ผลของโปรแกรมนวดกระตุ้นน้ำนมด้วยตนเองในมารดาหลังผ่าตัดคลอดที่มีภาวะบุตรแยกจากระยะแรกคลอดต่อพฤติกรรมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว ในช่วงอายุ 1 เดือน

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ  

น้ำนมแม่เป็นอาหารธรรมชาติที่มีคุณสมบัติเพิ่มภูมิต้านทาน ลดภาวะแทรกซ้อน มีสารอาหารและสารชีวภาพหลายร้อยชนิดที่จำเป็นต่อระบบเมตาบอลิซึม ระบบฮอร์โมน และการเจริญเติบโตของทารก การใช้โปรแกรมนวดกระตุ้นน้ำนมด้วยตนเองร่วมกับการฝึกสอน (coaching) จึงเป็นแนวทางหนึ่งในการส่งเสริมพฤติกรรมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในมารดาหลังzjk9yfคลอด โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีภาวะบุตรแยกจากมารดาหลังคลอด วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้ เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมนวดกระตุ้นน้ำนมด้วยตนเองในมารดาหลังผ่าตัดคลอดที่มีภาวะบุตรแยกจากระยะแรกคลอดต่อพฤติกรรมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว ในช่วงอายุ 1 เดือน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เป็นการวิจัยเชิงทดลอง กลุ่มตัวอย่าง คือ มารดาหลังผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องที่บุตรย้ายไปที่ตึกเด็กป่วยแรกเกิด 70 ราย แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง กลุ่มละ 35 ราย ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 - 31 ตุลาคม 2567 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี โปรแกรมการนวดเต้านมด้วยตนเอง แบบประเมินสัดส่วนการบีบนมส่งลูกก่อนกลับบ้าน แบบบันทึกข้อมูลอัตราการให้นมแม่อย่างเดียวอายุ 1 เดือน แบบประเมินความพึงพอใจในการใช้โปรแกรม สถิติที่ใช้ คือ Proportion test, Chi-square test, Independent t–test, Fisher’s Exact test

ผลการศึกษา พบว่า 1) ผลการเปรียบเทียบสัดส่วนการให้บีบน้ำนมแม่ส่งบุตรใน 72 ชั่วโมงก่อนกลับบ้าน โดยใช้สถิติ Proportion test พบว่า กลุ่มทดลองมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) 2) ผลการเปรียบเทียบการเลี้ยงด้วยนมแม่อย่างเดียวของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม พบว่า กลุ่มทดลองมากกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) และ 3) ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจ พบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนความพึงพอใจภาพรวมเฉลี่ยเท่ากับ 3.93 คะแนน (SD=0.21) ซึ่งมากกว่ากลุ่มควบคุมที่มีคะแนนความพึงพอใจภาพรวมเฉลี่ยเท่ากับ 3.78 คะแนน (SD=0.39) ดังนั้น ควรนำผลของโปรแกรมนวดกระตุ้นน้ำนมด้วยตนเองไปปรับใช้เป็นแนวทางการพยาบาลเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว