ผลของโปรแกรมการกำกับควบคุมตนเองต่อพฤติกรรมรุนแรงในผู้ป่วยโรคจิตที่ใช้สารเสพติด
คำสำคัญ:
พฤติกรรมรุนแรง, ผู้ป่วยโรคจิตที่ใช้สารเสพติด, โปรแกรมการกำกับควบคุมตนเองบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : 1) เปรียบเทียบคะแนนพฤติกรรมรุนแรงในกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม และ 2) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนพฤติกรรมรุนแรงในกลุ่มทดลองก่อนการทดลองกับหลังการทดลอง
วัสดุและวิธีการ : การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบสองกลุ่มวัดผล 3 ครั้ง ก่อนการทดลอง หลังการทดลอง และการติดตามหลังการทดลอง 2 สัปดาห์ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยโรคจิตที่ใช้สารเสพติดได้รับบริการแบบผู้ป่วยใน สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา จำนวน 20 คน ระหว่างเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2567 เครื่องมือวิจัยที่ใช้ คือ 1) โปรแกรมการกำกับควบคุมตนเอง 2) แบบบันทึกข้อมูลทั่วไป และ 3) แบบประเมินระดับความรุนแรงของพฤติกรรมรุนแรงในผู้ป่วยจิตเวช (PVSS) สถิติที่ใช้ คือ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน chi-square test fisher’s exact test และสถิติที (t-test) กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผล : คะแนนพฤติกรรมรุนแรงของผู้ป่วยโรคจิตที่ใช้สารเสพติดก่อนการทดลองและหลังการทดลอง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) และคะแนนพฤติกรรมรุนแรงของผู้ป่วยโรคจิตที่ใช้สารเสพติดของกลุ่มทดลองต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) และเมื่อติดตามหลังการทดลอง 2 สัปดาห์ คะแนนพฤติกรรมรุนแรงของผู้ป่วยโรคจิตที่ใช้สารเสพติดในกลุ่มทดลองมีคะแนนต่ำกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001)
สรุป : โปรแกรมการกำกับควบคุมตนเองสามารถลดคะแนนพฤติกรรมรุนแรงของผู้ป่วยโรคจิตได้ ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติการพยาบาลเพิ่มเติมจากการดูแลตามปกติให้ได้ดียิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
สาลิณี ภู่รุ่งเรืองผล. พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522. [online]. Available from: https://www. chiangmaihealth. go.th/cmpho_web/document/190816156591830384.pdf [2019 Jan 8].
บุญศิริ จันศิริมงคล. โปรแกรมบูรณาการการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยสุราและยาเสพติดที่มีโรคร่วมทางจิตเวช. กรุงเทพฯ: พรอสเพอรัส จำกัด; 2558.
สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา. รายงานประจำปีสถิติผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในงบประมาณ 2564–2566. กรุงเทพฯ: สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา; 2566.
วีรพล ชูสันเทียะ, สมเดช พินิจสุนทร. ผลกระทบจากการใช้สารเสพติดในผู้เข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาลธัญญารักษ์อุดรธานี: กรณีศึกษา. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2560; 5(3): 523-33.
ชาตรี ชัยนาคิน, ชาตรี ประชาพิพัฒ, อารี พุ่มประไวทย์. การเลิกเสพยาบ้าซ้ำ: กรณีศึกษาผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยวิธีชุมชนบำบัด. วารสารเกื้อการุณย์ 2559; 23(2): 248-62.
นิภาวัลย์ บุญทับถม. ผลของโปรแกรมการจัดการชีวิตต่อความรู้ เจตคติและทักษะการป้องกันการติดซ้ำของผู้ใช้สารเสพติดหลังจำหน่ายออกจากสถาบัน [วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต]. ปทุมธานี: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2550.
อัจฉราพร สี่หิรัญวงศ์, ประภา ยุทธไตร. ปัจจัยสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้สารเสพติดในทางที่ผิดและติดสารของผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ในระบบบังคับบำบัด. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย 2556; 58(4): 371-84.
