ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการจัดการและการพยากรณ์การจัดการขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดบึงกาฬ

ผู้แต่ง

  • วุฒิชัย จันทิมา นิสิต หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร
  • สิริรัตน์ มาตาเดิม นักส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นปฏิบัติการ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดบึงกาฬ
  • นิรวรรณ แสนโพธิ์ อาจารย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร

คำสำคัญ:

ปัจจัยที่มีผล, การพยากรณ์, การจัดการขยะมูลฝอย, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวางนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการจัดการขยะมูลฝอย และเพื่อพยากรณ์การจัดการขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดบึงกาฬ กลุ่มประชากรศึกษาคือผู้ปฏิบัติงานที่มีความรับผิดชอบหลักและทำงานเกี่ยวกับการจัดการขยะมูลฝอยในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 131 คน ทำการเก็บข้อมูลจากกลุ่มประชากรศึกษาทั้งหมด โดยใช้แบบสอบถามที่ได้ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา ซึ่งทุกข้อคำถามมีค่าดัชนีความสอดคล้องมากกว่า 0.50 และทำการวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่น โดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาค มีค่าเท่ากับ 0.98 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสูงสุดต่ำสุดและค่ามัธยฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน

ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ พบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการจัดการขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดบึงกาฬ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P-value<0.01) ประกอบด้วย ลักษณะขององค์การ, การกระจายอำนาจ, ความชำนาญเฉพาะทาง, เทคโนโลยี, ความเป็นทางการ, โครงสร้างองค์การ, ลักษณะของสภาพแวดล้อม, บรรยากาศองค์การ, การประสานงาน, ลักษณะของบุคคลในองค์การ, ความผูกพันต่อองค์การ, การปฏิบัติงานตามหน้าที่, การจูงใจ, ลักษณะของการบริหารและการปฏิบัติงาน, ภาวะผู้นำ, การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและการจัดหาทรัพยากร

ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการจัดการขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดบึงกาฬ ประกอบด้วย การจูงใจ, การกระจายอำนาจ, โครงสร้างขององค์การ, ความชำนาญเฉพาะทาง ซึ่งสามารถพยากรณ์การจัดการขยะมูลฝอยได้ร้อยละ 70 (R2 = 0.51, P-value<0.01) โดยเขียนเป็นสมการทำนายได้ ดังนี้ Y = 1.164 + [0.374*การจูงใจ] + [0.268*การกระจายอำนาจ] + [-0.323*โครงสร้างขององค์การ] + [0.335*ความชำนาญเฉพาะทาง]

References

สันชัย พรมสิทธิ์, วันทนีย์ แสนภักดี, สัญญา เคณาภูมิ, พงษ์เมธี ไชยศรีหา. รูปแบบการจัดการขยะกับความเหมาะสมของพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬาของแก่น. 2562; 6(2): 459-83.

กรมควบคุมมลพิษ. รายงานสถานการณ์สถานที่กำจัดขยะมูลฝอยชุมชนของประเทศไทย. กรุงเทพ: บริษัท ธนสิริปริ้นติ้ง จำกัด; 2562.

กิตติ มีศิริ. ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการจัดการขยะมูลฝอยโดยชุมชน กรณีศึกษาชุมชนเกตุไพเราะ 3,4,5 เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารรัฐกิจและกิจการสาธารณะ]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2559.

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. แนวทางการบริหารจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายระดับพื้นที่. นนทบุรี: สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 6; 2561.

สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดบึงกาฬ. รายงานผลการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน .บึงกาฬ; 2563.

Likert, R. Attitude Theory and measurement. New York; 1967.

สำเริง จันทรสุวรรณ, สุวรรณ บัวทวน. ระเบียบวิธีวิจัยด้านสังคมศาสตร์. ขอนแก่น: ภาควิชาสังคมวิทยาและมนุษย์วิทยา คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2547.

Elifson KW, Runyon RP, Haber A. Fundamentals of social statistics. New York: McGraw-Hill; 1990.

สมคิด บางโม. องค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ: วิทยพัฒน์ จำกัด; 2558.

ไพศาล ไกรรัตน์, จิตติ กิตติเลิศไพศาล, ปณิธี การสมดี, ชาติชัย อุดมดิจมงคล. ตัวแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการพัฒนาระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย. วารสารชุมชนวิจัย. 2561; 12(3): 185-98.

พัลลภ จิระโร. แรงจูงใจในการทำงานของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียนในโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดชุมพร. วารสารการวัดและประเมินผลสถิติและการวิจัยทางสังคมศาสตร์. 2563; 1(2): 33-44.

กล้า ทองขาว. นโยบายสาธารณะและการวางแผน. เอกสารการสอนชุดวิชาวิทยาการจัดการ (หน่วยที่ 5). นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช; 2548.

วิมล ชาตะมีนา, วชิรา วราศรัย, รุ่งทิพย์ จินดาพล. ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการบริหารจัดการและดำเนินโครงการของ อบจ.แพร่และของ อบจ.พิษณุโลก. กรุงเทพฯ: กองทุนวิจัยประเทศไทย; 2551.

รัตนาภรณ์ โตพงษ์, ศุภณัฏฐ์ ทรัพย์นาวิน. การนำนโยบายด้านการจัดเก็บภาษีและรายได้ไปปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดเพชรบุรี. วารสารวิชาการ ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์ และศิลปะ มหาวิทยาลัยศิลปากร. 2559; 9(2): 2025-41

มนต์พิพัฒน์ เอี่นมจรัส, ไชยา ยิ้มวิไล, และปิยากร หวังมหาพร. ประสิทธิผลในการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดปริมณฑล. วารสารช่อพะยอม. 2558;26(2): 141-62.

อรนันท์ กลันทปุระ. ขนาดการจัดบริการสาธารณะที่มีประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ศึกษากรณีบริการเก็บขนและกำจัดขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดนครสวรรค์. วารสารพัฒนาบริหารศาสตร์. 2552; 49(3): 221-49.

ขวัญฤดี จันทิมา, อรทัย เลียงจินดาถาวร. การนำนโยบายการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปปฏิบัติ วิเคราะห์การจัดการขยะของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดอำนาจเจริญ. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร. 2557; 6(11): 107-20.

Steers, R.M. Organizational Effectiveness A Behavioral view. Santa Monica California: Good Year; 1997.

พีรยา วัชโรทัย. การจัดการขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษาเทศบาลตำบลเมืองแกลง จังหวัดระยอง. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการสิ่งแวดล้อม. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์; 2556.

สันชัย พรมสิทธิ์, วันทนีย์ แสนภักดี, สัญญา เคณาภูมิ, พงษ์เมธี ไชยศรีหา. รูปแบบการจัดการขยะกับความเหมาะสมของพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬาของแก่น. 2562; 6(2): 459-83.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

30-06-2022