การเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการวัดระดับน้ำตาลในเลือดระหว่างเครื่อง Accu-Check Instant กับเครื่อง Sysmex BX 4000 ห้องปฏิบัติการ คลินิกเบาหวานโรงพยาบาลทุ่งเขาหลวง
คำสำคัญ:
ประสิทธิภาพ, POCTบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดระหว่างเครื่อง Accu-Check Instant กับวิธีมาตรฐานคือเครื่อง Sysmex BX 4000 และเปรียบเทียบต้นทุน ระยะเวลาในการรอคอยผลตรวจน้ำตาลในเลือด
รูปแบบการวิจัย: เป็นการศึกษาวิจัยเชิงทดลอง (Experimental research)
วัสดุและวิธีการวิจัย: สุ่มตัวอย่างอย่างง่าย ผู้ยินยอมเข้าร่วมโครงการวิจัยและลงลายมือชื่อ ใช้ตัวอย่างเลือดดำที่แขนแบ่งตัวอย่างเลือดเป็น 2 ส่วน ตรวจด้วยเครื่องชนิดพกพา Accu-Check Instant กับเครื่อง Sysmex BX 4000 เป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ตรวจระดับน้ำตาลอดอาหาร 6 -8 ชั่วโมง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละของความผิดพลาด %CV ร้อยละความคลาดเคลื่อน %bias ค่าเฉลี่ย(Mean) ค่ามาตรฐาน(SD) และ paired t- test
ผลการวิจัย: ค่าระดับน้ำตาลในพลาสมาของกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 114 ราย การวัดด้วยเครื่องตรวจมาตรฐานในห้องปฏิบัติการด้วยวิธีมาตรฐานมีค่า 80-500 mg/dl และมีค่าเฉลี่ยของระดับน้ำตาลคือ 151.8 mg/dl ระดับน้ำตาลในเลือดเครื่องตรวจห้องปฏิบัติการ มีค่าเฉลี่ย 155 mg% SD.66 ส่วนเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดชนิดพกพา มีค่าเฉลี่ย 151 mg% SD.65 ผลความแม่นยำเครื่อง Accu-Chek Instant พบว่ามี within run CV อยู่ในช่วงร้อยละ 1.8 +3.5 และ between-run CV เป็นร้อยละ 1.4 + 2.8 มีค่าน้อยกว่า 5 จากเกณฑ์ เมื่อเปรียบเทียบระดับน้ำตาลในเลือดระหว่างเครื่องตรวจห้องปฏิบัติการ กับเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดชนิดพกพา พบว่าไม่แตกต่างกันทางนัยสถิติ ( P>0.05) และร้อยละของความผิดพลาดอยู่ระหว่าง 5.44 - 10.88 % พบว่า ค่า r=0.998 มีความสัมพันธ์กันดี ผลตรวจที่ได้จาก 2 เครื่องสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันค่าเฉลี่ยความต่างทั้งสอง (Mean difference) 3.9 mg/dL ราคาต้นทุนต่อ 1 รายงาน ผลของเครื่อง Accu-chek Instant ชนิดพกพาถูกกว่าเครื่องตรวจวิเคราะห์อัตโนมัติยี่ห้อ Sysmex BX 4000 อยู่ 16.31 บาท คิดเป็นร้อยละ 69 และระยะเวลารอคอยผลตั้งแต่เจาะเลือดถึงออกผลต่อ1รายงานผล ใช้เวลาน้อยกว่าคือ 26 นาที
สรุปและข้อเสนอแนะ: จากการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า สามารถใช้ค่าระดับน้ำตาลจากเครื่องตรวจชนิดพกพาเทียบเคียงกับเครื่องตรวจในห้องปฏิบัติการ เครื่องตรวจมีความถูกต้อง แม่นยำ และคุณภาพที่ดีอยู่เกณฑ์มาตรฐานราคาต้นทุนถูกกว่า ระยะเวลาในการรอคอยผลน้อยกว่าเครื่องมาตรฐาน Sysmex BX 4000 โดยใช้เพื่อการติดตามกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งผู้เจาะเลือดจะต้องได้รับการอบรมการใช้เครื่องอย่างถูกวิธี และเครื่องจะต้องมีการเช็คสภาพให้เป็นไปตามข้อกำหนดการดูแลรักษาของบริษัท
References
Wild, Roglic, Green, Sicree, & King, 2004; World Health Organization [WHO],2007a
สุนทร ตัณฑนันท์. ใส่ใจเท้าก่อน...เพื่อการถูกปั้นขา, เบาหวาน. 2548.
World Health Organization. 2007b. Preralence of diabetes in the who South-East Asia egion. Retrieved July 4,2007, from https://www.who.int/diabetes/fact
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. รายงานการสาธารณสุขไทย 2551-2553. นนทบุรี: สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์; 2553.
จันทรา ทิผล, ธัญลักษณ์ กัณฑิโกวิท, วีวรรณ อาชีวะ, ไพบูลย์ จันทสุทธิกุล. การศึกษาความเที่ยงและความตรง (Precision and Accuracy) ของเครื่องตรวจน้ำตาลปลายนิ้วที่ใช้ตามหอผู้ป่วยในโรงพยาบาลพระปกเกล้า. วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า. 2554;28(3):154-64.
ณัฐพงศ์ โฆษชุณหนันท์. แนวทางการใช้ยาเพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่สอง. ใน สิริ เชี่ยวชาญวิทย์, บุษยามาศ ชีวสกุลยง, ชัยยุทธ เจริญธรรม, ขจรศักดิ์ นพคุณ, และ เมตตาภรณ์ พรพัฒน์กุล (บรรณาธิการ), อายุรศาสตร์ประยุกต์ เล่ม 6 . ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. เชียงใหม่:ทริค ธิงค์ การพิมพ์; 2551. หน้า 139-54.
พรทิพย์ โล่เลขา. การตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิกเพื่อการวินิจฉัย ติดตาม ควบคุม และการรักษาโรคเบาหวาน. J MedTechAssoe Thai. 1990 ;18:976-8.
วิชัย เอกพลากร. มหันตภัยเบาหวาน .หมอชาวบ้าน. 2549;26(303):12-5.
วิมลรัตน์ จงเจริญและคณะ. การส่งเสริมการดูแลตนเองเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. สงขลานครินทร์เวชสาร. 2551;1(26):71-84.
สุทิน ศรีอัษฏาพร, วรรณี นิธิยานันท์. โรคเบาหวาน. กรุงเทพฯ: เรือนแก้วการพิมพ์; 2548.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
Versions
- 2022-03-15 (2)
- 2020-10-01 (1)
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง