การพัฒนารูปแบบสมรรถนะเชิงวิชาชีพที่จำเป็นสำหรับการพยาบาลในอนาคต สังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสมรรถนะและรูปแบบสมรรถนะเชิงวิชาชีพการพยาบาลในปัจจุบัน 2) พัฒนารูปแบบสมรรถนะเชิงวิชาชีพที่จำเป็นสำหรับการพยาบาลในอนาคต สังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ และ 3) ประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะเชิงวิชาชีพที่จำเป็นสำหรับการพยาบาลในอนาคต สังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ กลุ่มตัวอย่าง คือ พยาบาลสังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ จำนวน 365 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสมรรถนะและรูปแบบสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับการพยาบาลในอนาคต สังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ 2) แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับรูปแบบสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับการพยาบาลในอนาคต สังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ ซึ่งเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่า IOC เท่ากับ 1.00 และ 3) แบบประเมินสมรรถนะเชิงวิชาชีพที่จำเป็นสำหรับการพยาบาลในอนาคตสังกัดกรมแพทย์ทหารเรือตามสภาพจริงในปัจจุบัน เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 112 ตัวชี้วัด มีค่าความเที่ยงเท่ากับ .97 เก็บข้อมูลได้รับแบบสอบถามกลับคืน จำนวน 365 ฉบับ คิดเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่ามัธยฐาน ค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และประเมินความต้องการจำเป็นโดยใช้สูตร Modified Priority Needs Index (PNI modified)
ผลการวิจัย พบว่า 1. การศึกษาสมรรถนะและรูปแบบสมรรถนะเชิงวิชาชีพการพยาบาลตามสภาพปัจจุบัน ซึ่งกำหนดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าประกอบด้วย 11 สมรรถนะ 186 ตัวชี้วัด 2. จากการพัฒนารูปแบบสมรรถนะเชิงวิชาชีพที่จำเป็นสำหรับการพยาบาลในอนาคต สังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ พบว่าประกอบด้วย 9 สมรรถนะ 112 ตัวชี้วัด ที่มีองค์ประกอบ ด้านความรู้ ด้านคุณลักษณะส่วนบุคคล และ ด้านทักษะ 3. วิเคราะห์ค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น (PNI modified) ในภาพรวม ทั้ง 9 สมรรถนะ เท่ากับ 0.31 เพื่อรองรับสมรรถนะเชิงวิชาชีพที่จำเป็นสำหรับการพยาบาลในอนาคต สังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ ควรให้การพัฒนาตามลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น (PNI modified)
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Truss C, Mankin D, Kelliher C. Strategic human resource management. New York: Oxford University Press; 2012.
Lhaonhub K. The scenario analysis of health personnel development in Thailand
in ASEAN community. Bureau of Policy and Strategy Ministry of Public Health. Ministry of Public Health: Nonthaburi; 2012.
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. แนวทางการยกระดับขีดสมรรถนะของบุคลากรภาครัฐ พ.ศ. 2557-2561. [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 7 กันยายน 2558]. แหล่งที่มา: http://www.ocsc.go.th/ocsc/th/files/CSTI/D%20menu/stategic/strategy.
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. การยกระดับขีดสมรรถนะของบุคลากรภาครัฐเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน. วารสารดำรงราชานุภาพ 2556;13(47):1-6.
อำพล จินดาวัฒนะ และคณะ. แผนยุทธศาสตร์ทศวรรษกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550-2559. พิมพ์ครั้งที่ 4. นนทบุรี: เดอะ กราฟิโก้ ซิสเต็มส์; 2552.
อำพล จินดาวัฒนะ. ยุทธศาสตร์การบริการพยาบาลระดับประเทศ พ.ศ. 2556-2560. นนทบุรี:
สำนักงานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กรุงเทพมหานคร; 2555.
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข. ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และตัวชี้วัด กระทรวงสาธารณสุขประจำปี พ.ศ. 2558. [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 18 กรกฏคม 2558]. แหล่งที่มา: http://kpo.moph.go.th/webkpo/download/StrategyAndKPI2558__30092557
.pdf.
จรวยพร ศรีศศลักษณ์, พงษ์พิสุทธิ์ จงอุดมสุข, อรพรรณ ศรีสุขวัฒนา, ทิพิชา โปษยานนท์, วลัยพร พัชรนฤมล. สังเคราะห์สถานการณ์ระบบสุขภาพ. นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข; 2556.
Kityanyong S. Intelligent personnel. Bangkok: Phetpraguy; 2013. (in Thai).
Khampalikit S. Competencies of registered nurses. Bangkok: Siriyod Printing; 2010. (in Thai).
The Massachusetts Action Coalition. the massachusetts nursing core competencies: a tool kit for implementation in education and practice setting. [Internet]. [cited 2015 September 21]. Available from: http://www.mass.edu/nahi/documents/Toolkit-First%20Edition-May%202014-r1.pdf.
Nursing and Midwifery Broad of Australia. National competency standards for registered
nurse. [Internet]. [cited 2015 November 21]. Available from:file:///D:/Documents/Downloads
Nursing-and-Midwifery-Board---Standard---National-competency-standards-for-the-registered-nurse.PDF.
Haynes T. The future of nursing initiative: our future. AAACN View Point 2011:33(2):3-4.
Wongwanit S. Needs assessment research. 3rd ed. Bangkok: V-Print; 2015. (in Thai).
Yamane T. Statistics-an introductory analysis. 3rd ed. New York: Harper and Row Publication; 1973.
Poolpatarachewin C. Ethnographic delphi future research (EDFR). Journal of Education Studies 2003;32(1):1-19. (in Thai).
Sanrattana W. Research on educational administration: concepts & case studies. 3rd ed. Bangkok: Thipayawisut Company; 2013. (in Thai).
สุจิตรา เหลืองอมรเลิศ. สภาการพยาบาลกับการเตรียมความพร้อมของวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์สู่ประชาคมอาเซียน.
[อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 20 กันยายน 2558]. แหล่งที่มา: http://www.bcnlp.ac.th/document/asean/Preparation.pdf.
กรมแพทย์ทหารเรือ. แผนยุทธศาสตร์ กรมแพทย์ทหารเรือ พ.ศ. 2559-2562. [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 23 มีนาคม 2558]. แหล่งที่มา: http://www.nmd.go.th/strategy/file.php/1/S_book
_59-62.pdf.
Duangmanee A, Chuenwisit A, Na Bangchang A. A needs assessment of maritime medicine knowledge of the faculty members at Royal Thai Navy College of Nursing. Royal Thai Navy Medical Journal 2018;45(1):1-19.
