การพัฒนาระบบการจัดการพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดในห้องผู้ป่วยหนัก
คำสำคัญ:
ระบบการจัดการพยาบาล, ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด, ห้องผู้ป่วยหนักบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการจัดการพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดในห้องผู้ป่วยหนัก และเปรียบเทียบความรู้ของพยาบาลในห้องผู้ป่วยหนัก ก่อนและหลังการใช้ระบบที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างคือ พยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์การทำงานที่หอผู้ป่วยหนักไม่น้อยกว่า 1 ปี ของโรงพยาบาล ๕๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 30 คน ดำเนินการระหว่างพฤศจิกายน 2567 - มกราคม 2568 แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1) การวางแผน 2) การปฏิบัติ 3) การสะท้อนผล และ 4) การปรับปรุงแผน เครื่องมือวิจัย ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ ระบบการจัดการพยาบาลที่พัฒนาขึ้น 2) เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินความรู้ในการดูแลผู้ป่วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมานใช้สถิติทีคู่
ผลการวิจัยพบว่า ระบบการจัดการพยาบาลที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 9 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การประเมินและคัดกรองอย่างรวดเร็ว 2) การเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ 3) การให้สารน้ำทดแทน 4) การให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา 5) การสนับสนุนการทำงานของอวัยวะ 6) การควบคุมแหล่งติดเชื้อ 7) การป้องกันภาวะแทรกซ้อนและการเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลง 8) การดูแลด้านจิตใจ และ 9) การบันทึกและรายงาน และค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้ของพยาบาลหลังการพัฒนาระบบ (M = 8.56, SD = 1.14) สูงกว่าก่อนพัฒนาระบบ (M = 7.46, SD = 2.04) อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สรุปได้ว่า ระบบการจัดการพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดที่พัฒนาขึ้นสามารถนำไปถ่ายทอดความรู้แก่พยาบาลเพื่อนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันการติดเชื้อได้
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (2566). รายงานสถิติการติดเชื้อในกระแสเลือดในประเทศไทย ปีงบประมาณ 2562-2566. กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.
ดรุณี ไชยวงค์, ภิตินันท์ อิศรางกูร ณ อยุธยา, จารุวรรณ ชมพูสืบ, และปริชาติ ขันทรักษ์. (2565). การพัฒนาระบบการให้การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด และภาวะช็อกจากการติดเชื้อ (sepsis and septic shock) ของจังหวัดเชียงใหม่. วารสารโรงพยาบาลนครพิงค์, 13(2), 57-74.
เชิดชัย กิตติโพวานนท์. (2565). การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดโดยการมีส่วนร่วมของทีมสหวิชาชีพ และหน่วยบริการปฐมภูมิ อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น. วารสารระบบบริการปฐมภูมิและเวชศาสตร์ครอบครัว, 5(3), 219-232.
ณัฐวดี ชำปฏิ, และเบญจภรณ์ ต้นจาน. (2565). ประสิทธิผลและความพึงพอใจของการจัดการส่งเวรด้วยรูปแบบ SBAR ในระบบ HIS ของพยาบาลวิชาชีพในแผนกผู้ป่วยวิกฤตโรงพยาบาลกรุงเทพ ขอนแก่น. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม, 19(3), 41- 52.
ไตรภพ ปิดตานัง, สุรางคณา พรหมมาศ, และจันทร์ทิรา เจียรณัย. (2565). การบำบัดทดแทนไตอย่างต่อเนื่องในหอผู้ป่วยวิกฤต: บทบาทพยาบาล. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 16(2), 136-148
เบญจมาศ ปิงเมือง, และวิปัศยา คุ้มสุพรรณ. (2567). ผลของการใช้แนวปฏิบัติสัญญาณเตือนก่อนเข้าสู่ภาวะวิกฤตต่อการเข้าถึงการรักษาพยาบาล ในผู้ป่วยที่มีกลุ่มอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ณ ที่เกิดเหตุ นอกโรงพยาบาล. วารสารการพยาบาล สุขภาพ และสาธารณสุข, 3(3), 55-66.
