การศึกษาเปรียบเทียบผลการใช้สมุนไพรย่านางแดงแบบชาชงกับการอบต่อ ระดับโคลีนเอสเทอเรสในเกษตรกรที่สัมผัสสารกำจัดศัตรูพืช

บทคัดย่อ

ย่านางแดง เป็นสมุนไพรที่นำไปใช้ประกอบอาหารในชีวิตประจำวัน และใช้ประกอบการรักษาการเจ็บป่วยที่หลากหลายในการแพทย์แผนไทย รวมถึงมีสรรพคุณตามตำรับยาไทย ในการล้างพิษออกจากร่างกาย แก้พิษเบื่อเมาพิษเบื่อเมาของเห็ด ถอนพิษยาเมา แก้เมาสุรา แก้ยาเบื่อ ยาสั่งถอนพิษผิดสำแดง ในเกษตรกรที่สัมผัสสารกำจัดศัตรู
พืช เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถามและชุดทดสอบโคลีนเอสเทอเรส เพื่อสำรวจในผู้เข้าร่วมวิจัยที่เป็นชาวนา ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี มีประวัติสัมผัสสารออร์กาโนฟอสเฟตและสารคาร์บาเมต และมีความเสี่ยงต่อสุขภาพในระดับมีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัย จำนวน 92 คน โดยแบ่งผู้เข้าร่วมวิจัยที่ได้รับการคัดเลือกเป็น 3 กลุ่ม คือ (1) กลุ่มดื่มชาชง 31 คน (2) กลุ่มอบสมุนไพร 31 คน และ (3) กลุ่มควบคุม 30 คน โดยมีระยะเวลาในการใช้สมุนไพรในรูปแบบอบและชงติดต่อกันเป็นเวลา 7 วันวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติทดสอบ Wilcoxon mathpaired signed rank test และ Mann-Whitney U test ผลการศึกษาพบว่า หลังใช้สมุนไพรย่านางแดง กลุ่มชาชงมีระดับเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสเพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (U = - 4.493, p < 0.001) และกลุ่มชา
ชงยังมีระดับเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสเพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มการอบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (U = - 4.737, p < 0.001) ส่วนกลุ่มที่ใช้สมุนไพรย่านางแดงแบบชาอบมีระดับเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสไม่แตกต่างกับกลุ่มควบคุม สรุปได้ว่า ระดับเอนไซม์หลังการใช้ยาสมุนไพรกลุ่มชาชง อยู่ในระดับปลอดภัย (≥ 87.5 u/ml.) และระดับปกติ (≥ 100 u/ml.) ดีขึ้นร้อยละ 77.4