ปัญหาและอุปสรรคต่อการใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินของพระสงฆ์ ในจังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย
คำสำคัญ:
ปัญหาและอุปสรรค, ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน, พระสงฆ์บทคัดย่อ
งานวิจัยเชิงคุณภาพนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคต่อการใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินของพระสงฆ์และเพื่อศึกษาความรู้ต่อระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของพระสงฆ์ในจังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกโดยมีกลุ่มผู้ให้ข้อมูลคือพระสงฆ์ จำนวน 7 รูป ผลจากการสัมภาษณ์ของผู้ให้ข้อมูล พบว่าปัญหาและอุปสรรคส่วนใหญ่ของพระสงฆ์ในการใช้ระบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจะเกิดจากความล่าช้าของรถพยาบาลฉุกเฉินจึงเป็นสาเหตุที่ไม่เรียกใช้บริการ และการโทรแจ้งเหตุมีความยุ่งยากหลายขั้นตอน บางครั้งเจ้าหน้าที่ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ ส่วนมากการเข้ามารับบริการระบบการแพทย์ฉุกเฉินจะมีด้วยกัน 2 วิธี คือมาด้วยตนเอง เนื่องจากมีความสะดวกสบาย ไม่เสียเวลาในการรอรถพยาบาลฉุกเฉิน และมาด้วยรถพยาบาลฉุกเฉิน เนื่องจากมีความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ดูแลช่วยเหลือขณะนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งแต่ละวิธีมีความสำคัญที่แตกต่างกันออกไป และพระสงฆ์ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้เกี่ยวกับระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจึงทำให้พระสงฆ์ไม่ทราบถึงการช่วยเหลือตนเองเบื้องต้นขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน ผลการศึกษาครั้งนี้ สามารถนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินสำหรับพระภิกษุสงฆ์ได้
Downloads
เอกสารอ้างอิง
1. สุรภา ขุนทองแก้ว. การศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน จังหวัดราชบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชบุรี. 2562; 2(1):30-44.
2. อรรณพ สุขไพบูลย์, ชุภาศิริ อภินันท์เดช และธาตรี เจริญชีวกุล. ความพึงพอใจของผู้รับบริการในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน เทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา. 2559; 4(1):417-425.
3. สุพรรณวดี ภิญโญ, ธัญดา แย้มโรจน์, กันยารัตน์ เกิดแก้ว, และกลอยใจ ศรีสาคร. การรับรู้และความคาดหวังต่อการบริการการแพทย์ฉุกเฉินของผู้ป่วยและญาติงานอุบัติเหตุและฉุกเฉินโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 24 ตุลาคม 2563]. เข้าถึงจาก: http://www.phrachomklao.go.th/hrd/reseaech/54/4.pdf
4. สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ. ช่องว่างการแพทย์ฉุกเฉินไทย: รายงานสถานการณ์ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ปี 2557. นนทบุรี: ปัญญามิตร การพิมพ์; 2557.
5. สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. สรุปรายงานการป่วย พ.ศ. 2557. นนทบุรี: สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์; 2557.
6. ธีระ ศิริสมุด. ความรู้ ทัศนคติ และเหตุผลที่ไม่เรียกใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินของผู้ป่วยฉุกเฉินในประเทศไทย. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 2561; 12(4):668-680.
7. ชาติชาย คล้ายสุบรรณ. คู่มือแนวทางการจัดบริการห้องฉุกเฉิน (รายงานการวิจัย). นนทบุรี: สามชัย; 2561.
8. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่. (2562). การประชุมวิชาการและนำเสนอผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุและบริการแพทย์ฉุกเฉิน จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2562. สืบค้น 24 ตุลาคม 2563, จาก: https://www.niems.go.th/1/News/Detail/7610?group=15
9. นิวัฒน์ ทรงศิลป์, วราภรณ์ บุญเชียง และกรรณิการ์ อินต๊ะวงศ์. ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ ทัศนคติ และความคาดหวังของพระภิกษุสงฆ์ในการใช้บริการระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินในจังหวัดเชียงใหม่.วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 2564;15(1):119-130.
10. Speziale, H. J. S. Action research method. In H. J. S. Speziale, D. R. Carpenter (Eds.), Qualitative research in nursing: Advancing the humanistic imperative (4th ed.). Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins; 2007.
11. ปริชญา พลอาสา และพรนภา ศุกรเวทย์ศิริ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อความล่าช้าในการช่วยเหลือผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุ ในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น. 2561;25(2):79-89.
12. ปิยวรรณ เพียรภายลุน. ความรู้ ทัศนคติและความคาดหวังของประชาชนในพื้นที่ความรับผิดชอบของโรงพยาบาลสามโคกต่อบริการแพทย์ฉุกเฉิน. (วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน). 2554; บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
