ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
คำสำคัญ:
ปัจจัยที่มีอิทธิพล, พฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ, การป้องกัน, โคโรนา 2019, นักศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติในปีการศึกษา 2563 จำนวน 136 คน เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบประเมินปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ได้รับการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน และมีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ .887, .895, .859, .842, .899, .919 และ .853 ตามลำดับ เก็บรวบรวมข้อมูลในเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม พ.ศ. 2563 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติถดถอยพหูคุณแบบมีขั้นตอน ผลการวิจัย พบว่า นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มีคะแนนเฉลี่ยการรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติ การรับรู้ความสามารถของตนเอง อิทธิพลระหว่างบุคคล อิทธิพลจากสถานการณ์ ความรู้สึกที่มีต่อพฤติกรรม อยู่ในระดับสูง ยกเว้นคะแนนเฉลี่ยการรับรู้อุปสรรคในการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง และมีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อยู่ในระดับสูง ในการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ พบว่า ปัจจัยการรับรู้ความสามารถของตนเอง และปัจจัยอิทธิพลระหว่างบุคคล สามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติได้ ร้อยละ 39.50 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p <.05) โดยปัจจัยการรับรู้ความสามารถของตนเอง มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติมากที่สุด
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. กระทรวงสาธารณสุข. (2563). แนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขเพื่อการจัดการภาวะระบาดของโรคโควิด-19 ในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1). [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2563], เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/g_other/g_other02.pdf.
3. Pender NJ, Murdaugh CL, Parsons MA. Health promotion in nursing practice. 6th ed. New Jersey: Pearson Education, Inc.; 2006.
4. มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ. รายชื่อนักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2563. [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2563], เข้าถึงได้จาก: htpps://intranet.hcu.ac.th.
5. สำนักทะเบียนและประมวลผล, มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ. คู่มือนักศึกษา ปีการศึกษา 2563. นนทบุรี: เอสอาร์ พริ้นติ้ง แมส โปรดัคท์; 2020.
6. ธวัชชัย วรพงศธร, สุรีพันธุ์ วรพงศธร. การคำนวณขนาดตัวอย่างสำหรับงานวิจัยโดยใชโปรแกรมสำเร็จรูป G*Power. วารสารการส่งเสริมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อม 2018;41(2):11-22.
7. สุรีย์พันธุ์ วรพงศธร. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของ นักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยรามคำแหง. วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์. 2558;10(30):31-48.
8. ธานินทร์ ศิลป์จารุ. การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS และ AMOS. พิมพ์ครั้งที่ 13. กรุงเทพฯ: บิสซิเนสอาร์แอนด์ดี; 2555.
9. Green J, Tones K, Cross R, Woodall J. Health promotion planning & strategies. 3rd ed. London: SAGE Publication; 2015.
10. วนิดา เสนะสุทธิพันธุ์, วีรยา จึงสมเจตไพศาล. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารของวัยรุ่น. วารสารพยาบาลศาสตร์,33(3):30-44.
11. สรวงทิพย์ ภู่กฤษณา, กัญญาวีณ์ โมกขาว, สุริยา ฟองเกิด. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของวัยรุ่นในเขตพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลเมืองชลบุรี. วารสารวิทยาการวิจัยและวิทยาการปัญญา. 2559;14(2): 114-24.
12. สุริยา ฟองเกิด, สรวงทิพย์ ภู่กฤษณา, มนทรา ตั้งจิรวัฒนา, สิบตระกูล ตันตลานุกูล. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของวัยรุ่นไทย. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข,27(4):196-209.
13. เพ็ญพิไล ฤทธาคณานนท์. พัฒนาการมนุษย์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพ ฯ : คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2550.
14. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. จิตวิทยาและวิทยาการการเรียนรู้. นนทบรี:มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช; 2563.
15. วานิช สุขสถาน, สุกัญญา บุญวรสถิต, มลฤดี โพธิ์พิจารย์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับต้นทุนชีวิตและพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ของนักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลและสุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. ราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสุรินทร์. 2560;7(2):2-12.
16. ราชกิจจานุเบกษา. คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 9/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 8). [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2564], เข้าถึงได้: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/199/T_0033.PDF.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
