การเปรียบเทียบผลการประเมินอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ที่ป้องกันได้ของเครื่องมือ P Method และ Schumock and Thornton Criteria

Main Article Content

ชลธิชา สอนสุภาพ
ระพีพรรณ ฉลองสุข

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมินอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่ป้องกันได้
(preventable adverse drug reactions; pADRs) ของเครื่องมือ P Method และ Schumock and Thornton
criteria รวมถึงคน้ หาสาเหตุและลักษณะของรายงานดังกลา่ ว โดยผู้ประเมิน 3 คน ประเมินรายงาน ADRs ยากลุ่ม
ระบบกล้ามเนื้อและโครงกระดูก จากโรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557 -
30 กันยายน 2560 ที่มีระดับความสัมพันธ์ใช่แน่นอน และเป็นรายงานที่ข้อมูลครบถ้วนตามเกณฑ์การประเมิน
คุณภาพรายงาน ในระดับ 3 ฐานข้อมูลศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Thai Vigibase)
วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ทดสอบความแตกต่างของสัดส่วนรายงาน ด้วยสถิติ Fisher’s
exact test และหาความเชื่อมั่นระหว่างผู้ประเมิน ด้วยสถิติ Fleiss’s Kappa ผลการวิจัยพบว่ารายงาน ADRs
จำนวน 273 ฉบับ สว่ นใหญเ่ ปน็ เพศหญิง (รอ้ ยละ 65.93) มีอายุระหวา่ ง 15 - 59 ป  (รอ้ ยละ 56.04) และเปน็ ผู้ปว่ ยนอก
รอ้ ยละ 72.16 รายงาน pADRs ที่ผู้ประเมินมีความเห็นตรงกันของแตล่ ะเครื่องมือ พบวา่ เปน็ รายงานที่ผู้ปว่ ยไดรั้บยา
กลุ่ม NSAIDs มากกวา่ 1 รายการ 2 ฉบับ และเปน็ รายงานที่ผู้ปว่ ยไดรั้บยาที่เคยมีประวัติการแพ  1 ฉบับ โดยสว่ นใหญเ่ ปน็
อาการทางระบบผิวหนัง สัดสว่ นของจำนวนรายงานเมื่อประเมินดว้ ยเครื่องมือที่แตกตา่ งกัน พบวา่ มีผู้ประเมิน 1 คน
ที่ผลการประเมินมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P = 0.00) และเมื่อวิเคราะห์ค่าความสอดคล้องของ
เครื่องมือ พบว่าเครื่องมือ Schumock and Thontron criteria มีค่าความสอดคล้องมากกว่าเครื่องมือ P Method
โดยมีค่าความสอดคล้องในระดับปานกลาง (Fleiss’s Kappa = 0.44) ในขณะที่ P Method มีค่าความสอดคล้อง
วารสารอาหารและยา ฉบับเดือนมกราคม-เมษายน 2563 71
อยู่ในระดับเล็กน้อย (Fleiss’s Kappa = 0.15) และพบว่าสัดส่วนรายงานที่ผู้ประเมินเห็นตรงกันเมื่อประเมินด้วย
Schumock and Thontron criteria มีจำนวนมากกว่า P Method อย่างไรก็ตามรายงานส่วนใหญ่เป็นรายงาน
ที่ไม่สามารถประเมินได้ อาจเนื่องมาจากข้อมูลรายงาน ADRs จากฐานข้อมูล Thai Vigivase มีอย่างจำกัด จึงเสนอ
ใหมี้การพัฒนาแบบรายงาน ADRs ใหผู้้รายงานระบุขอ้ มูลที่จำเปน็ สำหรับการประเมิน pADRs เพื่อใหก้ ารประเมิน
ความเป็นไปได้ในการป้องกันอาการไม่พึงประสงค์ของรายงานแต่ละฉบับเป็นไปอย่างครอบคลุมและครบถ้วน
สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลสำหรับการกำหนดมาตรการการป้องกันและลดการเกิด pADRs ในระดับประเทศต่อไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
สอนสุภาพ ช, ฉลองสุข ร. การเปรียบเทียบผลการประเมินอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ที่ป้องกันได้ของเครื่องมือ P Method และ Schumock and Thornton Criteria. TFDJ [อินเทอร์เน็ต]. 18 มีนาคม 2020 [อ้างถึง 16 ธันวาคม 2025];27(1):70-82. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/fdajournal/article/view/240484
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

1. ปราโมทย์ ตระกูลเพียรกิจ. Model สำหรับการป้องกันอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาชนิดที่ป้องกันได้.ใน: เฉลิมศรี ภุมมางกูร, บุษบา จินดาวิจักษณ์,สุวัฒนา จุฬาวัฒนทล, เนติ สุขสมบูรณ์, บรรณาธิการ.
A practical guide to pharmacovigilance.กรุงเทพฯ: บริษัท ประชาชน จำกัด; 2547. หน้า 51-60.

2. Benkirane, R., et al. Assessment of a newinstrument for detecting preventable adversedrug reactions. Drug Saf 2015;38:383-93.

3. Aronson JK, Ferner RE. Preventability ofdrug-related harms - part II: proposed criteria,based on frameworks that classify adverse drug reactions. Drug Saf 2010;33:995-1002.

4. Ferner RE, Aronson JK. Preventability of drug-related harms - part I: a systematic review. Drug Saf 2010;33:985-94.

5. Schumock GT, Thornton JP. Focusing on the preventability of adverse drug reactions. Hosp Pharm 1992;27:538.

6. Olivier P, Boulbés O, Tubery M, Lauque D,Montastruc JL, Lapeyre-Mestre M. Assessing the feasibility of using an adverse drug reaction preventability scale in clinical
practice: a study in a French emergency department. Drug Saf 2002;25:1035-44.

7. Thomas R., et al. Putting the Kappa Statistic to Use. Qual Assur 2010;13:57-46.

8. ประสพชัย พสุนนท์. การประเมินความเชื่อมั่นระหวา่ งผู้ประเมินโดยใชส้ ถิติแคปปา. วารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์ 2558;8:2-20.