การวิเคราะห์ค่าก้ำกึ่งและค่าบวกต่ำของผลการทดสอบแอนติเจนส่วนผิวรอบนอกไวรัสตับอักเสบบีด้วยเครื่องทดสอบอัตโนมัติต่างชนิด
คำสำคัญ:
แอนติเจนพื้นผิวไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg), ค่าก้ำกึ่งแอนติเจนพื้นผิวไวรัสตับอักเสบบี, ค่าบวกต่ำแอนติเจนพื้นผิวไวรัสตับอักเสบบี, ปริมาณไวรัสตับอักเสบบี, เครื่องทดสอบอัตโนมัติสำหรับตรวจหาแอนติเจนส่วนผิวรอบนอกไวรัสตับอักเสบบีบทคัดย่อ
แอนติเจนส่วนผิวรอบนอกของไวรัสตับอักเสบบี (HBs Ag) นิยมใช้บ่งชี้การติดเชื้อไวรัสในกระแสเลือด อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบ HBs Ag ที่ได้อาจเป็นผลบวกปลอม การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาจุดตัดที่เหมาะสมในการแปลผลบวกของ HBs Ag ที่แท้จริงในกลุ่มที่ได้ค่าก้ำกึ่งและค่าบวกต่ำ โดยเป็นการศึกษาข้อมูลย้อนหลังจากผลตรวจในตัวอย่างเลือดที่ส่งทดสอบ HBs Ag ณ ภาควิชาพยาธิวิทยา หน่วยภูมิคุ้มกันวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี ในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ. 2554 ถึง เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากผลทดสอบที่ตั้งต้นจากเครื่องอัตโนมัติ Architect ที่ให้ค่า signal-to-cutoff ratios (s/co) ตั้งแต่ 0.9 ถึง 20 จำนวน 651 ราย เปรียบเทียบกับผลทดสอบจากเครื่องอัตโนมัติที่สอง ได้แก่ Elecsys, Vitros หรือ Vidas เพื่อยืนยันการแปลผล รวมทั้งศึกษาเปรียบเทียบค่า HBs Ag กับปริมาณสารพันธุกรรมไวรัสในเลือด (viral load) ผลการศึกษาพบว่า ผลทดสอบ HBs Ag ด้วยเครื่องอัตโนมัติที่สองยืนยันการแปลผลบวก (positive) ร้อยละ 59 แปลผลคลุมเครือ (intermediate) ร้อยละ 18 และแปลผลลบ (negative) ร้อยละ 23 และเมื่อผลการทดสอบจากเครื่อง Architect ให้ค่า s/co ≥10 จะยืนยันการแปลผลบวกถึงร้อยละ 98 และแปลผลคลุมเครือเพียงร้อยละ 2 โดยปราศจากการแปลผลลบ การคำนวณค่าความสัมพันธ์ระหว่าง HBs Ag จากเครื่อง Architect กับเครื่องทดสอบอัตโนมัติที่สอง Elecsys, Vitros และ Vidas พบว่าให้ค่าใกล้เคียงกันจากมากไปน้อยตามลำดับดังนี้ r = 0.75, 0.65 และ 0.60 ส่วนการตรวจพบปริมาณสารพันธุกรรมไวรัสในเลือดในกลุ่มประชากรศึกษาครั้งนี้พบเพียงร้อยละ 47 เมื่อพิจารณาจากผลการศึกษาทั้งหมด สรุปได้ว่า ค่าก้ำกึ่งและค่าบวกต่ำของ HBs Ag จากเครื่องมือ Architect ที่ให้ค่า s/co <5 ควรตรวจยืนยันด้วยเครื่องอัตโนมัติที่สองก่อนการแปลผล แต่เมื่อค่า s/co ≥10 ขึ้นไปสามารถทำนายผลบวกของ HBsAg ได้อย่างแม่นยำ