การรับรู้ด้านสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของหญิงมีครรภ์เขตอําเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส

ผู้แต่ง

  • มาซือนะห์ อามีเราะ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส
  • อมรศักดิ์ โพธิ์อ่ำ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

คำสำคัญ:

การรับรู้ด้านสุขภาพ, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ, หญิงมีครรภ์

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive research) มีวัตถุประสงคเพื่อศึกษาการรับรู้ด้านสุขภาพที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของหญิงมีครรภ์เขตอําเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ประชากรคือ หญิงมีครรภ์รายใหม่ที่มาฝากครรภ์ในสถานบริการสาธารณสุขเขตอําเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ปีงบประมาณ 2558 จํานวน 547 คน ใช้สูตรการคํานวณกลุ่มตัวอย่างที่ทราบจํานวนประชากรที่แน่นอนของ Daniel (2010) ได้ขนาดตัวอย่าง จํานวน 250 ราย ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาและความเที่ยงได้ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาช เท่ากับ 0.75 วิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยชืสถิติ Pearson Product Moment Correlation Coefficient ผลการวิจัย พบว่า การรับรู้ด้านสุขภาพ ประกอบด้วย การรับรู้โอกาสเสี่ยง การรับรู้ความรุนแรง การรับรู้ประโยชน์และการรับรู้อุปสรรค ภาพรวมมีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับสูง (gif.latex?\bar{X}=2.78, S.D.=0.412) สําหรับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของหญิงมีครรภ์ ประกอบด้วย การรับประทานอาหาร การฝากครรภ์ การรับประทานยาเสริมธาตุเหล็ก การพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ตามนัด การดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล มีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับสูง(gif.latex?\bar{X}=2.93, S.D.=0.261) ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า การรับรู้ด้านสุขภาพมีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของหญิงมีครรภ์เขตอําเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (r=0.158, P-value=0.036) เมื่อพิจารณาการรับรู้ด้านสุขภาพรายด้าน พบว่า การรับรู้ความรุนแรง (r=0.179, P-value=0.005) กับการรับรู้ประโยชน์ (r=0.140, P-value=0.026) มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ส่วนการรับรู้ความโอกาสเสี่ยงและการรับรู้อุปสรรค ไม่พบความสัมพันธ์ทางสถิติ (r=-0.085, P-value=0.179, และ r =0.054, P-value=0.399) ตามลําดับ

References

โรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว. ข้อมูลรายงานเฉพาะกิจโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว.2555.

สำนักงานสาธารณสุขอำเภอตากใบ. กลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพ. รายงานผลการดำเนินงานสาธารณสุขประจำ ปี 2554-2556. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอตากใบ.

Pender, N.J. Health Promotion in nursing practice. 2nd ed. Connecticus : Appleton & Lange; 1987.

Rosenstock, Irain M. “The Health Belife Model and Prevention Behavior.”Health Education Monographs; 1974.

Daniel W.W. Biostatistics: Basic Concepts and Methodology for the Health Sciences. (9th ed). New York:
John Wiley & Sons; 2010.

Best, John W. Research is Evaluation. (3rd ed). Englewod cliffs: N.J. Prentice Hall; 1977.

Becker, Marshall H. “The Health Belife Model and Prevention Behavior.” Health Education Monographs; 1974.

ดวงใจ พรหมพยัคฆ์, มณฑนา อัจฉริยศักดิ์ชัย, ศักดา เปรมไทยสงค์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดแผลที่เท้าของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารวิชาการสาธารณสุข. 2555 26(2): 253-362.

ซาฟีน๊ะ ดอเลาะ. พฤติกรรมการดูแลครรภ์ตนเองของหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการฝากครรภ์ ณ สถานีอนามัยในเขตพื้นที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส. วิทยานิพนธ์วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร. 2552.

นาฎอนงค์ ธรรมสมบูรณ์. ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขศึกษาเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นที่มารับบริการฝากครรภ์ในโรงพยาบาลอานันทมหิดล จังหวัดลพบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญา
มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2554.

อุทัยวรรณ เหมเวช. ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความรุนแรงของภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดและการรับรู้ประโยชน์ของการรักษากับความร่วมมือในการรักษาของหญิงเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด. โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2552.

กัลยาณี บุญสิน, โสเพ็ญ ชูนวล. การรับรู้ภาวะสุขภาพและพฤติกรรมการปฏิบัติตัวในการป้องกันภาวะเสี่ยงของหญิงตั้งครรภ์แรกโรงพยาบาลสงขลานครินทร์.วารสารวิชาการ เขต 12. 2552; 12(2): 11-28.

แพรวพรรณ แสงทองรุ่งเจริญ, รพีพรรณ วิบูลย์วัฒนกิจ. ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ประโยชน์ของการส่งเสริมสุขภาพกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์

Downloads

เผยแพร่แล้ว

28-06-2018