สัมฤทธิผลของการรักษาผู้ป่วยอีสานรวมมิตรด้วยหญ้าหนวดแมวและนอร์ฟลอกซาซินในสภาวะควบคุมอาหารมีพิวรีนสูง
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
ผู้ป่วยนิ่วไตในภาคอีสานมักจะมีอาการเรื้อรังหลายประการที่เรียกโดยรวมว่า “อาการอีสานรวมมิตร” ได้แก่ ปวดเส้นและกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ปวดข้อ แน่นท้อง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ร้อนที่สีข้าง ปัสสาวะแสบขัด ซึ่งอาการเหล่านี้จะกำเริบเมื่อกินอาหารพิวรีนสูง. ผู้วิจัยได้เคยรายงานว่าเมื่อให้ผู้ป่วยนิ่วไตที่มีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะดื่มชงชาหญ้าหนวดแมวหรือหญ้าหนวดแมวบวกด้วยยาด้านจุลชีพ โดยดำเนินการวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มไม่ให้ผุ้วัดและผู้ถูกวัดทราบว่าตนได้รับยาตัวใด ในพื้นที่ 15 หมู่บ้านชนบทในจังหวัดขอนแก่น ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ถึงกรกฏาคม 2548. ผู้ป่วยอีสานรวมมิตรที่เข้าร่วมโครงการ 209 ราย แต่สามารถติดตามผลได้เพียง 193 ราย (75 รายไม่พบ และ 118 รายพบเม็ดเลือดขาว) แบ่งผู้ป่วยแบบสุ่มเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่: ก1 (39 ราย), ก2 (36 ราย) , ก3 (60 ราย) และ ก4 (58 ราย). กลุ่ม ก1 ได้ยาหลอด, ก2 ได้ผงสกัดของหญ้าหนวดแมว (1 หลอด เทียบเท่า หน้าหนวดแมวแห้ง 1.7 กรัม), ก3 ได้ยานอร์ ฟลอกซาซิน 400 มิลลิกรัม, และ ก4 ได้ยาผงสกัดของหญ้าหนวดแมวบอกด้วยยานอร์ฟลอกซาซิน. ยาทุกตัวถูกบรรจุในหลอดลักษณะเหมือนกัน. ยาสำหรับแต่ละหมายเลขในแต่ละกลุ่มย่อยจะจัดไว้ล่วงหน้าตามการสุ่มและนำรหัสไปเก็บซ่อนไว้จนถึงขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูลจึงเปิดออก ทุกกลุ่มเต็มใจงดอาหารฟิวรีนสูงในช่วง 2 สัปดาห์ของการวิจัย. เมื่อใช้เกณฑ์การรักษาประสบผลสำเร็จคือคะแนนความเจ็บปวดของแต่ละอาการที่กำลังกำเริบอยู่ก่อนเข้าสู่การทดลองลดลง > ร้อยละ 50 ในผู้ป่วย > ร้อยละ 50.
ผลการทดลองแสดงว่าทั้ง 4 กลุ่มกินอาหารพิวรีนสูงลดลงกว่าร้อยละ 90. ผลต่อการลดของความรุนแรงของทุกอาการที่มีในตอนเริ่มต้นผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้ทุกๆ อาการในทุกกลุ่ม ภายใน 2 สัปดาห์ (ค่าพี < 0.001, Friedman test) โดยไม่พบความแตกต่างในระหว่างกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้ยาหลอด ผงสกัดของหญ้าหนวดแมว ยานอร์ฟลอกซาซินหรือได้ยาผงสกัดหญ้าหนวดแมวบวกด้วยยานอร์ฟลอกซาซิน แต่หากดูจำนวนอาการที่กำเริบขึ้นใหม่เมื่อเข้าโครงการเปรียบเทียบระหว่างสัปดาห์ที่ 1 กับสัปดาห์ที่ 2 พบว่าเฉพาะกลุ่ม ก1 (ยาหลอด) ที่จำนวนอาการไม่ลดลง ในขณะที่กลุ่ม ก2, ก3, ก4 นั้นมีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (ค่าพี <0.05, ไค-สแควร์ เพียร์สัน).
สรุปการศึกษาว่าการงดอาหารพิวรีนสูงสามารถลดความรุนแรงของอาการต่างๆของผู้ป่วยอีสานรวมมิตรในทุกกลุ่มที่ศึกษาได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อประเมินใน 2 สัปดาห์ แต่กลุ่มที่ได้หญ้าหนวดแมวและ/หรือยานอร์ฟลอกซาซินจะมีอาการอื่นๆหายไปด้วยในสัปดาห์ที่ 2.
Article Details
เอกสารอ้างอิง
2.Yanagawa M, Kawamura J, Onishi T, Saga N, Kameda K, Sriboonlue P, Prasongwatana V, BoTWompadughlcitti S. Incidence of urolithiasis in northeast Thailand. lnt J Ural 1997;4:537-40.
3.Premgamone A, Sriboonlue P, Ditsatapornjaroen W, Maslcasem S, Sinsupan N and Apinives C. A long-term study on the efficacy of a herbal plant, Orthosiphon grandiflorus, and sodium potassium citrate in treatment of renal calculi. Southeast Asian J Trap Mad Public Health 2001;32:654-ilO.
4.Premgamone A, Sriboonlua P, Ditsatapornjaroan W, Maslcasem S. Distribution of the sizes of kidney stone in a community survey. Asian J Radial 2008 (in press).
5.Choi HK. Atkinson K, Karlson EW. Willett W, Curhan G. Purine-rich foods, dairy and protein intake, and the risk of gout in men. N Engl J Mad. 2004;350: 1093-103.
6.Lammers RL. GibsonS, Kovacs D. Sears W, Strachan G. Comparison of test characteristics of urine dipstick and urinalysis at various test cutoff points. Ann Emerg Med 2001 ;38:505-12.
7.Bonnarddeaux A, Sommerville P, Kaye M. A study on the reliability of dipstick urinalysis. Clin Nephrol 1994;41:167-72.
B. Christenson RH, Tucker JA, Allen E. Results of dipstick tests, visual inspection, microscopic examination of urine sediment, and microbiological cultures of urine compared for simplifying urinalysis. Clin Cham 1985;31:448-50.
9. Chen CP, Lin CC, Namba T. Screening of Taiwanese drugs for antibacterial activity against Streptococcus mutans. J Ethnopharmacol 1989;27:285-95.
10. Premgamone A, Ditsatapornjaroen W, Maslcasem S, Kessomboon P. Purine-rich food consumption and its association with subjective health complaints (SHC) in rural villages in Khan Kaen. Thailand. Program and abstract book. WONCA Asia Pacific Regional Conference 2006: Happy and Healthy Family, Bangkok, Thailand; November 5-9, 2006, p. 118.
