การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไฮโดรเจลพอกเข่าสำหรับบรรเทาอาการปวดเข่า จากลมและเลือดลมติดขัด
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำและวัตถุประสงค์: ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ ผู้สูงอายุมักมีปัญหาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ ซึ่งในปี 2565 คิดเป็นร้อยละ 22.15 ของผู้ป่วยกลุ่มโรคนี้ทั้งประเทศ สร้างความทุกข์ทรมานส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ในปี 2567 โรงพยาบาลสาธิตการแพทย์แผนไทย วิทยาลัยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก ได้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดเข่าจากลมและเลือดลมติดขัด 100 กว่าราย จากผู้เข้ารับบริการกลุ่มโรคกระดูกและกล้ามเนื้อทั้งหมด 1,010 ราย การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาสูตรตำรับยาพอกเข่าสำหรับการรักษาอาการปวดเข่าจากลมและเลือดลมติดขัด 2) พัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรพอกเข่าให้มีรูปแบบทันสมัยเหมาะสมต่อการรักษาอาการปวดเข่าจากลมและเลือดลมติดขัด
วิธีการศึกษา: การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงพัฒนาทำการคัดเลือกสูตรตำรับยาพอกจากตำราแพทย์แผนไทย แล้วนำมาพัฒนาสูตรตำรับและรูปแบบให้ทันสมัย โดยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทย 15 คน ประเมินผลการคัดเลือกตำรับยา และประเมินคุณภาพของผลิตภัณฑ์ยาพอกเข่ารูปแบบใหม่ผ่านวิธีการอภิปรายกลุ่ม โดยใช้เครื่องมือเก็บข้อมูลต่อไปนี้ (1) แบบบันทึกข้อมูลรายการตำรับยาพอกเข่าที่ปรากฏในตำราการแพทย์แผนไทย (2) แบบบันทึกการอภิปรายกลุ่มกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร ครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 และ (3) แบบประเมินคุณภาพผลิตภัณฑ์ โดยตำรับยาพอกเข่าได้รวบรวมจากตำราการแพทย์แผนไทย ได้แก่ ตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวง รัชกาลที่ 5 เล่มที่ 1, 2, ตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ฉบับหลวง เล่ม 1, 2, ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเวชกรรม เล่ม 1, 2, 3, ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไปสาขาเภสัชกรรม, ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาการผดุงครรภ์ และหนังสือตำรับยาแผนโบราณ จากนั้นคัดเลือกตำรับยาพอกเข่าโดยใช้เกณฑ์ เป็นตำรับที่มีรสร้อน มีสรรพคุณแก้ปวด บวม และสลายลม และวัตถุดิบหาง่ายในท้องถิ่น แล้วนำตำรับยาที่คัดเลือกมาพัฒนาเป็นยาพอกเข่ารูปแบบไฮโดรเจล โดยใช้เครื่องทำแผ่นมาสก์หน้าอัตโนมัติ จากนั้นให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินลักษณะทางกายภาพของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาและความสะดวกในการใช้งาน แล้วผู้วิจัยนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงรูปแบบผลิตภัณฑ์
ผลการศึกษา: จากการพิจารณาตำรับยาพอกสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาอาการปวด บวม และนำมาใช้พอกในตำราต่าง ๆ ได้คัดเลือกตำรับ “ยาพอกข้อมือข้อเท้า” จากตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ฉบับหลวง เล่ม 1 หน้า 226 ประกอบด้วย หนาดหลวง, พลับพลึง, ขิง, ดีปลี, กระเทียม, ไพล, ว่านน้ำ, มหาหิงคุ์ อย่างละ 1 ส่วน ผสมน้ำมะนาวกับเหล้า นำมาพัฒนาสูตรตำรับเป็นผลิตภัณฑ์ยาพอกเข่ารูปแบบใหม่ที่เหมาะสมต่อการรักษาอาการปวดเข่าจากลมและเลือดลมติดขัด จากรูปแบบตำพอกมาเป็นรูปแบบแผ่นไฮโดรเจลพอก โดยมีสัดส่วนของน้ำยาพอกสกัด 20 มิลลิตร, น้ำ 60 มิลลิตร, เม็ดคอลลาเจนเปปไทด์ เม็ดละ 100 กรัม จำนวน 2 เม็ด ผลจากการประเมินลักษณะทางกายภาพ พบว่า (1) ผลิตภัณฑ์แผ่นเจลพอกเข่า ใช้วัสดุที่เหมาะสมในการผลิต ร้อยละ 80, มีขนาดเหมาะสม ร้อยละ 86.7 และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ร้อยละ 93.3 (2) ด้านการนำไปใช้งาน ผลิตภัณฑ์ใช้งานง่าย สะดวกสบาย ร้อยละ 66.7 กลิ่นหอมไม่ฉุน ร้อยละ 53.3 ผู้วิจัยดำเนินการปรับปรุงรูปแบบผลิตภัณฑ์ยาพอกเข่าตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ การปรับกลิ่นและรูปแบบยาพอกโดยใช้พลาสเตอร์กันน้ำพันไว้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาไหลซึมออกมาด้านนอก
