Knowledge, Health Literacy and Health Care Behavior in Reducing Cardiovascular Disease Risk Factors among the Elderly at Ban Mai Subdistrict, Phra Nakhon Si Ayutthaya District

Main Article Content

Natnapa Sasang

Abstract


        This research was a one-group quasi-experimental study, measuring the results before and after two phases of activities in a workshop training. The research objectives were: (1) to study knowledge, health literacy, and health care behaviors in reducing cardiovascular disease risk factors before and after the 1st and 2nd phase of activities in the training; and (2) to compare knowledge, health literacy, and health care behaviors in reducing cardiovascular disease risk factors before and after the 1st and 2nd phase of activities in the training. The studied samples were 44 elders of Ban Mai Subdistrict, Phra Nakhon Si Ayutthaya District, obtained from a purposive sampling during October 2019 and April 2020. The tools used were questionnaires and the workshop training on health care literacy enhancement activities. The statistics used were percentage, mean, standard deviation, and paired sample t-test.
        The findings of this research revealed that: (1) most of the prior training knowledge was at the moderate level while after the 1st phase and the 2nd phase of activities in the training were at the high level. All health literacy before, after the 1st ,and 2nd phases of activities in the training were at the high level. Health care behaviors before and after the 1st phase of activities in the training were at the moderate, while after the 2nd phase of activities in the training was mostly good; and (2) when comparing knowledge, health literacy, and health care behaviors, it was found that total knowledge after the 1st and 2nd phase of activities in the training was higher than before the training. Moreover, health care behaviors after the 1st phase of activities in the training was significantly different from that after the 2nd phase of activities in the training. Provision of knowledge are then essential and important towards health behaviors in reducing risk factors for cardiovascular disease.

Article Details

How to Cite
Sasang, N. (2021). Knowledge, Health Literacy and Health Care Behavior in Reducing Cardiovascular Disease Risk Factors among the Elderly at Ban Mai Subdistrict, Phra Nakhon Si Ayutthaya District. Thai Journal of Safety and Health, 15(1), 10–26. retrieved from https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JSH/article/view/243720
Section
Research Articles

