ผลของโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดของผู้รับบริการในคลินิกตรวจสุขภาพ
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดของผู้รับบริการในคลินิกตรวจสุขภาพ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้รับบริการในคลินิกตรวจสุขภาพ อายุ 35-70 ปี จำนวน 60 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป 2) แบบสอบถามพฤติกรรมการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด 3) แบบประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในอีก 10 ปีข้างหน้า มีค่าความตรงตามเนื้อหา เท่ากับ 0.98, 0.92 และ 1.00 ตามลำดับ และสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ 0.94 และ 0.98 วิเคราะห์ข้อมูลหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ Paired t-test และ Independent t-test
ผลการวิจัย พบว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนพฤติกรรมการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดหลังทดลองสูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t=-13.66, p< 0.05) และ ค่าเฉลี่ยคะแนนความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในอีก 10 ปีข้างหน้า ต่ำกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพ (t= -2.99, p< 0.05) นอกจากนี้ภายหลังกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพ มีค่าเฉลี่ยคะแนนพฤติกรรมการป้องกันโรคหัวใจสูงกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการพยาบาลปกติ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t= 4.34, p< 0.05) และภายหลังกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพ มีคะแนนเฉลี่ยความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในระยะเวลา 10 ปี ต่ำกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการพยาบาลปกติ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t= 1.89, p< 0.05) กล่าวได้ว่า โปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพมีผลทำให้พฤติกรรมการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดของผู้รับบริการดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Reference
World Health Organization. Cardiovascular diseases (CVDs). Geneva: World Health Organization; 2021.
Shaffer R. Coronary artery disease and acute coronary syndrome. In: Harding MM, Kwong J, Roberts D, Hagler D, Reinisch C, editors. Lewis's medical-surgical nursing. 11th ed. Canada: Elsevier; 2020. p. 698-733.
Statistics of clients at the health check-up clinic, Primary Care Center, Sungmen Hospital 2023. Phrae: Sungmen Hospital; 2023. Thai.
Karmali KN, Lloyd-Jones DM, Goff DC. Cardiovascular risk assessment in primary prevention: Integrating quantitative risk and lifestyle-based interventions. J Am Coll Cardiol. 2022;79(2):147–159.
Fuster V, Fayad ZA, Kovacic JC. Promoting cardiovascular health through risk assessment tools: Global perspectives. Nat Rev Cardiol. 2023;20(1):45–60.
Kitijira Techarujira, Venus Leelahakul, Sakul Changmai. Effects of a behavioral modification program to reduce cardiovascular disease risk among personnel with metabolic syndrome in a private hospital. Charoenkrung Pracharak J. 2019;15(2):14-18. Thai.
Champion VL, Skinner CS. The health belief model. In: Glanz K, Rimer BK, Viswanath K, editors. Health behavior and health education: Theory, research, and practice. 4th ed. San Francisco, CA: Jossey-Bass; 2008. p. 45-65.
Kang H. Sample size determination and power analysis using the G* Power software. J Educ Eval Health Prof. 2021;18.
Naruemol Kingkaew, Tidarat Antadech. Cardiovascular risk factors and 10-year CV risk scores in adults aged 30-70 years old in Amnat Charoen Province, Thailand. Asia Pac J Sci Technol. 2019;24(4):9-19. Thai.
Wong MC, Chan LK, Yip TH. Health belief model-based interventions to improve cardiovascular prevention behaviors in elderly populations: A randomized controlled trial. BMC Public Health. 2023;23(1):110-9.
Zhang H, Zhou Q, Li F. Risk communication and behavioral change in cardiovascular prevention: Integrating health belief models in intervention programs. Am J Prev Med. 2022;63(6):789–97.
Lee SH, Jung YH, Choi JW. Enhancing self-efficacy through digital health interventions: Evidence from a community-based program. Prev Med Rep. 2023;32: 102057.
Kwon JH, Kim YS, Park SH. Impact of personalized risk assessment tools on promoting
cardiovascular health behaviors: A longitudinal study. J Cardiovasc Nurs. 2023;38(3):245–53.
