ผลของสารสกัดเครื่องแกงเลียงที่เวลาสกัดต่างกัน ต่อการเจริญเติบโตของเซลล์แมคโครฟาจ และผลต่อปริมาณของสารเหนี่ยวนำการอักเสบนิวเคลียร์ แฟคเตอร์ แคปป้า บี

บทคัดย่อ

บทนำและวัตถุประสงค์ โรคอุบัติใหม่ ก่อให้เกิดความตื่นตัวด้านการค้นหายาใหม่ ทั้งเพื่อช่วยส่งเสริมในด้านการป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และฟื้นฟูร่างกายเมื่อหายจากการเป็นโรคต่าง ๆ ปัจจุบัน สมุนไพรเป็นเป้าหมายสำคัญที่นักวิจัยให้ความสนใจ เพื่อพัฒนาและนำมาใช้เป็นตัวช่วยใหม่ในทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้น วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อศึกษาฤทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเซลล์แมคโครฟาจของสารสกัดเครื่องแกงเลียง โดยศึกษาผลของเวลาที่ใช้ในการสกัดต่อการเจริญเติบโตของเซลล์แมคโครฟาจ และผลต่อการหลั่งสารเหนี่ยวนำการอักเสบนิวเคลียร์ แฟคเตอร์ แคปป้าบี (NF-kB)

ระเบียบวิธีศึกษา ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงทดลอง (ในห้องปฏิบัติการ) โดยทำการสกัดเครื่องแกงด้วยวิธีการต้มที่เวลา 10, 20 และ 30 นาที แล้วนำไปทดสอบผลของสารสกัดเครื่องแกงเลียงต่อการเจริญเติบโตของเซลล์แมคโครฟาจ และการเหนี่ยวนำนิวเคลียร์ แฟคเตอร์ แคปป้าบี

ผลการศึกษา พบว่า สารสกัดที่สกัดด้วยการต้มทั้งสามเวลา มีผลลดการมีชีวิตของเซลล์แมคโครฟาจ โดยสารสกัดทั้ง 3 ชนิดสามารถลดการเพิ่มจำนวนเซลล์ของแมคโครฟาจ สำหรับการศึกษาผลต่อโดยการเหนี่ยวนำนิวเคลียร์ แฟคเตอร์ แคปป้าบี พบว่าสารสกัดมีแนวโน้มลดปริมาณของ นิวเคลียร์ แฟคเตอร์ แคปป้าบี ซึ่งเป็นโปรตีนตั้งต้นที่กระตุ้นการทำงานของการผลิตสารอักเสบที่หลั่งออกจากแมคโครฟาจ โดยการศึกษาจะเห็นผลที่ชัดเจนในภาวะที่มีการกระตุ้นด้วย PamCys3 โดยเฉพาะสารสกัดที่ 30 นาทีสามารถลดการทำงานของนิวเคลียร์ แฟคเตอร์ แคปป้าบี ในภาวะที่ถูกกระตุ้นด้วย PamCys3 ได้ดีกว่าสารสกัดแบบ 10 และ 20 นาที และดีกว่าในภาวะเซลล์กลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับสารสกัด

อภิปรายผล แกงเลียงเป็นหนึ่งในแกงไทยที่ได้รับความสนใจศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพ โดยก่อนหน้านี้มีการรายงานผลว่ามีฤทธิ์ต้านมะเร็ง การศึกษาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาฤทธิ์เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันและฤทธิ์ต้านการอักเสบของแกงไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการศึกษาปริมาณสารสำคัญกลุ่มฟีนอลิก เฟลโวนอยด์ และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดอาหารไทย ได้แก่ แกงเลียง ส้มตำ และผัดกะเพรา มาแล้ว และผลการศึกษาครั้งนี้สนับสนุนฤทธิ์ต้านการอักเสบของสมุนไพรพริกไทยและหอมแดงที่เป็นส่วนประกอบหลักของเครื่องแกงเลียง ซึ่งเห็นควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ต้านการอักเสบต่อไป

ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าส่วนประกอบหลักของแกงเลียง น่าจะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ อย่างไรก็ตาม การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเบื้องต้นและทำในระดับห้องปฏิบัติการ เห็นควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลในระดับสัตว์ทดลองและการศึกษาทางเภสัชวิทยาต่อไป ซึ่งเห็นควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ต้านการอักเสบต่อไป