Varcarolis E, Halter M. Foundations of psychiatric mental health nursing: A clinical approach. (7thed.). St. Louis: Saunders Elsevier; 2013.
Harwood RH. How to deal with violent and aggressive patients in acute medical settings. J R Coll Physicians Edinb 2017; 47(2): 94-101.
Iozzino L, Ferrari C, Large M, Nielssen O, de Girolamo G. Prevalence and risk factors of violence by psychiatric acute inpatients: A systematic review and meta-analysis. PLoS One 2015; 10(6): e0128536.
อัญชลี วิจิตรปัญญา, ณัฏฐพัชร สุนทโรวิทย์, มยุรี กลับวงษ์, พัชรินทร์ นินทจันทร์. การพัฒนาโปรแกรมการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรมร่วมกับการฝึกการควบคุมตนเองในผู้ป่วยจิตเวชที่มีพฤติกรรมรุนแรง. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต 2565; 36(1): 120-47.
อดิศร รักสกุล. ผลของโปรแกรมการกำกับอารมณ์ต่อพฤติกรรมรุนแรงของผู้ป่วยจิตเภทที่ติดสุราในชุมชน [วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต]. ปทุมธานี: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2565.
ก้องเกียรติ อุเต็น, จารุณี รัศมีสุวิวัฒน์, วิชชุดา ยะสินธุ์, วิมลวรรณ คำลือ, พุทธชาด ศรีสุวรรณ์. การพัฒนาโปรแกรมการบาบัดแบบบูรณาการต่อการป้องกันการกลับไปเสพซ้ำในผู้ที่เป็นโรคจิตจากแอมเฟตามีน. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต 2565; 36(3): 46-70.
หวาน ศรีเรือนทอง, ธรณินทร์ กองสุข, สุพัตรา สุขาวห, ทรงพล โลดทนงค์, จินตนา ลี้จงเพิ่มพูน. การพัฒนาแบบประเมินระดับความรุนแรงของพฤติกรรมก่อความรุนแรงในผู้ป่วยจิตเวชที่มีอาการรุนแรง. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย 2559; 61(3): 253-66.
Bandura A. Social foundation of thought and action: A social of cognitive theory. Englewood Cliffs NJ: Prentice-Hale; 1986.
Andrews DA, Bonta J. The psychology of criminal conduct. (5th ed.). Anderson; 2010.
Moffitt TE, Arseneault L, Belsky D, Dickson N, Hancox RJ, Harrington H, et al. A gradient of childhood self-control predicts health, wealth, and public safety. P NATL A SCI 2011; 108(7): 2693–8.
Tangney JP, Baumeister RF, Boone AL. High self-control predicts good adjustment, less pathology, better grades, and interpersonal success. J Personal 2004; 72(2): 271–324.
วิสุดา มูลมี. ผลของโปรแกรมการฝึกควบคุมพฤติกรรมตนเองและการติดตามทางโทรศัพท์ต่อการเสพแอมเฟตามีนของผู้ติดแอมเฟตามีน [วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2561.
Malouf ET, Schaefer KE, Witt EA, Moore KE, Stuewig J, Tangney JP. The Brief Self Control Scale predicts jail inmates’ recidivism, substance dependence, and post-release adjustment. Pers Soc Psychol Bull 2014; 40(3): 334-47.
Verdejo-García A, Bechara A, Recknor EC, Pérez-García M. Negative emotion-driven impulsivity predicts substance dependence problems. Drug Alcohol Depend 2007; 91(2): 213-9.
Adams ZW, Kaiser AJ, Lynam DR, Charnigo RJ, Milich R. Drinking motives as mediators of the impulsivity-substance use relation: Pathways for negative urgency, lack of premeditation, and sensation seeking. Addict Behav 2012; 37(7): 848–55.
Gilbert F, Daffern M. The association between early maladaptive schema and personality disorder traits in an offender population. Psychol Crime Law 2013; 19(10): 933-46.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา