The Outcomes of Empowerment Program on Knowledge and Self-Care Behavior in Preventing and Controlling of Complications in Chronic Obstructive Pulmonary Disease Patients

Authors

  • Kanlaya Kladkaew Christian University of Thailand

Abstract

          This qauasi-experimental research was designed to study the outcomes of empowerment program on knowledge and self-care behavior in preventing and controlling complications in chronic obstructive pulmonary disease patients at the tertiary level hospital in Petchaburi province. Data were collected during June 2012 and August 2012. Purposive sampling with inclusion criteria was used to select 60 patients divided into the control group (n=30) and the experimental group (n=30). The control group included patients who received regular nursing care The experimental group included patients who received empowerment program on  knowledge and self-care behavior in preventing and controlling  complications. The instruments included, 1) the empowerment program on knowledge and self-care behavior in preventing and controlling complications in chronic obstructive pulmonary disease patient, and, 2) questionnaires  are knowledge and self-care behavior in preventing and controlling complications in chronic obstructive pulmonary disease patient. Data were analysed by using percentage, mean and independent t-test.

           The result of this study revealed that : the mean score of knowledge and self-care behavior in preventing and controlling  complications for the experimental group was significantly higher than in the control group (p<.05). In conclusion, the empowerment program on knowledge and self-care behavior in preventing and controlling complications in chronic obstructive pulmonary disease patients can enhance knowledge and self-care behavior in preventing and controlling complications in chronic obstructive pulmonary disease patients. This program should be integrated for other chronic patients.

References

กัลยา วานิชย์บัญชา. (2548). การวิเคราะห์สถิติขั้นสูงด้วย SPSS for Windows. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร : บริษัทธรรมสาร จำกัด.

งานระเบียนและสถิติ โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี (2553). จำนวนผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังโรงพยาบาลพระจอมเกล้า ปี 2551-2553.

จารุณี บันลือ. (2542). คุณภาพชีวิตที่สูญเสียไปของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง.วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิทยาการระบาด บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหิดล.

จันทร์เพ็ญ คำสี. (2546). ผลการใช้โปรแกรมสนับสนุนและการให้ความรู้ต่อการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาการพยาบาลอนามัยชุมชน บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหิดล.

จันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ. (2543). สถานะสุขภาพคนไทย. โครงการสำนักพิมพ์สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กรุงเทพฯ : อุษาการพิมพ์.

ชายชาญ โพธิรัตน์. (2546). โรคภูมิแพ้ในเวชปฏิบัติ 2003. หน่วยวิชาโรคระบบการหายใจและเวชบำบัดวิกฤต ภาควิชาอายุรศาสตร์. คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ชยันต์ธร ปทุมนนท์และคณะ. (2544). ค่าใช้จ่ายและคุณภาพชีวิตที่สูญเสียไปจากการป่วยด้วยโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่. คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ทิพมาส ชินวงษ์, พัชรียา ไชยลังกา, บุศรา เอี้ยวสกุล และเยาวรัตน์ มัชฉิม : 2545

ดารณี จามจุรี (2545). การพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมพลังอำนาจด้านสุขภาพในผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง. ปริญญานิพนธ์ การศึกษาศาตรดุษฏีบัณฑิต. (การวิจัยและพัฒนาหลักสูตร). บัณทิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

_____. (2546). รูปแบบการพยาบาลเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจในผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง. กรุงเทพฯ : สมาเจริญพาณิชย์.

ดวงรัตน์ วัฒนกิจไกรเลิศ (2541). ผลของการใช้ อี เอ็ม จี ไบโอฟีดแบคร่วมกับการผ่อนคลายกล้ามเนื้อแบบโพรเกรสสิพ ต่อความวิตกกังวล การรับรู้สมรรถนะของตนเองในการควบคุมอาการหายใจลำบาก ความทนทานในการออกกำลังกาย อาการหายใจลำบาก และสมรรถภาพปอดในผู้ป่วย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาพยาบาลศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหิดล.

นัยนา อินทร์ประสิทธิ์ (2544). ผลของโปรแกรมการพัฒนาสมรรถนะในตนเองต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลอายุรศาสตร์และศัลยศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

บุญใจ ศรีสถิตย์นากูร. (2550). ระเบียบวิธีการวิจัยทางการพยาบาล.กรุงเทพฯ : ยู แอนด์ ไอ อินเตอร์มิเดีย.

บุญสืบ ศรีไชยยันต์ และ แสงจันทร์ ทองมาก (2538). คู่มือการเรียนรู้ด้วยตนเองสำหรับบุคลากรทางสุขภาพ เรื่องการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ. กรุงเทพมหานคร : ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลดาวัลย์ พริ้นติ้ง.

บุษกร อ่อนโนน (2547). ผลของการสร้างเสริมพลังอำนาจแบบกลุ่มต่อความสามารถในการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวาน. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ประทุมพร รุจิเจริญวรรณ (2553). ผลลัพธ์ของการใช้โปรแกรมการสร้างเสริมพลังอำนาจต่อความรู้และพฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันและควบคุมภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยไตเรื้อรังที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ขั้นสูง บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยคริสเตียน.

ปนัดดา มณีทิพย์ (2550). ผลของการใช้โปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและการได้รับการพยาบาลตามความสามารถในการดูแลตนเองต่อความสามารถในการทำหน้าที่ของร่างกาย ความสามารถในการดูแลตนเองและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ขั้นสูง บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยคริสเตียน.

