การสำรวจพฤติกรรมการบริโภคยาสูบและปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
关键词:
พฤติกรรมการสูบ, การบริโภคยาสูบ, ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการสูบ摘要
การบริโภคยาสูบเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มโรคไม่ติดต่อ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังส่งผลเสียต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงสุขภาพฟันและช่องปากอีกด้วย คณะผู้วิจัยจึงสนใจศึกษาพฤติกรรมการบริโภคยาสูบและปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการสูบของนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เนื่องจากวัยรุ่นในช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม โดยเฉพาะด้านอารมณ์ที่แปรปรวนและมีความเครียด ซึ่งหากไม่สามารถจัดการได้ก็อาจหันไปสูบบุหรี่เพื่อลดความเครียด อีกทั้งยังมีความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ คณะผู้วิจัยได้ทำการสำรวจและเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี จำนวน 583 คน ซึ่งได้รับการตอบแบบสอบถามครบถ้วน 478 คน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS พบว่า ผลิตภัณฑ์ยาสูบที่นักศึกษาส่วนใหญ่เลือกใช้คือบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 52.2 โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.34 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.78 แสดงให้เห็นว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการจัดพื้นที่สำหรับสูบบุหรี่ ในขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ทราบถึงอันตรายจากการสูบบุหรี่มวน แต่กลับมีจำนวนน้อยที่ไม่ทราบว่าบุหรี่ไฟฟ้าก็มีอันตรายทำให้ทัศนคติของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เลือกที่จะสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทนบุหรี่ธรรมดา ผลการศึกษานี้เป็นข้อมูลสำคัญที่สามารถนำไปใช้ในการวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ในกลุ่มวัยรุ่น และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของยาสูบในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
参考
Bai S, Wang T, Tian Z, Cao K, Li J. Facile preparation of porous biomass charcoal from peanut shell as adsorbent. Scientific Reports. 2020;10:15845.
Mishra VK, Srivastava S, Muhammad T, Murthy PV. Relationship between tobacco use, alcohol consumption and non-communicable diseases among women in India: evidence from National Family Health Survey-2015-16. BMC Public Health. 2022;22:713.
Thakur J, Garg R, Narain J, Menabde N. Tobacco use: A major risk factor for non communicable diseases in South-East Asia region. Indian J Public Health. 2011;55:155-60.
Glantz S, Gonzalez M. Effective tobacco control is key to rapid progress in reduction of non-communicable diseases. Lancet (London, England). 2012;379:1269-71.
Oyston J. A fresh approach to tobacco control: raising the minimum legal age for access. Canadian Med Assoc J. 2017;189:E293-e4.
Kessel Schneider S, Buka SL, Dash K, Winickoff JP, O'Donnell L. Community reductions in youth smoking after raising the minimum tobacco sales age to 21. Tobacco Control. 2016;25:355-9.
Aungkulanon S, Pitayarangsarit S, Bundhamcharoen K, Akaleephan C, Chongsuvivatwong V, Phoncharoen R, et al. Smoking prevalence and attributable deaths in Thailand: predicting outcomes of different tobacco control interventions. BMC Public Health. 2019;19:984.
Witvorapong N, Vichitkunakorn P. Investigation of tobacco and alcohol co-consumption in Thailand: A joint estimation approach. Drug Alcohol Review. 2021;40:50-7.
Hammond D. Smoking behaviour among young adults: beyond youth prevention. Tobacco Control. 2005;14:181-5.
Dalhamn T. In vivo and in vitro ciliotoxic effects of tobacco smoke. Arch Environ Health. 1970;21:633-4.
Park-Lee E, Ren C, Cooper M, Cornelius M, Jamal A, Cullen KA. Tobacco Product Use Among Middle and High School Students United States, 2022. MMWR Morb Mortal Wkly Rep. 2022;71:1429-35.
Gülşen A, Uslu B. Health Hazards and Complications Associated with Electronic Cigarettes: A Review. Turkish Thoracic J. 2020;21:201-8.
##submission.downloads##
已出版
##submission.howToCite##
期
栏目
##submission.license##
##submission.copyrightStatement##
##submission.license.cc.by-nc4.footer##
