ภาวะซึมเศร้าของผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงในอำเภอเมือง จังหวัดตาก
Main Article Content
บทคัดย่อ
ความเป็นมา:โรคซึมเศร้าเป็นอาการที่พบได้บ่อยในประชากรทั่วไปและพบได้มากในผู้ใช้บริการสุขภาพระดับปฐมภูมิสถานการณ์ผู้สูงอายุกลุ่มติดเตียงมีจํานวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีผู้สูงอายุกลุ่มติดเตียงนี้จําเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและใกล้ชิดตลอดเวลาซึ่งทําให้ผู้ดูแลเกิดอารมณ์ที่ฉุนเฉียวง่ายรู้สึกไม่มีเวลาเป็นของตัวเองสูญเสียความเป็นส่วนตัวรู้สึกเหมือนผูกติดกับผู้ป่วยถูกแยกจากสังคมขาดเพื่อน รู้สึกเหงา เบื่อหน่าย และเกิดความเครียดสะสมซึ่งสภาพอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ถ้าไม่ได้ รับการแก้ไขจะส่งผลให้ผู้ดูแลเกิดปัญหาทางด้านสุขภาพจิตได้วัตถุประสงค์:เพื่อสํารวจภาวะซึมเศร้าของผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงในอําเภอเมือง จังหวัดตาก
วิธีการศึกษา:เป็นการศึกษาเชิงสํารวจพรรณนาแบบตัดขวางกลุ่มตัวอย่างคือกลุ่มตัวอย่างคือผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงจํานวนผู้ป่วยติดเตียงในอําเภอเมืองจังหวัดตากทั้งหมด90กลุ่มตัวอย่างซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงเก็บรวบรวมข้อมูลโดยแบบสอบถามชนิดถามตอบด้วยตนเองระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2566 ถึง เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2567 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ผลการศึกษา:กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงอายุอยู่ในช่วงอายุ40-49 ปีสถานภาพส่วนมากคือสถานภาพสมรสความสัมพันธ์กับผู้ป่วยติดเตียงมากที่สุดคือ บุตร ระยะเวลาที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงมากที่สุดคือ อยู่ระหว่าง 1-5 ปี ความรู้สึกเป็นภาระในการดูแลผู้ป่วยติดเตียงส่วนมากรู้สึกเป็นภาระชั่วโมงการดูแลผู้ป่วยติดเตียงต่อวันมากที่สุดคืออยู่ระหว่าง 6-10 ชั่วโมง ภาวะซึมเศร้าผลแบบประเมินโรคซึมเศร้า 9 คําถาม (9Q) พบว่ากลุ่มตัวอย่างไม่มีอาการของโรคซึมเศร้าหรือมีอาการของโรคซึมเศร้าระดับน้อยมาก คิดเป็นร้อยละ 27.78 มีอาการของโรคซึมเศร้าระดับน้อย คิดเป็นร้อยละ 22.22 มีอาการของโรคซึมเศร้าระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 16.67 และมีอาการของโรคซึมเศร้าระดับรุนแรง คิดเป็นร้อยละ 33.33
สรุปและข้อเสนอแนะ:ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียงเป็นกลุ่มเสี่ยงและมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าค่อนข้างสูงดังนั้นบุคลากรทางด้านสาธารณาสุขจึงควรมีการคัดกรองภาวะซึมเศร้าในผู้ดูแลทุกรายและควรมีการติดตามภาวะซึมเศร้าเป็นระยะเพื่อป้องกันหรือลดความรุนแรงของภาวะซึมเศร้า
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Wongsuraprakit S, Santiprasitkul S. Situtationof depression in pre-screened risk groups in Muang district, Chiang Rai province. Thai J Nursing Council 2012; 27(3):91-105.
Prayoonwong N. Trend situation and health promotion of elderly bedridden people in Thailand. Journal of Public Health and Innovation. 2022; 2(2): 14-25.
Chanikarn Suaynu, Itsaramalai S, Hatthakit U. Preventing mental health problems among caregivers of bedridden patients in the community. Air Force Medical Journal. 2021; 67(1): 95-106.
Report on statistics of bedridden patients in Tak Province. 3 January 2024. Tak: TakProvincial Public Health Office; 2024.
National Institute of Mental Health (NIMH) [Internet]. Maryland: NIMH; 2024. Depression; 2024 [cited 2024 Nov 22]. Available from: https://www.nimh.nih.gov/health/topics/depression
Fongkerd S, Sinsuesatkul S, Tantalanukul S. Community nurse practitioner’ role in caring family caregivers of bedridden patients. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2020; 21(1): 46-55.
Guidebook of depressive disorders surveillance and care : provincial level [Internet]. Nonthaburi: Department of Mental Health, Ministry of Public Health; 2014 [cited 2024 Nov 22]. Available from: https://www.thaidepression.com/www/58/guidebookdepress.pdf
Akinjananon D, Kaewpraser S. Studied factors and depression of caregivers of bedriddenpatients in Mae Ai district. Journal of Thailand Nursing and Midwifery Council. 2020; 35(2): 85-98.
Chaobon M, Wirojrat W, Wattanakitkrailert D. Factors predicting depression among caregivers of dependent elderly people. Nursing Journal. 2022; 40(3): 90-104