References

กรรณิการ์ การีสรรพ. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับการควบคุม
โรค ความดันโลหิตสูง และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุที่เป็นโรค ความดันโลหิตสูง . Rama Nurse J. ปีที่25(3): 280-295. กรุงเทพฯ.
กฤษฎา พรหมสุวรรณ์. (2560). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุในชมรมผู้สูงอายุตำบลหนองไม้แก่น.สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัย ราชภัฏราชนครินทร์. ฉะเชิงเทรา.
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข. (2560). สถิติสาธารณสุข. ค้นเมื่อ มกราคม 2561,
จาก: www.bps. moph.go.th/new_bps/sites/default/files/stratistics60.pdf
กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2561). การเสริมสร้างและประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพ
และพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 7-14 ปี และกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป.ฉบับปรับปรุง 2561. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข.
ขวัญเมือง แก้วดำเกิง และดวงเนตร ธรรมกุล. (2558). การเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในประชากร
ผู้สูงวัย. วารสารวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ ปีที่ 9(2): 1-8. กรุงเทพฯ.
จุฑาพร แหยมแก้ว. รูปแบบการจัดกิจกรรมผู้สูงอายุในโรงเรียนสร้างสุข ตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง
จังหวัดเพชรบูรณ์. รายงานสืบเนื่องการประชุมสัมมนาวิชาการ การนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ
ชนวนทอง ธนสุขกาญจน์. (2560). ความรอบรู้ด้านสุขภาพ.ค้นเมื่อ มกราคม 2561.จาก,
https://www.ayo.moph. go.th/ncd/file_upload/subblocks/HLO_chanuanthong.pdf
ฐิติชญา ฉลาดล้น สุทธีพร มูลศาสตร์ และวรรณรัตน์ ลาวัง. (2560). การพัฒนารูปแบบกิจกรรมสร้างเสริม
สุขภาพผู้สูงอายุในชมรมผู้สูงอายุ คลังปัญญา อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี. วารสารพยาบาล
กระทรวงสาธารณสุขปี ที่27(2) 154-167.ค้นเมื่อ มีนาคม 2561.จาก,
https://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/article_detail.php?ArticleID=206983
ณัฐนันท์ ขำเดช และ คณิสสร สุภกิจ. (2562). รายงานการฝึกประสบการวิชาชีพสาธารณสุขชุมชน
ปีการศึกษา 2561/2. พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
ณรงค์ กรชัยวงศ์, ปัณณทัต บนบุนทด. (2562). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันโรคในบุคคลที่เสี่ยงต่อ การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ Predicting Factors Preventive Behaviors for Coronary Heart Disease among Persons at Risk to Disease . Journal of Nursing and Health Care 37 (2), 6-15
ดลนภา ไชยสมบัติ. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเตรียมตัวเข้าสู่วัยสูงอายุของประชากรวัยก่อน
สูงอายุ. NJPH Vol. 29 No. 3 September – December 2019.วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข.นนทบุรี
เทพไทย โชติชัย. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันโรคความดัน
โลหิตสูง ของประชากรกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง ตำบลสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. ปีที่ 7(1) มกราคม - เมษายน 2563:45-56. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยการพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้
ธัญชนก ขุมทอง วิราภรณ์ โพธิศิริและขวัญเมือง แก้วดำเกิง. (2559). ปัจจัยที่มีผลต่อความรอบรู้ด้าน
สุขภาพของประชากรกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ในจังหวัดอุทัยธานีและอ่างทอง.วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยศิลปากร 2559; 3(6): 67-85. กรุงเทพฯ
ธวัช บุญนวล. (2560). ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากการสื่อสาร สุขภาพกับ
พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของประชาชนในอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี.วารสารวิทยาการจัดการ ปีที่ 4(2): 257-283. กรุงเทพฯ
ปัทมา สุพรรณกุล. (2560). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
ชนิดที่ 2 จังหวัดสุโขทัย. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ปีที่ 11(1): 211-223 ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.ปทุมธานี
ประไพพิศ สิงหเสม, พอเพ็ญ ไกรนราและวรารัตน์ ทิพย์รัตน์. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้
ทางสุขภาพกับพฤติกรรมสุขภาพตาม 3อ 2ส.ของผู้สูงอายุ ตำบลหนองตรุด จังหวัดตรัง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์. 11(1): 38-51. อุตรดิตถ์
พนิดา จันทร์ดีแก้วสกุล. (2561). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการจัดการตนเองของผู้ป่วย ความดันโลหิตสูง
ชนิดไม่ทราบสาเหตุที่ควบคุมไม่ได้ .Vol 36(1): 31-43.Journal of Nursing Science. กรุงเทพฯ
พิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ. (2555). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ. วารสารวิชากร
มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย. ปีที่ 2(1) ค้นเมื่อ มีนาคม 2561,จาก
https://www.tci-thaijo.org/index.php/ EAUHJSocSci/article/view/28613
พงศธร ศิลาเงิน. (2560). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุใน
จังหวัดพะเยา.สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต วิชาเอกการจัดการการสร้างเสริมสุขภาพ คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.ปทุมธานี.
ภาวินี ศรีสันต์. (2562). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรม การดูแลตนเองของผู้ป่วยหลังผ่าตัดลิ้น
หัวใจ. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือปีที่(25)1: 1-13.เชียงใหม่: บริษัท สยามพิมพ์นานา จำกัด
รสสุคนธ์ มกรมณี. (มปป). (2562). เทคนิคการฝึกอบรม:สื่อ ประเภทวิธีการ. (อินเตอร์เน็ต). ค้นเมื่อ
สิงหาคม 2562,จาก https://www.academia.edu/4373947/
วัชราพร เชยสุวรรณ. (2560). ความรอบรู้ด้านสุขภาพ:แนวคิดและการประยุกต์สู่การปฏิบัติกาพยาบาล.
วารสารแพทย์นาวี; 44(3): 183-197. กรุงเทพฯ
วชิระ เพ็งจันทร์. (2560). ความรอบรู้ด้านสุขภาพ. ในเอกสารการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพ
บุคลากรกรมอนามัย เรื่อง ความรอบรู้สุขภาพมุ่งสู่ประเทศไทย, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข.
วาสนา สิทธิกัน, สายหยุด มูลเพ็ชรและสามารถ ใจเตี้ย. (2560). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ
ผู้สูงอายุ ในเขตเทศบาลตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน. ลำปางเวชสาร 38(2) :49-58. ลำปาง
วรนัน คล้ายหงส์. (2559). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการรับประทานยาอย่างถูกต้องสม่ำเสมอของผู้สูงอายุ
โรคเบาหวานชนิดที่ 2. Vol. 24(1) วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.ชลบุรี
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2561). โรงเรียนผู้สูงอายุ เปลี่ยนไม้ใกล้ฝั่งให้เป็น
พลังทางสังคม. ค้นเมื่อ กุมภาพันธ์ 2561,จาก: https://www.thaihealth.or.th
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2562). สถิติประชากรไทย. ค้นเมื่อ สิงหาคม 2562,จาก:
http://www.nso.go.th/sites/2014/Pages/home.aspx
สุภามาศ ผาติประจักษ์,สมจิต หนุเจริญกุลและนพวรรณ เปียซื่อ. (2557). ปัจจัยทำนายความสามารถใน
การดูแลตนเองและคุณภาพชีวิตในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 . รามาธิบดีพยาบาลสาร 20,(1),97-111. กรุงเทพฯ
สุรพันธ์ สิทธิสุข. (2557). แนวทางเวชปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดในประเทศไทย
ฉบับปรับปรุง ปี 2557.พิมพ์ครั้งที่ 2หน้า 15-41. สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์. กรุงเทพฯ: บริษัท ศรีเมืองการพิมพ์ จำกัด
สุวิมล รอบรู้เจน. (2560 ). การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ สำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุ
อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์. ปีที่ 9(3)
ค้นเมื่อ สิงหาคม 2562,จากfile:///C:/Users/admin/Downloads/99136-Article%20Text-248260-1-10-20170915%20(3).pdf
อารีย์ แร่ทอง. (2562). ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3อ 2ส ของอาสาสมัครสาธารณสุข
ประจำหมู่บ้าน กรณีศึกษาตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช.วารสารวิชาการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ปีที่ 15(3): 62-70.นนทบุรี
เอกชัย ชัยยาทา. (2561). ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพ กับพฤติกรรมการรับประทานยา
และการมาตรวจตามนัด ของผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในจังหวัดลำพูน.วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. ปีที่(28)1: 182-196. ลำปาง
Amy K. Chesser, Nikki Keene Woods, Kyle Smothers and Nicole Rogers. (2016). Health Litracy
and Older Adult a systematic review. Geronto Geriatr Med. 2016 Jan-Dec; 2:
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5119904/
Green, L. W., & Kreuter, M. W. (1999). Health promotion planning third edition an
educational and ecological approach (3rd ed.). California: Mayfield publishing co.
Hersh L, Salzman B, Synderman D. Health literacy in primary care practice. Am Fam
Physician. 2015; 92(2): 118-24.