ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเลี้ยงดูเด็กวัย 1 – 3 ปี ด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส
คำสำคัญ:
สื่ออิเล็กทรอนิกส์, เด็กวัย 1 – 3 ปี, การเลี้ยงดูบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็น วิจัยเชิงพรรณนาแบบหาความสัมพันธ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกในการเลี้ยงดูเด็กวัย 1 – 3 ปีด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเลี้ยงดูเด็กวัย 1 – 3 ปีด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มตัวอย่างคือบิดามารดาหรือผู้ปกครองที่เป็นผู้เลี้ยงดูเด็กวัย 1 – 3 ปี ในจังหวัดอุบลราชธานีจำนวน 196 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามความรู้ในการเลี้ยงดูเด็กวัย 1- 3 ปี และ แบบสอบถามความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตัวในการเลี้ยงดูเด็กวัย 1-3 ปี ด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณจากแบบสอบถามโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และหาความสัมพันธ์ของตัวแปรโดยใช้การคำนวณสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบความชุกของการเลี้ยงดูเด็กวัย 1 – 3 ปีด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ร้อยละ 62.24 โดยส่วนใหญ่ระยะเวลาในการอนุญาตให้เด็กวัย 1 – 3 ปีใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์คือไม่เกิน 30 นาทีต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 33.70 จากการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเลี้ยงดูเด็กวัย 1 – 3 ปีด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พบว่าการปฏิบัติในการเลี้ยงเด็กวัย 1 -3 ปีด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของบิดามารดาหรือผู้ปกครอง ไม่มีความสัมพันธ์กับปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
คำสำคัญ : สื่ออิเล็กทรอนิกส์, เด็กวัย 1 – 3 ปี, การเลี้ยงดูเด็กวัย 1 – 3 ปี
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย. คู่มือสำหรับพ่อแม่เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลและพัฒนาเด็กตอนเด็กวัยอนุบาล 3-6 ปี [อินเทอร์เนต]. 2560[เข้าถึงเมื่อ 24 ตุลาคม 2561]. เข้าถึงจาก :http://www.thaipediatrics.org/Media/media-20171010123112.pdf
3. อภิรพี เศรษฐรักษ์ ตันเจริญวงศ์, ศรีรัฐ ภักดีรณชิต, ญาณวุฒิ เศวตธิติกุล. พฤติกรรมการใช้หน้าจอของเด็กไทยวัย 0 – 3 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร [อินเตอร์เนต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 24 ธันวาคม 2561]. เข้าถึงจาก :http://ejournals.swu.ac.th/index.php/jcosci/article/download/11021/9137
4. กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย. เชียงใหม่: สยามพิมพ์นานาจำกัด; 2556.
5. วสันต์ ปฏิเสน. ทัศนคติของผู้ปกครองที่มีต่อศูนย์ส่งเสริมพัฒนาการเด็กในอำเภอเมืองเชียงใหม่ [การศึกษาอิสระ]เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2553.
6. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. ห่วงเด็กยุค 4.0 ดูทีวี เล่นแท็บเล็ตตั้งแต่ 1 ขวบ [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 1 มิถุนายน 2561]. เข้าถึงจาก: http://www.thaihealth.or.th/Content/39489
7. Reid Chassiakos YL, Readesky J, Christakis D, Moreno MA, Cross C. Children and adolescents and digital media. Pediatrics. 2016;138
8. Cheung CHM, Bedford, R, De Urabain IRS, Karmiloff-Smith A ,Smith TJ.
Daily touchscreen use in infants and toddlers is associated with reduced sleep and delayed sleep onset. [internet]. April 18, 2016 [Cite 2018 Dec 30] Available from :https://www.nature.com/articles/srep46104.pdf .
9. Thompson AL, Adair LS, Bentley ME. Maternal characteristics and perception of temperament associated with infant TV exposure. Pediatrics. 2013;131
10. Lakes KD, Hoyt WT. Promoting self-regulation through school-based martial arts training. J Appl Dev Psycho. 2004;283-302.
11. วีระศักดิ์ ชลไชยะ. ผลของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านจอต่อเด็กและวัยรุ่น. กรุงเทพมหานคร: บียอนด์ เอ็นเทอร์ไพร; 2560.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