รุ่งทิพย์ เจริญศรี, รุ่งรัตน์ สายทอง, จรูญศรี มีหนองหว้า, และวันชัย เลิศวัฒนวิลาศ. (2566). การพัฒนารูปแบบการพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในหอผู้ป่วยอายุรกรรม. วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล, 29(3), 56-74.
โรงพยาบาล ๕o พรรษา มหาวชิราลงกรณ, กลุ่มการพยาบาล. (2567). รายงานสถิติผู้ป่วยภาวะติดเชื้อใน กระแสเลือด. โรงพยาบาล ๕o พรรษา มหาวชิราลงกรณ.
ลภิสรา สวัสดิรักษ์, สมดี อนันต์ปฏิเวธ, ภรรวษา จันทศิลป์, และพรนิภา ลีละธนาฤกษ์. (2566). การพัฒนาระบบบริการพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด โรงพยาบาลชัยภูมิ. วารสารการพยาบาลตำรวจ, 15(2), 182-194
อังคณา เกียรติมานะโรจน์. (2564). การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดโรงพยาบาลวาปีปทุม. วารสารวิชาการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม, 5(9). 27-43
Donabedian, A. (2003). An introduction to quality assurance in health care. Oxford University Press.
Evans, L., Rhodes, A., Alhazzani, W., Antonelli, M., Coopersmith, C. M., French, C., Machado, F. R., McIntyre, L., Ostermann, M., Prescott, H. C., Schorr, C., Simpson, S., Wiersinga, W. J., Alshamsi, F., Angus, D. C., Arabi, Y., Azevedo, L., Beale, R., Beilman, G., ... Levy, M. M. (2021). Surviving sepsis campaign: International guidelines for management of sepsis and septic shock 2021. Critical Care Medicine, 49(11), e1063-e1143. https://doi.org/10.1097/CCM.0000000000005337
Gomez, H., & Kellum, J. A. (2016). Sepsis-induced acute kidney injury. Current Opinion in Critical Care, 22(6), 546-553. https://doi.org/10.1097/MCC.0000000000000356
Levy, M. M., Evans, L. E., & Rhodes, A. (2018). The surviving sepsis campaign bundle: 2018 update. Intensive Care Medicine, 44(6), 925–928. https://doi.org/10.1007/s00134-018-5085-0
Rhodes, A., Evans, L. E., Alhazzani, W., Levy, M. M., Antonelli, M., Ferrer, R., Kumar, A., Sevransky, J. E., Sprung, C. L., Nunnally, M. E., Rochwerg, B., Rubenfeld, G. D., Angus, D. C., Annane, D., Beale, R. J., Bellinghan, G. J., Bernard, G. R., Chiche, J. D., Coopersmith, C., Dellinger, R. P. (2017). Surviving sepsis campaign: International guidelines for management of sepsis and septic shock: 2016. Intensive Care Medicine, 43(3), 304-377. https://doi.org/10.1007/s00134-017-4683-6
Rudd, K. E., Johnson, S. C., Agesa, K. M., Shackelford, K. A., Tsoi, D., Kievlan, D. R., Colombara, D. V., Ikuta, K. S., Kissoon, N., Finfer, S., Fleischmann-Struzek, C., Machado, F. R., Reinhart, K. K., Rowan, K., Seymour, C. W., Watson, R. S., West, T. E., Marinho, F., Hay, S. I., .. Naghavi, M. (2020). Global, regional, and national sepsis incidence and mortality, 1990-2017: Analysis for the global burden of disease study. The Lancet, 395(10219), 200-211. https://doi.org/10.1016/S0140-6736(19)32989-7
Seymour, C. W., Gesten, F., Prescott, H. C., Friedrich, M. E., Iwashyna, T. J., Phillips, G. S., Lemeshow, S., Osborn, T., Terry, K. M., & Levy, M. M. (2017). Time to treatment and mortality during mandated emergency care for sepsis. New England Journal of Medicine, 376(23), 2235-2244. https://doi.org/10.1056/NEJMoa1703058
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 ราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่หรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ ก่อนเท่านั้น



