การเปรียบเทียบประสิทธิผลของการอบไอน้ำสมุนไพรกับการอบไอน้ำ ต่อคุณภาพการนอนหลับของสตรีวัยทองที่มีปัญหานอนไม่หลับ
Main Article Content
บทคัดย่อ
หลักการและวัตถุประสงค์ การนอนไม่หลับเป็นปัญหาหนึ่งที่พบในหญิงวัยหมดประจำเดือน การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลระหว่างการอบไอน้ำสมุนไพรและการอบไอน้ำต่อคุณภาพการนอนหลับของสตรีวัยทองที่มีปัญหานอนไม่หลับ
ระเบียบวิธีศึกษา การศึกษาวิจัยนี้เป็นการศึกษาวิจัยกึ่งทดลองทำการคัดเลือกสตรีวัยทองที่มีปัญหานอนไม่หลับจำนวน 30 คน โดยใช้แบบประเมินคุณภาพการนอนหลับ ทำการทดสอบก่อนและหลังการทดลองและการเปรียบเทียบความแตกต่างของกลุ่มทดลองโดยใช้สถิติ One-way ANOVA และ Paired t-test
ผลการศึกษา คุณภาพการนอนหลับในภาพรวมทั้ง 7 องค์ประกอบของสตรีวัยทองหลังเข้าโปรแกรมอบไอน้ำสมุนไพร พบว่ากลุ่มทดลองมีคุณภาพการนอนหลับดีกว่าก่อนเข้าโปรแกรม ส่วนสตรีวัยทองที่เข้าโปรแกรมอบไอน้ำพบว่าหลังเข้าโปรแกรม กลุ่มทดลองมีคุณภาพการนอนหลับดีกว่าก่อนเข้าโปรแกรม ในขณะที่กลุ่มควบคุมไม่พบความแตกต่างกัน เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการอบไอน้ำสมุนไพรและอบไอน้ำพบว่ากลุ่มอบไอน้ำสมุนไพรมีคะแนนเฉลี่ยคุณภาพการนอนหลับดีกว่ากลุ่มอบไอน้ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< 0.001) และเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมพบว่า กลุ่มที่อบไอน้ำสมุนไพร และกลุ่มที่อบไอน้ำมีคะแนนเฉลี่ยคุณภาพการนอนหลับดีกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< 0.001) ในขณะที่ผลการเปรียบเทียบก่อนและหลังการทดลองพบว่า กลุ่มสตรีวัยทองที่ได้รับการอบไอน้ำสมุนไพรและกลุ่มที่การอบไอน้ำมีคุณภาพการนอนหลับดีขึ้น (p< 0.001) ในขณะที่กลุ่มทดลองไม่พบความแตกต่างของคุณภาพการนอนหลับ
อภิปรายและสรุปผล ดังนั้นในการลดปัญหานอนไม่หลับในสตรีวัยทอง การอบไอน้ำสมุนไพรช่วยให้คุณภาพการนอนหลับดีกว่าการอบไอน้ำดังนั้น สถานบริการสุขภาพจึงควรจะมีการส่งเสริมการอบไอน้ำสมุนไพรซึ่งอาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับของสตรีวัยทอง
Article Details
เอกสารอ้างอิง
2. มลฤดี ประสิทธิ์, ชวนชม สกนธวัฒน์, เกสร เหล่าอรรคะ, สุกรี สุนทราภา, ศรีนารี แก้วฤดี, วรลักษณ์ สมบูรณ์พร, และคณะ.อาการของสตรีวัยหมดประจำเดือน ที่มารับบริการที่คลินิกวัยหมดประจำเดือนโรงพยาบาลศรีนครินทร์.ศรีนครินทร์เวชสาร. 2550;22(3):267-74.
3. นิมิต เตชไกรชนะ, กอบจิตต์ ลิมปพะยอม. การเปลี่ยนแปลงในวัยหมดระดู. ใน: นิมิต เตชไกรชนะ(บรรณาธิการ). ฮอร์โมนทดแทนในสตรีวัยหมดระดู. พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพฯ: ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2543. หน้า137-66.
4. อรรณพ ใจสำราญ, กอบจิตต์ ลิมปพยอม. อาการและอาการแสดงของสตรีวัยหมดประจำเดือน.ใน: กอบจิตต์ ลิมปพะยอม (บรรณาธิการ). วัยหมดระดู. พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์กรุงเทพเวชสาร; 2543. หน้า 80-4.
5. กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. รู้จักรู้ใจวัยทอง. บทความสุขภาพจิตและจิตเวช.กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข [ออนไลน์]. 2547กรกฏาคม.[26 ธันวาคม 2557];[2 หน้า].ที่มา:http://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=558
6. กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. อาการของหญิงวัยทอง. บทความสุขภาพจิตและจิตเวช. [ออนไลน์].2547 กุมภาพันธ์ [17 มกราคม 2558];[2หน้า].ที่มา:http://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=604.