อภิปรายผล: การพัฒนาสูตรตำรับยาพอกเข่าได้คัดเลือกตำรับที่มี หนาดหลวง พลับพลึง ขิง ดีปลี กระเทียม ไพล ว่านน้ำ เป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีรสร้อน มีฤทธ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบและแก้ปวด หาได้ง่ายและพบตามท้องถิ่น เมื่อนำมาพัฒนาเป็นยาพอกรูปแบบใหม่พบว่าเป็นรูปแบบที่เหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และสะดวกต่อการใช้งาน
ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ: ผลิตภัณฑ์ยาจากสมุนไพรพอกเข่ารูปแบบแผ่นไฮโดรเจลสามารถเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพของตนเองโดยใช้สมุนไพรที่มีอยู่ในชุมชนท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่การศึกษานี้ยังเป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้นยังต้องมีการทดสอบผลการใช้ทางคลินิกเพื่อประเมินประสิทธิผล ความปลอดภัย และความพึงพอใจในลำดับต่อไป
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
National Herbal Policy Committee. National Herbal Action Plan No.2 2023-2027. 2nd printing. Nonthaburi: Herbs for the Economy Division. Department of Development of Thai Traditional and Alternative Medicine Ministry of Public Health.
Elderly Act 2003 (revised edition 2010) page 1. Retrieved on July 12, 2024 from, https://www.dop.go.th/th
Department of Elderly Affairs. (2023). Situation of the Thai elderly 2022. Bangkok: Amarin Corporations Public Company Limited.
Digital Work Group, Strategy and Planning Division Office of the Permanent Secretary, Ministry of Public Health, Summary of illness reports for the year 2022. https://spd.moph.go.th/. Retrieved 3 October.
Health Data Center. (2021). Ministry of Public Health. Screening report for osteoarthritis in the elderly 2021. Retrieved on October 3, 2023 from, https://hdcservice.moph.go.th
Suriyakupta, W. 2020. Study of the development of the Thai Traditional Medicine Demonstration Hospital model. Doctorate Thesis on Thai Traditional Medicine Chiang Rai Rajabhat University. (inThai)
Kongsanae, P. and Ketpisanwattana, J. (2015). Results of the knee pain mindfulness program in elderly people with osteoarthritis. Nursing Journal Chulalongkorn University, 27(3), 68-79. (inThai)
Pattanaseree, T. 2010. Chemical components in Phlai essential oil from Chiang Rai, Phitsanulok, Loei, and Surat Thani provinces. Forest Research and Development Office. Report research results. (inThai)
Medical Arts Division. 2006. Textbook of general traditional medicine. Pharmaceutical branch. Nonthaburi: Thaiphum Publishing Company Limited.
Prasatwet, P. (1907b). Medical Science, Volume 2. Bangkok: Supakarn Chamroon Printing House.
Muang-U, P., Khamthong, N., and Sudsai, T. 2016 Antioxidant and anti-inflammatory effects of flavonoids isolated from blackberry leaves. In the National Academic Conference Rangsit University, year 2016, 14th time, 29 April 2016. Pathum Thani: Rangsit University. (inThai)
Muthuraman A, Singh N. 2012. Acute and sub-acute oral toxicity profile of Acorus
Laokam, S. 2014. Chulalongkorn University. Effect of Thermal Process on Bioactive Compounds in Crinum Asiaticum Leaves. Retrieved March 23, 2024 from, https://books.google.co.th/books/about/Effect of Thermal Process on Bioactive.
Sineenat Laokam (2014)
Bunpian, A., Chandraphon. P., Hongsamat. P., Jaiyai. K., Thatwisai. K., Klongchoengsan. J.and Singhas, J. 2020. Development of knee slime for patients with aneurysms. Rajabhat Hospital, Bang Khae District, Bangkok. Journal of Keeping Up with the World of Science, 20(2), 101-118. (inThai)