปแบบการป้องกันการแพร่กระจายชองเชื้อดื้อยา CRE กลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจง แบ่งเป็น 2 กลุ่มได้แก่ 1) ผู้ป่วยรับใหม่ของหอผู้ป่วยอายุรกรรมโรคเลือดและมะเร็ง จำนวน 270 คน 2) ผู้เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย 2 กลุ่ม คือผู้กลุ่มบริหาร และกลุ่มผู้ปฏิบัติ จำนวน 32 คน ดำเนินการตามแนวคิดการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ระหว่างเดือนธันวาคม 2561 - กรกฎาคม 2562 เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล คือ แบบประเมินการติดเชื้อดื้อยาของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบสังเกตเพื่อติดตามการปฏิบัติ ตรวจสอบความตรงของเนื้อหา และหาค่าความเชื่อมั่นโดยวิธี Intra-rater reliability เท่ากับ 1 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา และข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์ด้วยค่าความถี่และร้อยละ
ผลการวิจัย พบว่า (1) รูปแบบการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยากลุ่ม CRE มีองค์ประกอบดังนี้ การคัดกรอง ความรู้ของเจ้าหน้าที่ การล้างมือ การแยกผู้ป่วยและสื่อสาร การใช้อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย การอาบน้ำด้วย 4% CHG และการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม (2) ผลลัพธ์ของการใช้รูปแบบการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยากลุ่ม CRE ด้านการปฏิบัติตามแนวทาง พบว่า การคัดกรองปฏิบัติ ร้อยละ 89.66 การแยกผู้ป่วยและการสื่อสารปฏิบัติได้ร้อยละ 83.98 การล้างมือและการใช้อุปกรณ์ป้องกันร่างกายปฏิบัติร้อยละ 84.70 การแยกของใช้ปฏิบัติร้อยละ 81.50 การทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมประจำวันปฏิบัติร้อยละ 84.50 และการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมเมื่อจำหน่ายปฏิบัติร้อยละ 91.50 ด้านอัตราการติดเชื้อดื้อยามีแนวโน้มลดลงจากร้อยละ 0.52 ในเดือนม.ค. เป็นร้อยละ 0.24 ในเดือนมิ.ย. 2562
ผลการวิจัยนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา CRE ในหอผู้ป่วยอื่นที่มีบริบทคล้ายคลึงกัน
Article Details
บทความที่พิมพ์ในวารสารสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ถือว่าเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัยและวิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง ไม่ใช่ความเห็นของสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง หรือคณะบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนจำต้องรับผิดชอบต่อบทความของตน
References
กัลยพัทธ์ นิยมวิทย์. (2558). สมรรถนะพยาบาลวิชาชีพควบคุมการติดเชื้อประจำหอผู้ป่วย. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.
กำธร มาลาธรรม, และยงค์ รงค์รุ่งเรือง. (2560). คู่มือปฏิบัติการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล (พิมพ์ครั้งที่ 2). นนทบุรี: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
กุลดา พฤติวรรธน์, รัชนีย์ วงค์แสน, สุทธิพันธ์ ถนอมพันธ์, และสมรรถเนตร ตะริโย. (2560). การเพิ่มประสิทธิผลการดูแลผู้ป่วยเพื่อลดการติดเชื้อดื้อยา แผนกอายุรกรรมและศัลยกรรม โรงพยาบาลนครพิงค์. วารสารกองการพยาบาล, 44(4), 10-33.
คณะทำงานจัดทำคู่มือการวินิจฉัยการติดเชื้อในโรงพยาบาล. (2561). คู่มือวินิจฉัยการติดเชื้อในโรงพยาบาล. นนทบุรี: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
ชมพูนุช พัฒนพงษ์ดิลก. (2558). แนวทางการพัฒนาการปฏิบัติงานของทีมสหวิชาชีพในการช่วยเหลือ ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก และสตรี โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ปทุมธานี. ค้นจาก ethesisarchive.library.tu.ac.th>thesis
ชลดา ผิวผ่อง. (2559). อุบัติการณ์การติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Enterobacteriaceae ที่ดื้อต่อยา Carbapenams โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี. วารสารวิชาการแพทย์ เขต 11, 30(2). 1-12.
ชิษณุ พันธุ์เจริญ. (2559). การสื่อสารด้านโรคติดเชื้อและวัคซีน. กรุงเทพฯ: แอคทีฟพริ้นท์.
ภาณุมาศ ภูมาศ, วิษณุ ธรรมลิขิตกุล, ภูษิต ประคองสาย, ดวงรัตน์ โพธะ, อาทร ริ้วไพบูลย์, และสุพล ลิ้มวัฒนานนท์. (2555). ผลกระทบด้านสุขภาพและเศรษฐศาสตร์จากการติดเชื้อดื้อยาต้านจุล ชีพในประเทศไทย:การศึกษาเบื้องต้น. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข,6(3), 352-360. ค้นจาก https://www.kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/3699?locale-attribute=th
เพชรน้อย สิงห์ช่างชัย. (2550). หลักการและการใช้วิจัยเชิงคุณภาพสำหรับทางการพยาบาลและสุขภาพ.สงขลา: ชานเมืองการพิมพ์.
สถาบันรับรองคุณภาพในสถานพยาบาล. (2561). มาตรฐานโรงพยาบาลและสถานบริการสุขภาพ. ค้นจาก
www.ha.or.th>FileDownload> News> GetDownloads.pdf.
สำนักงานนิเทศและประชาสัมพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข. (2556). สถานการณ์เชื้อดื้อยาปฏิชีวนะในไทย. ค้นจาก
https://www.narst.dmsc.moph.go.th/news001.html
Center for Disease Control and Prevention. (2015). Facility Guidance for Control of Carbapenem-resistant Enterobacteriaceae (CRE). Atlanta, USA. Retrived from http://www.cdc.gov
Sharad, M. A., & Stephen, R. C. (2016). Evaluating the impact of a computerized surveillance algorithm and decision support system on sepsis mortality.Journal of the American Medical Informatics Association, 24(1), 88-95. Retrived from https://www.ncbi.nlm.nih.gov>pub