การสำรวจความรู้และความคิดเห็นเรื่องการใช้กัญชาของประชาชนในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำและวัตถุประสงค์: นโยบายปลดล็อคกัญชาออกจากการเป็นสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ส่งผลให้มีการนำกัญชามาใช้อย่างแพร่หลายเพิ่มขึ้นทั้งใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์และการสันทนาการ อย่างไรก็ตาม ความพร้อมของประชาชนด้านความรู้ในแง่ประโยชน์ โทษ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้กัญชายังไม่ได้มีการศึกษาอย่างแพร่หลาย การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความรู้และความคิดเห็นของประชาชนในอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่เกี่ยวกับการใช้กัญชา ประโยชน์ โทษ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
วิธีการศึกษา: การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบสำรวจภาคตัดขวาง ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 ในประชาชนไทยอายุ 20 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามที่ได้รับการพัฒนาและตรวจสอบความถูกต้องของแบบสอบถาม โดยทำการเก็บข้อมูลทั้งแบบกระดาษและแบบสอบถามออนไลน์ (Google form) โดยแบบสอบถามแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1) ข้อมูลทั่วไป 2) ความรู้เกี่ยวกับกัญชา 3) ความคิดเห็นเกี่ยวกับกัญชา การวิเคราะห์ข้อมูลจะใช้สถิติเชิงพรรณนา
ผลการศึกษา: จากผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 329 คน แบ่งเป็นเพศหญิง 225 คน (68.39%) ส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 20-29 ปี (47.35%) มีความรู้เกี่ยวกับกัญชาโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (14.79 ± 2.39 จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน) ด้านข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกัญชามีคะแนนเฉลี่ย 3.89 ± 0.73 คะแนน ด้านประโยชน์ของสมุนไพรกัญชา 3.24 ± 1.38 คะแนน ด้านโทษของกัญชา 3.98 ± 1.12 คะแนนและด้านกฎหมายเสรีกัญชาอยู่ 3.68 ± 0.85 คะแนน กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นว่าควรใช้สมุนไพรกัญชาเพื่อการบำบัดรักษาโรคภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้นเป็นลำดับที่หนึ่ง (4.20 ± 0.77 คะแนน) รองลงมาคือ ปัจจุบันสื่อโฆษณาเรื่องสมุนไพรกัญชายังมีความคลาดเคลื่อนทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง (4.07 ± 0.85 คะแนน) และควรมีการจำกัดจำนวนสมุนไพรกัญชาที่ปลูกได้ต่อครัวเรือน (4.03 ± 0.85 คะแนน) ตามลำดับ ส่วนประเด็นที่มีระดับความคิดเห็นน้อยที่สุด ได้แก่ ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี สามารถรับประทานสมุนไพรกัญชาได้ (2.88 ± 1.15 คะแนน) รองลงมาคือ ผู้ที่มีโรคประจำตัวสามารถใช้สมุนไพรกัญชาได้ (3.06 ± 0.81 คะแนน) และสามารถใช้สมุนไพรกัญชาเชิงสันทนาการได้ (3.18 ± 0.97 คะแนน) ตามลำดับ
อภิปรายผล: ความรู้และความคิดเห็นของการใช้กัญชาของคนในพื้นที่ที่ยังคงมีความรู้ในระดับปานกลาง ซึ่งไม่สอดคล้องกับจำนวนร้านค้าที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากการวางมาตรการกำกับควบคุมการดูแลการใช้กัญชาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข แล้ว ควรมีการป้องกันและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้แก่ประชาชน
ข้อสรุป: การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกัญชาของประชาชนในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในระดับปานกลางทั้งด้านข้อมูลทั่วไป ประโยชน์ โทษและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชา นอกจากนี้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่มีความคิดเห็นว่าการใช้กัญชาเพื่อบำบัดรักษาโรคควรอยู่ในความดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ สื่อโฆษณาสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับกัญชา และควรมีการจำกัดจำนวนการเพาะปลูกต่อครัวเรือน
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Ministry of Public Health. Ministry of Public Health Announcement, Subject: Specification of Narcotic Drugs in Category 5 B.E.2565. Nonthaburi, Thailand: Ministry of Public Health; 2022 p. 33 (in Thai).
Boontae S. Survey Project on Attitudes and Behaviors Regarding Drug Use: A Case Study of People Aged 18 - 65 in 20 Provinces Across All Regions of the Country. Final report (Bangkok), Centre for Addiction Studies (CADS); 2022. Report No.:64-00223-0041 (104). (in Thai).
Ramathibodi poison center. Information on cases of injuries from cannabis reported to the Ramathibodi Poison Center during June 9-15, 2022 (7 days from the legalization of cannabis. [Internet].2022 [cited 2023 Oct 29]; Available from: https://www.rama.mahidol.ac.th/poisoncenter/th/news/event/07jun2022-1448-th (in Thai).
Saijanket P, Nojan P, Meekai N, Suknarin R. Knowledge and attitude about Medical Cannabis among People in Phitsanulok Province. J Thai Trad Alt Med. 2020;18(3):595-603. (in Thai).
Chiang Mai Provincial Public Health Office. The mid-year population from 2003 to 2021 in Chaing Mai Province, Thailand. Chiang Mai: Chiang Mai Provincial Public Health Office [Internet]. 2022 [cited 2023 Oct 29]; Available from: https://www.chiangmaihealth.go.th/all_it.php (in Thai)
Kitpreedaborisut B. Research guide: Writing research reports and theses. Bangkok, Thailand: Department of Education, Faculty of Social Sciences and Humanities, Mahidol University; 2010 (in Thai).
Noisri S. Information seeking behavior, uses, and gratifications of information about cannabis for medical uses of consumers (thesis). Bangkok: Chulalongkorn University; 2022. (in Thai).
Paisitpiriy S, Nonthanathorn P. Knowledge, attitude and practice towards cannabis use among people in northeast metropolitan. J Assoc Res. 2021;26(2):33-51.
Narcotics Control Division, Food and Drug Administration, Ministry of Public Health. Information searching system for cannabis licenses [Internet] 2024 [cited 2024 Jan 20]; Available from: https://hempfdamophgoth/FDA_MARIJUANA/STAFF/MARIJUANA_REPORT_PUBLIC_MAP.
Weerachai V, Patarakorn A, Lakkhanaphichonchat L, Chucharoen P, Thongpanich C, Wittayanookulluk A, Chompookham P, Rukngan W, Renuwattananon A, Chanpreecha D, Aphabutsayaphan R, Jaipatum W, Tokaeo R, Makan S, Nilban S, Nakhayothinsakul Y, Tueakkaew S, Khantee R, Lohakit S, Chaipochitphan N, Singto T. Drugs and addictive substances In: Makornsarn C, editor Thailand Medical Services Profile 2011 – 2014. Nonthaburi, Department of Medical Services, Ministry of Public Health; 2014. p.9(1)–9(56). (in Thai).
Office of the Narcotics Control Board: Ministry of Justice. Nationwide drug enforcement results, Office of the Narcotics Control Board: Annual report 2564 B.E. Bangkok, Thailand: Office of the Narcotics Control Board: Ministry of Justice; 2021.