7. สำนักสารนิเทศ. กระทรวงสาธารณสุข. สธ.เผยสตรีวัยทองเกือบครึ่ง มีปัญหาโรคเรื้อรัง แนะให้ยึดหลักปฏิบัติตัว 3อ. 2 ส. 1 น. ข่าวเพื่อสื่อมวลชน.[ออนไลน์]. 2557 ตุลาคม. [5 พฤศจิกายน 2557];[2 หน้า].ที่มา: http://pr.moph.go.th/iprg/include/admin_hotnew/ show_hotnew.php?idHot_new= 68543. 2557
8. Chong, Y., Fryar, C.D. and Gu, Q. Prescription seep aid use among adults: United States, 2005–2010; NCHS Data Brief. U.S. Department of health and human services; Centers for disease control and prevention national, Center for health statistics [internet]. No.127, 2013Aug. [cited2015 Jan 3]; (8 pages). Available from: http://www.cdc.gov/nchs/data/databriefs/db127.pdf
9. กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. คู่มือการดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย;2554.หน้า 1-331
10. Buysse, D.J. Chapter 1 Introduction. In Buysse, D.J., Sleep disorders and psychiatry (review of psychiatry series, Volume 24, Number 2; Oldham JM and Riba MB, series editors. 1st ed.Washington, DC: American Psychiatric Publishing;2005. p.1-28.
11. กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. แบบประเมินความเครียด (ST5)[ออนไลน์].2554 กรกฎาคม[18 มกราคม 2558]; [1 หน้า]. ที่มา: http://www.dmh.go.th/test/qtest5/
12. Buysse FJ, Reynolds CF, Monk TH, Berman SR, Kupfer DJ. The Pittsburgh Sleep Quality Index: a new instrument for psychiatric practice and research. Psychiatry Res. 1989;28:193–213.
13. ตะวันชัย จิรประมุขพิทักษ์, วรัญ ตันชัยสวัสดิ์.ปัญหาคุณภาพการนอนหลับของพยาบาลประจำการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย.2540;42:123-32.
14. Sitasuwan T, Bussaratid S, Ruttanaumpawan P, and Chotinaiwattarakul W. Reliability and Validity of the Thai Version of the Pittsburgh Sleep Quality Index.JMedAssoc Thai.2014:97 Suppl 3.S57-67.
15. กุณฑลี จริยาปยุกต์เลิศ,เวทิส ประทุมศรี. ผลการใช้น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ต่อการนอนไม่หลับในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา. 2549;1(1):47-51.
16. รัชนีกร ใจคำสืบ. ผลของโปรแกรมพยาบาลสนับสนุนและการให้ความรู้ร่วมกับการเดินออกกำลังกาย ต่ออาการเหนื่อยล้า นอนไม่หลับและวิตกกังวลของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด. วารสารโรคมะเร็ง.2552;29(4):152-61.
17. จรียา เขี้ยวผึ้ง, ลดาวัลย์ อุ่นประเสริฐพงศ์, นิชโรจน์ ประคอง อิทรสมบัติ,อรพิชญา ไกรฤทธิ์. ผลการนวดกดจุดฝ่าเท้าต่อคุณภาพการนอนหลับในผู้สูงอายุที่มีภาวะนอนไม่หลับ. รามาธิบดีพยาบาลสาร.2554;17(1):90-107.
18. เพชรน้อย สิงห์ช่างชัย, อรุณพร อิฐรัตน์, เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ,ปราณี รัตนสุวรรณ. ต้นทุนและผลการอบไอน้ำด้วยสมุนไพรต่อการบรรเทาความเจ็บปวดของผู้ป่วยเอดส์ที่มารับการรักษาในวัดแห่งหนึ่งในภาคใต้. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่; 2542.(54 หน้า).
19. ศิรินทิพย์ คำฟู, พนิดา หาญพิทักษ์พงศ์, ใหม่ทิพย์ สิทธิตัน, พลากร อุดมกิจปกรณ์, ณัฐพล วงค์คำแดง, ดวงกมล ศรีสังข์, และคณะ. การเปรียบเทียบผลของการอบไอน้ำสมุนไพรและการอบไอน้ำธรรมดาต่อความยืดหยุ่นของร่างกาย. ศรีนครินทร์เวชสาร. 2558;30(6):592-97.
20. Mooventhan A and Nivethitha L. Scientific evidence-based effects of hydrotherapy on Various Systems of the body. N Am J Med Sci. 2014;6(5):199-209