การบำบัดอาการปวดกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงและด้วยการนวดแบบสวีดิช

บทคัดย่อ

การประเมินผลการรักษาตัวด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงและการนวดแบบสวีดิชในกลุ่มนักศึกษาชายวิศวกรรมชลประทาน 3 คน อายุ 18-21 ปี ที่ทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้าโดยออกกำลังกายแบบยกน้ำหนัก ใช้น้ำหนักร้อยละ 80 ของความหนักสูงสุดจำนวน 10 ครั้งต่อชุด, ทำทั้งหมด 3 ชุด เพื่อให้เกิดการระบมปวดกล้ามเนื้อ. ได้ทำการรักษา กลุ่มตัวอย่างทั้ง 3 กลุ่มด้วยวิธีการรักษาที่กำหนดไว้หลังการออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง, 24 ชั่วโมง, 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมง. กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มควบคุมได้รับการรักษาหลอกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงแบบไม่เปิดคลื่น, กลุ่มที่ 2 ได้รับการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง, และกลุ่มที่ 3 ได้รับการรักษาด้วยการนวดสวีดิช. ก่อนการออกกำลังกายและหลังให้การรักษาทุกครั้ง วัดช่วงการเคลื่อนไหวของการงอข้อศอก, เจาะเลือดหาค่าครีอะทีนไคเนส, ประเมินความเจ็บปวด และวัดเส้นรอบวงต้นแขน. อาสาสมัครเข้าโปรแกรมการทดลองทั้งหมด 4 วันติดต่อกัน. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือค่าฉลี่ย, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน,  การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว, วิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม และเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่โดยใช้วิธีของ Tukey;กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับพี 0.05.

        ผลการวิจัยแสดงว่าจากการรักษาทั้ง 3 วิธี ช่วงการเคลื่อนไหวการงอข้อศอก, การประเมินความเจ็บปวด,เส้นรอบต้นแขน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05. ส่วนค่าครีอะทีนไคเนส ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างการรักษาทั้ง 3 วิธี. เมื่อนำค่าเฉลี่ยมาเปรียบเทียบพบว่าครีอะทีนไคเนสในกลุ่มที่รักษาด้วยการนวดแบบสวีดิช  เพิ่มน้อยกว่าอีก 2 กลุ่ม , ช่วงการเคลี่อนไหวของข้อศอกเพิ่มขึ้น, ระดับความเจ็บปวดน้อยลงและเส้นรอบต้นแขนลดลงในกลุ่มที่รักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงและการนวดแบบสวีดิช มากกว่ากลุ่มควบคุม.