ปัจจัยเชิงผลของการสนับสนุนจากองค์การพยาบาล ตามการรับรู้ของพยาบาลวิชาชีพ : การวิเคราะห์อภิมาน
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การสังเคราะห์งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณลักษณะของงานวิจัย ศึกษาความแตกต่างของคุณลักษณะงานวิจัย และศึกษาค่าดัชนีมาตรฐานของปัจจัยเชิงผลของการสนับสนุนจากองค์การพยาบาลโดยใช้การวิเคราะห์อภิมาน กลุ่มตัวอย่าง คือ ปริญญานิพนธ์ในระดับบัณฑิตศึกษา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ถึง พ.ศ. 2558 จำนวน 25 เรื่อง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 2 ชุด ได้แก่ แบบคัดเลือกงานวิจัย และแบบรวบรวมข้อมูลงานวิจัย ผ่านการตรวจสอบคุณภาพความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 คน นำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ด้วยวิธีการของ Glass, McGaw and Smith ได้ค่าดัชนีมาตรฐานจำนวน 26 ค่า และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ด้วยตัวแบบอิทธิพลแบบสุ่ม Random Effects Model ผลการศึกษา พบว่า
1. คุณลักษณะงานวิจัย พบว่า ด้านลักษณะทั่วไปส่วนใหญ่ เป็นปริญญานิพนธ์ระดับปริญญาโท ที่ผลิตโดยมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมหาวิทยาลัยที่ผลิตมากที่สุด คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาการบริหารการพยาบาล จำนวน 17 เล่ม คิดเป็นร้อยละ 68 ในด้านปีที่พิมพ์เผยแพร่ พบว่า ผลิตในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2545 ถึง พ.ศ. 2549 จำนวน 10 เล่ม คิดเป็นร้อยละ 40 ด้านเนื้อหาสาระของงานวิจัย พบว่า ศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพยาบาลวิชาชีพระดับปฏิบัติการมากที่สุด จำนวน 24 เล่ม คิดเป็นร้อยละ 96 และแหล่งที่มาของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ศึกษากลุ่มตัวอย่างในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากที่สุด จำนวน 14 เล่ม คิดเป็นร้อยละ 56 และด้านวิธีวิทยาการวิจัย พบว่า ส่วนใหญ่เป็นงานวิจัยเชิงสหสัมพันธ์ จำนวน 21 เล่ม คิดเป็นร้อยละ 84 และงานวิจัยส่วนใหญ่มีคะแนนคุณภาพงานวิจัยอยู่ในระดับสูง (ช่วงคะแนน 25 - 32) จำนวน 13 เล่ม คิดเป็นร้อยละ 52
2. ความแตกต่างของคุณลักษณะงานวิจัยและคุณภาพงานวิจัย พบว่า ตัวแปรคุณลักษณะงานวิจัย ด้านวิธีวิทยาการวิจัยที่ส่งผลต่อค่าดัชนีมาตรฐานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือ ตัวแปรการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง
3. การวิเคราะห์อภิมาน พบว่า ปัจจัยระดับทีมมีค่าเฉลี่ยดัชนีมาตรฐานสูงที่สุด (r = .576) ได้แก่ ประสิทธิผลของทีมการพยาบาล (r = .576) รองลงมา คือ ปัจจัยระดับองค์การ (r = .542) ได้แก่ ความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ (r = .693) และปัจจัยระดับบุคคล (r = .521) ได้แก่ การแลกเปลี่ยนระหว่างหัวหน้า - ลูกน้อง (r = .973)
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Srisatitnarakul B. Leadership and strategic management in nusing organization for the 21th Century. Bangkok: Chulalongkorn University Press; 2007. (in Thai).
Srisuphan W, Sawaengdee K. Recommended policy-based solutions to shortage of registered nurses in Thailand. Thai Journal of Nursing Council 2012;27(1):5-12. (in Thai).
Vittayasuporn C. Nursing crisis and challenges in Thailand for AEC. Bangkokbiz News. 2012;p.27. (in Thai).
Tangchatchai B, Siritarungsri B, Sripunworasakul S, Rungkawat V. Factors predicting job retention of professional nurses at the northeast regional hospitals, Ministry of Public Health. Thai Journal of Nursing Council 2011;26(4):43-54. (in Thai).
Wiratchai N. A Meta – analysis. Bangkok : Chulalongkorn University Press ; 1999. (in Thai).
Glass GV, McGaw B, Smith ML. Meta-analysis in social research. Beverly Hills: Sage Publication; 1987.
Wiratchai N, Wongvanich S. A. synthesis of research in education using meta-analysis and content analysis. Bangkok : Printing and binding Charoenphol; 1998. (in Thai).
Wiratchai N, Ruengtragul A, Jetchamnongnuch W, Pornprasertmanit S, Kedcham A, Pranompont S, et.al. The report examines the research on quality education Thailand : meta-analysis. Bangkok: Chulalongkorn University ; 2009. (in Thai).
Eisenberger R, Hunyington R. Perceived organizational support. Journal of Applied Psychology. 1986;71(3):500-7.
Kongyoo S. A meta-analysis on antecedent variables of nurses’ quality of working life. [Master’s Thesis, Faculty of Nursing]. Chulalongkorn University ; 2014. (in Thai).
Cooper H, and Hedges LV. The handbook of research synthesis. New York: Russel Sage; 1994.
Ioannidis PA, Trikalions AT. An exploratory test for an excess of significant findings. Clinical Trials 2007;(4)3:243-53.
Brown R, Condor S, Mathews A, Wade G, Williams J. Explaining intergroup differentiation in an industrial organization. Journal of Occupational Psychology. 1986;59(4):273-86.
Wichagarn R. An analysis of master theses in nursing in Thailand from academic year 1974 to 1984. [Master’s Thesis, Faculty of Education]. Chulalongkorn University ; 1987. (in Thai).
Khunthar A, Kedcham D, Sawaengdee K, Theerawit T. Job transfers amongst registered nurses in Thailand. Thai Journal of Nursing Council 2013;28(3):19-31. (in Thai).
Srisatitnarakul B. The methodology in nursing research. 3rd ed. Bangkok : Chulalongkorn University Press; 2004. (in Thai).
Vanitbuncha K. Statistical Analysis for Decisions. 4th ed. Bangkok : Chulalongkorn University Press; 1999. (in Thai).
Jeenkool P. Relationships between personal factors, achievement motivation, organizational support, and career success of professional nurses, govermental university hospitals. [Master’s Thesis, Faculty of Nursing]. Chulalongkorn University; 2004. (in Thai).
Panuwatsuk M. Relationships between working factors, participative leadership of head nurse, organizational support, and job satisfaction of staff nurses, hospitals under the jurisdiction of the Department of Medical Services, Bangkok Metropolitan Administration. [Master’s Thesis, Faculty of Nursing]. Chulalongkorn University; 2003.
(in Thai).
