ผลของการใช้โปรแกรมการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาควบคุมพิเศษต่อความรู้ และการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาควบคุมพิเศษของบุคลากรสุขภาพ ผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาลโพธาราม
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบก่อนทดลอง (Pre-experimental research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการ ใช้โปรแกรมการพยาบาลผู้ปุวยติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาควบคุมพิเศษต่อความรู้ และการปฏิบัติของบุคลากรสุขภาพในการพยาบาลผู้ปุวยติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาควบคุมพิเศษในโรงพยาบาลโพธารามประชากรในการทาวิจัย คือ พยาบาลวิชาชีพและผู้ช่วยเหลือผู้ปุวย หออภิบาลผู้ป่วยหนัก โรงพยาบาลโพธารามจำนวน 39 คน ดำเนินการวิจัยระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2561 เครื่องมือที่ใช้ในวิจัยจำนวน 2 ชุดประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการดาเนินการทดลอง ได้แก่ โปรแกรมปฏิบัติการพยาบาลผู้ปุวยติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาควบคุมพิเศษ และ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบวัดความรู้และแบบสังเกตพฤติกรรมสถิติที่ใช้วิเคราะห์ ข้อมูลประกอบด้วย สถิติพรรณนา ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Paired t test และ Repeated measurement ANOVA ผลการศึกษาพบว่า ความรู้ของบุคลากรสุขภาพงานผู้ป่วยหนักหลังได้รับโปรแกรมการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาสูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.01)และค่าเฉลี่ยพฤติกรรมในการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาควบคุมพิเศษหลังได้รับโปรแกรมว่ามีค่าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.01)โดยพบว่าค่าเฉลี่ยพฤติกรรมในการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาควบคุมพิเศษติดตาม 2 เดือนตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม 2561 ในเดือนเมษายน 2561 มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด =50.13 ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2561 พบว่ามีค่าเฉลี่ยพฤติกรรมการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาควบคุมพิเศษลดลง
= 44.51ดังนั้นทีมควรสร้างความตระหนักในกลุ่มบุคลากรเรื่องการติดเชื้อดื้อยาควบคู่กับการจัดโปรแกรมการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อ และกำหนดแนวทางนิเทศติดตามอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องเพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
เอกสารอ้างอิง
Song X, CogenJ, SinghN. Incidence of methicillin-resistant Staphylococcus aureus infection in a children's hospital in the Washington metropolitan area of the United States, 2003 – 2010. Emer Microbes Infect. 2013 ; 2 (10) : e69.
Chen CM, Lin CJ, Wu RW, Wang CH. Risk factors and molecular epidemiology of carbapenemresistant Acinetobactercalcoaceticusbaumannii complex at a district hospital in Taiwan. J Med Sciences 2016; 38 (5) : 222-7.
ศิริตรี สุทธจิตต์, นิธิมา สุ่มประดิษฐ์, เสาวลักษณ์ ฮุนนางกรู ภูษิต ประคองสาย, วิษณุ ธรรมลิขิตกุล. มาตรการควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล และการส่งเสริมการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผล ในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ในประเทศไทย. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข 2556 : 7 (2) : 281-95.
งานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลโพธาราม. รายงานการเฝูาระวังการติดเชื้อในโรงพยาบาลปี งบประมาณ 2559. ราชบุรี :
โรงพยาบาลโพธาราม, 2559.
Centers for Disease Control and Prevention. (2016). Management of multidrugresistance organismsin healthcare settings 2016. Retrieved September 9, 2018. from http://www.cdc.gov/ncidod/dhqp/gl_mdroguideline 2016.html
Card AJ, Ward JR, Clarkson PJ. Getting to Zero: Evidence-based healthcare risk management is key. J Health care Risk
Manage. 2012 ; 32:20–7.
Bloom BS, Madaus GF, Hastings JT. (1971). Evaluation to Improve. New York: McGraw Hill book Company.
ประจวบ ทองเจริญ, วันชัย มุ้งตุ้ย, อะเคื้อ อุณหเลขกะ. ผลของการใช้กลวิธีหลากหลายต่อการปฏิบัติของบุคลากรสุขภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาหลายขนาน.วารสารการพยาบาล2559. 42 (1), 71-73.
วิไลวรรณ เนื่อง ณ สุวรรณ, จิราพร น้อมกุศล, รัตนา ทองแจ่ม และธนชัย พนาพุฒิ. “การพัฒนาแนวทางปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง” วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 2557 ; 32 (2) : 25-36.
สุพัตรา อุปนิสากร, กุณฑิรา ถิ่นนิคม, จารุวรรณ บุญรัตน์ (2560). “ผลการควบคุมการเกิดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาหลายขนานในหอผู้ป่วย
ไอซียูอายุรกรรมโรงพยาบาลตติยภูมิ” วารสารวิชาการแพทย์เขต 11 ; ปีที่ 31 : 649 -56.
กุลดา พฤติวรรธน์, รัชนีย์ วงค์แสน, สุทธิพันธ์ ถนอมพันธ์, สมรรถเนตร ตะริโย. การเพิ่มประสิทธิผลการดูแลผู้ป่วยเพื่อลดการติดเชื้อดื้อยา แผนกอายุรกรรมและศัลยกรรมโรงพยาบาลนครพิงค์. วารสารกองการพยาบาล 2560 ; 44 (4) : 10-33.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารหัวหินเวชสาร เป็นลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลหัวหิน
บทความที่ลงพิมพ์ใน วารสารหัวหินเวชสาร ถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนคณะบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
