การพัฒนารูปแบบการนิเทศทางการพยาบาลโรงพยาบาลชุมแพ จังหวัดขอนแก่น

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

การวิจัยและพัฒนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการนิเทศทางการพยาบาล โรงพยาบาลชุมแพ จังหวัดขอนแก่น กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยรองหัวหน้าพยาบาล 15 สาขา 45 คน และพยาบาลวิชาชีพ 256 คน เก็บข้อมูลด้วยแบบสัมภาษณ์เชิงลึกและแบบสนทนากลุ่ม ค่าความเที่ยงตรงของเครื่องมือ IOC เท่ากับ .67-1.0 แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามความรู้ของผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ แบบสอบถามประสิทธิผลของรูปแบบฯ มีค่าความเที่ยงสัมประสิทธิ์แอลฟ่าครอนบาค เท่ากับ .90 แบบประเมินสมรรถนะการปฏิบัติทางการพยาบาลต่อรูปแบบการนิเทศการนิเทศทางการพยาบาล มีค่าความเที่ยงมากกว่า .70  แบบบันทึกข้อมูลตัวชี้วัดด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย 15 สาขา วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา paired t-test และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาสำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพ

ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบการนิเทศทางการพยาบาลโรงพยาบาลชุมแพ (CHUMPHAE Nursing Supervision Model) ประกอบด้วย 8 ประเด็น ได้แก่ Coaching, Hospital Role model, Utilization from WI, Management, Participation, Hybrid IT Digital, Assist, Evaluation & Learning ผลลัพธ์การใช้รูปแบบฯ พบว่า พยาบาลผู้นิเทศ และพยาบาลผู้รับการนิเทศ มีคะแนนความรู้หลังการนิเทศ สูงกว่าก่อนการนิเทศ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t 10.34 และ t 12.92 p < .001 ตามลำดับ) การประเมินประสิทธิผลของรูปแบบฯ ในภาพรวม ของพยาบาลผู้นิเทศ และพยาบาลผู้รับการนิเทศ อยู่ในระดับดี (Mean 4.36, SD .58 และ Mean 4.20, SD .65 ตามลำดับ) พยาบาลผู้รับการนิเทศ ผ่านการประเมินสมรรถนะด้านการปฏิบัติทางการพยาบาล (Mean 98.24, SD 3.62) ตัวชี้วัดด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย จำนวน 18 ตัวชี้วัด บรรลุค่าเป้าหมาย 12 ตัวชี้วัด (ร้อยละ 66.66) ไม่บรรลุค่าเป้าหมาย 6 ตัวชี้วัด (ร้อยละ 33.34) ดังนั้น รูปแบบการนิเทศนี้ สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการพยาบาลได้จริง จึงควรผลักดันให้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายคุณภาพของโรงพยาบาลและบรรจุในแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว เพื่อความต่อเนื่องและยั่งยืน