พิษเรื้อรังของสารสกัดสมุนไพร จีพีโอ ๑๙๘๖

Main Article Content

Songpol Chivapat
Aimmanas Attawish
Pranee Chavalittumrong
Vanida Chantarateptawan

บทคัดย่อ

สารสกัดสมุนไพร จีพีโอ ๑๙๘๖ เป็นส่วนผสมจากสารสกัดพืช ๘ ชนิด ได้แก่ พุทธรักษา, ปีกไก่ดำ, พญายอ,มะไฟเดือนห้า, เหงือกปลาหมอ, แทงทวย, ข้าวเย็นเหนือและข้าวเย็นใต้, ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมเพื่อใช้ทดลองรักษามะเร็งเต้านม, คณะผู้รายงานได้ศึกษาพิษเรื้อรังของสารสกัดสมุนไพร จีพีโอ ๑๙๘๖ โดยกรอกเข้าปากหนูแรดพันธุ์วิสตาร์ ๑๖๘ ตัว ที่แบ่งเป็น ๗ กลุ่ม กลุ่มละ ๒๔ ตัว (เพศผู้ ๑๒ ตัว, เพศเมีย ๑๒ ตัว). กลุ่มที่ ๑ เป็นกลุ่มควบคุมได้รับน้ำกลั่น. กลุ่มที่ ๒ ถึง ๔ ได้รับสารสกัดสมุนไพร จีพีโอ ๑๙๘๖ วันละ ๐.๒๔, ๑.๒ และ ๓.๖ ก./กก. เป็นเวลา ๖ เดือน. กลุ่มที่ ๕ เป็นกลุ่มพื้นตัวได้รับสารสกัดวันละ ๓.๖ ก./กก. ๖ เดือน. จากนั้นหยุดให้สารสกัด ๒ สัปดาห์ก่อนผ่าซาก. กลุ่มที่ ๖ เป็นกลุ่มควบคุมได้รับน้ำกลั่น และกลุ่มที่ ๗ ได้รับสารสกัดสมุนไพร จีพีโอ ๑๙๘๖ ทางปากในขนาดวันละ ๓.๖ ก./กก. ๙ เดือน. จากการศึกษาพบว่า สารสกัดสมุนไพร จีพีโอ ๑๙๘๖ ไม่มีผลต่อน้ำหนักตัวและสุขภาพของหนูแรด. หนูเพศผู้ที่ได้รับสารสกัดขนาดวันละ ๑.๒ และ ๓.๖ ก./กก. ๖ เดือน และขนาดวันละ ๓.๖ ก./กก. ๙ เดือน มีค่าฮีมาโตคริต, ฮีโมโกลบิน และจำนวนเม็ดเลือดแดงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (ค่าพี < ๐.๐๕) และหนูเพศเมียที่ได้รับสารสกัดสมุนไพรเป็นเวลา ๙ เดือน มีจำนวนเกล็ดเลือดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (ค่าพี < ๐.๐๕) แต่ค่าที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้ยังอยู่ในเกณฑ์ปรกติ. หนูเพศผู้ที่ได้รับสารสกัดเป็นเวลา ๙ เดือน มีค่าเอนไซม์ แอสพาเทตอะมิโนทราสเฟอเรส (เอเอสที) สูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ (ค่าพี < ๐.๐๕) แต่มีระดับโปแตสเซียมต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ (ค่าพี < ๐.๐๕). การตรวจทางจุลพยาธิวิทยาของอวัยวะหนูที่ได้รับสารสกัดสมุนไพร ทั้งระยะเวลา ๖ เดือนและ ๙ เดือนไม่พบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากสารสกัดแต่อย่างใด. การทดลองครั้งนี้สรุปได้ว่าสารสกัดสมุนไพร จีพีโอ ๑๙๘๖ ไม่ทำให้เกิดพิษเรื้อรังต่อหนูแรด.


 

Article Details

ประเภทบทความ
Original Articles

เอกสารอ้างอิง

๑.สวนพฤษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (ฉบับปรับปรุงแก้ไข) พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ: บริษัทประชาชน จำกัด; ๒๕๔๔ หน้า ๓๐, ๕๘, ๑๐๓, ๔๘๖.
๒.สมาคมโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ สำนักวัดพระเชตุพนฯ. ประมวลสรรพคุณยาไทย (ภาคสอง) ว่าด้วยพฤษชาติวัตถุธาตุและสัตว์วัตถุนานาชาติ. กรุงเทพฯ: พิชัยการพิมพ์; ๒๕๑๖: ๒๗๑, ๓๔๔.
๓.มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล สารานุกรมสมุนไพร เล่มที่ ๔ : กกยาอีสาน. กรุงเทพฯ: บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้ง แอนพับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน); ๒๕๔๓ หน้า ๑๙๐.
๔.สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์. (ฉบับรวม). กรุงเทพฯ: รุ่งเรืองสาส์นการพิมพ์; ๒๕๔๑ หน้า ๒,๘๕.
๕. Acrid weed, Tooth cup. Available from www.ku.ac.th/AgrInfo/thaifish/aqplant/aqpt114.html 2008
๗. Tiwaweach D, Siripong P, Kupradinun P, Thamavit W, Shirai T, Hagiwara A. Inhibition of diethylnitrosamine (DEN)-induces hepatic foci by pre
and post treatment with Acanthus ebracteatus Vahl. in rats. Thai Cancer J 1993;19:7-13.
๘. สมาคมโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ สำนักวัดพระเชตุพนฯ. ประมวลสรรพคุณยาไทย (ภาคหนึ่ง) ว่าด้วยพฤกษชาติ วัตถุธาตุและสัตว์ วัตถุนานาชาติ. กรุงเทพฯ: พิชัยการพิมพ์; ๒๕๖๑ หน้า ๒๒๖.
๙. ลัดดาวัลย์ บุญรัตนกรกิจ, วนิดา จันทรเทพเทวัญ. การตรวจพิสูจน์และการทำข้อกำหนดของข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้. ไทยเภสัชสาร ๒๕๓๖;๑๗:๗๙-๙๐.
๑๐. เสงี่ยม พงษ์บุญรอด. ไม้เทศเมืองไทย. กรุงเทพฯ: กองเภสัชกรรม กรมวิทยาศาสตร์; ๒๔๙๓ sohk ๑๒๐-๒.
๑๑. Akarasereenont P, Wongkajornsilp A, Chotewuttakorn S, Thaworn A, Haubprasert S, Kraisintu K. The effect of herbal extracts (GPO 1986)
on proliferation of vascular endothelium. Thai J Pharmacol 1999;21:205-12.
๑๒. เยาวลักษณ์ พิมายนอก, อังสนา โยธินารักษ์, พศวัต จรเกตุ. ค่าอ้างอิงทางโลหิตวิทยาและเคมีคลินิกในเลือดหนูแรทสายพันธุ์วิสตาร์. วารสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ๒๕๔๖;๔๕:๒๗-๓๖.
๑๓. Gad SC. The Rat: In: Eds S, Gad C, Chengellis CP. Animal Models in Toxicology. New York: Marcel Dekker; 1992. p. 81.