ผลของการออกกำลังกายฤาษีดัดตนประยุกต์ต่อการเคลื่อนไหวและความยืดหยุ่นของหลังในผู้ป่วยปวดหลังช่วงล่าง

Main Article Content

Panicha Pongnaratorn

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยเพื่อศึกษาผลการออกกำลังกายฤาษีดัดตนต่อการเคลื่อนไหวของหลังและความยืดหยุ่นในผู้ป่วยปวดหลังช่วงล่าง ด้วยการฝึกฤาษีดัดตนจำนวน 10 ท่า ใช้เวลา 50 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ โดยใช้อาสาสมัครจำนวน 40 คน  การทดสอบในการศึกษาครั้งนี้ใช้ Schober test เพื่อประเมินการเคลื่อนไหวของหลัง (Movement) และ Sit and reach test เพื่อประเมินความยืดหยุ่นของหลัง (Flexibility) สถิติที่ใช้ในการศึกษา คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) ± ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)        และใช้ paired t - test  ในการทดสอบสมมติฐาน ผลการศึกษาพบว่าการเคลื่อนไหวของหลังในท่างอ (Flexion) ก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ย 44.12 ±  1.91 ซม. และหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ย 45.69 ±  2.39 ซม. ซึ่งมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) นอกจากนี้การเคลื่อนไหวของหลังในท่าเหยียด (Extension) ก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ย 40.77 ±  2.38 ซม. และหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ย 41.53 ± 3.10 ซม. ซึ่งมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ส่วนความยืดหยุ่นของหลังก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ย 14.84 ± 4.57 ซม. และหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ย 16.61 ±  4.12 ซม. ซึ่งมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) สรุปได้ว่าฤาษีดัดตนสามารถเพิ่มการเคลื่อนไหวของหลังและเพิ่มความยืดหยุ่นในผู้ป่วยปวดหลังช่วงล่าง ดังนั้นควรสนับสนุนให้เป็นทางเลือกในการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังช่วงล่าง

Article Details

ประเภทบทความ
Original Articles
ประวัติผู้แต่ง

Panicha Pongnaratorn

N/A

เอกสารอ้างอิง

1. สุรศักดิ์ มนตรี. อาการปวดกล้ามเนื้อส่วนล่าง.กรุงเทพฯ: ศูนย์หนังสือราชภัฎจันทร์เกษม; 2537
2. Bekkering GE, Hendriks HM, Koes BW, Oostendorp RB, Ostelo RG, Thomassen JMC, Tulder MW. Dutch Physiotherapy Guidelines for Low Back Pain. J Physiother. 2003;89(2): 82-96.
3. Sherman KJ, Cherkin DC, Cook AJ, Hawkes R.J, Dey RA, Wellman R, Khalsa PS. Comparison of yoga versus stretching for chronic low back pain: protocol for the Yoga Exercise Self-care (YES) trial. J BMC. 2010;11:1-17.
4. เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ. 127 ท่ากายบริหารแบบไทยท่าฤาษีดัดตน. พิมพ์ครั้งแรก. กรุงเทพฯ: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2537.
5. น้อมจิตร นวลเนตร. ผลของโปรแกรมกายภาพบำบัดที่มีผู้รับบริการเป็นศูนย์กลางต่อความสามารถใน เคลื่อนไหวร่างกาย. กรุงเทพฯ: สามเจริญพานิชย์; 2553.
6. วรรณพร สำราญพัฒน์. ผลทันทีของการฝึกฤาษีดัดตนแต่ละท่าต่อความยืดหยุ่นของหลัง. สาขากายภาพบำบัด, บัณฑิตวิทยาลัย. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2552.
7. Yaman T. Statistics: An introductory analysis. New York: Harper and Row; 1973.
8. Luomajoki H, Kool J, Bruin ED, Airaksinen O. Improvement in low back movement control, decreased pain and disability, resulting from specific exercise intervention. J SMARTT. 2010;2:1-7.
9. ก่อกู้ เชียงทอง, ปรีชา ชลิดาพงศ์. การตรวจร่างกายทางออร์โธปิดิคส์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2536.
10. สรรเสริญ แสนสุภา. ความคิดเห็นต่อการออกกำลังกายท่าฤาษีดัดตนของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มารับบริการในคลินิกเบาหวานโรงพยาบาลดงหลวง. สกลนคร: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน; 2554.
11. สโรชา สุทธิจิต และ จิตรา สุคนธทรัพย์. ผลของการออกกำลังกายท่าฤาษีดัดตนที่มีต่อความอ่อนตัวและการทรงตัวของผู้สูงอายุ. สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา, บัณฑิตวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2553.
12. บุปผา จันป้อตา. ผลของการออกกำลังกายด้วยโปรแกรมกายบริหารท่าฤาษีดัดตนต่อสมรรถภาพทางกายผู้สูงอายุ. วิทยานิพนธ์ปริญญาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน; 2555.
13. Pongnaratorn P. The effectiveness of Rusie Dotton exercise on low back pain (LBP). The 2 nd Nong Khai Campus International conference 2014 “Creative Economy: Reseach & Development to a Worthy Lifestyle between 3-4 July, 2014.
14. Shin G, Mirka AG. An in vivo assessment of the low back response to prolonged flexion: Interplay between active and passive tissues. J CBM. 2007;965-71.
15. เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ. 127 ท่ากายบริหารแบบไทยท่าฤาษีตัดตน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: สามเจริญพานิชย์; 2549.