การศึกษาค่าความไวและการเจือจางในการตรวจวิเคราะห์ ซีรัมไทโรกลอบูลินในผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ ชนิด differentiated

ผู้แต่ง

  • สุรัสวดี อัศวรัตน์ 1ห้องปฏิบัติการเคมีนิวเคลียร์ สาขาวิชาเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 2ภาควิชาพยาธิวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

คำสำคัญ:

ไทโรกลอบูลิน, การเจือจาง, สารบ่งชี้มะเร็ง, มะเร็งต่อมไทรอยด์

บทคัดย่อ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการตรวจวิเคราะห์ซีรัมไทโรกลอบูลิน  (Tg) สำหรับโรคมะเร็งต่อม

ไทรอยด์ ได้แก่  ค่าความไวของการทดสอบ การรบกวนจากแอนติบอดี้ต่อไทโรกลอบูลิน (TgAb) และ

ผู้ป่วยที่มีค่าไทโรกลอบูลินสูงซึ่งต้องทำการเจือจาง ดังนั้นห้องปฏิบัติการควรดำเนินการวิเคราะห์ปัจจัย

ดังกล่าว  รวมึงหาแนวทางในการตรวจิเคราะับโรคมะเร็งต่อมไทรอย การึกษาัย

วิเคราะห์ค่าความไวของการทดสอบ Tg , TgAb และ thyroid stimulating hormone (TSH)  ตามวิธีการ

ของ National Academy of Biochemistry โดยใช้หลักการ electrochemiluminescence immunoassay

มีค่าเท่ากับ 0.11 ng/mL, 28.3 IU/mL  และ  0.014 µIU/mL ตามลำาดับ  เมื่อใช้ functional sensitivity

ของ TgAb  ที่ได้จากการศึกษานี้ พบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ที่จัดเป็น   TgAb-positive นวน

20.9  เปอร์เซ็นต์   จากผู้ป่วยจำานวน  1,426  ราย การวิเคราะห์ค่าซีรัมไทโรกลอบูลินและระดับสัญญาณ

การตรวจวิเคราะห์ก่อนการเจือจาง (undiluted signal) จำานวน 343 ราย พบความสัมพันธ์เชิงเส้นตรง

ระหว่างค่าซีรัมไทโรกลอบูลินและ  undiluted signal  จนถึง  5,079,926  relative  light units (RLU)

(r2  = 0.98) ในกรณีที่ผู้ป่วยมีค่าซีรัมไทโรกลอบูลินสูงและมีค่า  undiluted signal  น้อยกว่า 5,000,000

RLU ควรทำการเจือจางที่ 1:10 หากมีค่า undiluted signal มากกว่า 5,000,000 RLU ให้ทำการเจือจาง

ที่ 1:100 เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าซีรัมไทโรกลอบูลินเมื่อทำการเจือจางที่ต่างกันนี้ จำนวน

45 ราย มีค่าต่างกัน 4.2 เปอร์เซ็นต์  โดยไม่เกิน total allowable error ของ Tg เท่ากับ 21.9 เปอร์เซ็นต์

การึกษา้องปิการสามารถบิการ่วยไ้อ่างูก้อ ่นและีประิทิภาพูงสุด

สามารถเป็นแนวทางหรือแหล่งอ้างอิงได้ในอนาคต

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2019-07-02

How to Cite

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