ปติมา เชื้อตาลี (2548). ผลของการให้ข้อมูลต่อความรู้สึกไม่แน่นอนในความเจ็บป่วยของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลอายุรศาสตร์และศัลยศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ปราณี โทแสง (2548). ผลของโปรแกรมการพยาบาลในรูปแบบการสร้างเสริมพลังอำนาจต่อความรู้สึกสูญเสียพลังอำนาจในผู้ป่วยหัวใจวาย. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

พนารัตน์ เจนจบ. (2542). การศึกษาการนำกระบวนการเสริมสร้างพลังอำนาจตามแนวคิดของกิบสัน การดูแลตนเองของผู้ป่วยโรครูมาตอยด์.

พนอ เตชะอธิก (2541). ผลของโปรแกรมการสร้างเสริมพลังอำนาจอย่างมีแบบแผนต่อความรู้สึกสูญเสียอำนาจในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งล่าง. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

พูนเกษม เจริญพันธ์ (2545). ลักษณะทางเวชกรรมและการวินิจฉัยในการบำบัดระบบการหายใจ (Clinical Diagnosis in Respiratory Care) ในสุมาลี เกียรติบุญศรี (บรรณาธิการ). การดูแลรักษาโรคระบบหายใจในผู้ใหญ่ “Respiratory care in Adult”. กรุงเทพมหานคร : ห้างหุ้นส่วนจำกัดการพิมพ์.

ฟาริดา อิบราฮิม (2546). ปฏิบัติการพยาบาลตามทฤษฎีการพยาบาล. กรุงเทพฯ : สามเจริญพาณิชย์.

เมธิณี จันติยะ (2547). ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

รัชนีพร คนชุม (2547). ผลของการสร้างเสริมพลังอำนาจต่อการปรับตัวด้านอัตมโนทัศน์ในผู้ป่วยมะเร็งที่รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ลินจง โปธิบาล. (2539). การพยาบาลผู้ป่วยโรคระบบหายใจ. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.หน้า 79-103.

วิไลวรรณ ทองเจริญ. (2536). อาการไอและอาการหายใจลำบาก ใน จรัสวรรณ เทียนประภาส และพัชรี ตันศิริ (บรรณาธิการ). การพยาบาลผู้สูงอายุ.พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์รุ่งเรืองธรรม.

สรินยา ไชยนันท์. (2551). การมีส่วนร่วมของครอบครัวในการดูแลผู้ที่เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่บ้านในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลชุมชน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

สมเกียรติ วงษ์ทิม. (2546). การดูแลผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในโรงพยาบาล. ใน เวชปฏิบัติผู้ป่วยใน (หน้า 216-241) กรุงเทพฯ : โครงการตำราจุฬาอายุรศาสตร์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สมจิต หนุเจริญกุล (2547). การดูแลตนเอง:ศาสตร์และศิลปะทางการพยาบาล. กรุงเทพฯ : วี.เจ.พริ้นติ้ง.

สมพันธ์ หิญชีระนันทน์ และ ศากุล ช่างไม้. (2554). การจัดการกับอาการของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยคริสตียน ปีที่ 17 ฉบับที่ 3 หน้า 393-410.

สุพร มหาวรากร (2551). ผลของการสร้างเสริมพลังอำนาจต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีภาวะแทรกซ้อนโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและส่งเสริมสุขภาพ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

สำนักการพยาบาล กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (2546). รูปแบบการพยาบาลเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจในผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง. กรุงเทพฯ : สำนักการพยาบาล กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.

สินีนาถ มีเจริญ (2541). ผลของการใช้เทคนิคผ่อนคลายร่วมกับการหายใจแบบเป่าปากต่อความสุขสบายในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลอายุรศาสตร์และศัลยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

สุมลรัตน์ อาจกูล (2548). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการดูแลตนเองต่ออาการหายใจลำบากของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่. บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุจิตรา เหลืองอมรเลิศ (2537). การพยาบาลผู้ป่วยเรื้อรัง: มโนมติสำคัญสำหรับการดูแล. กรุงเทพฯ : ห้างหุ้นส่วนจำกัด ขอนแก่นการพิมพ์.

สุพัตรา สิงห์อุตสาหะชัย. (2550). ผลของการพยาบาลแบบสนับสนุนและให้ความรู้ ความสามารถในการดูแลตนเอง ความพึงพอใจต่อการพยาบาลและผลลัพธ์ทางคลินิกของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่รักษาด้วยเครื่องไตเทียม. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา.

สุรีย์ สมประดีกุล (2546). โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. ใน สมบูรณ์ คุณาธิคม และ ปรียานุช แย้มวงษ์ (บรรณาธิการ), เวชปฏิบัติในหน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิ (หน้า 243-252). กรุงเทพฯ : พี.เอ.ลิฟวิ่ง.

สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย (2548). แนวทางการตรวจสมรรถภาพปอดด้วยเครื่องสไปโรเมตรีย์. กรุงเทพฯ : ไม่ปรากฏสถานที่พิมพ์.

_____.(2548). แนวทางการวินิจฉัยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในประเทศไทย. (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2548). กรุงเทพฯ : ไม่ปรากฏสถานที่พิมพ์.

สำนักการพยาบาล กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. (2546). รูปแบบการพยาบาลเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจในผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง. กรุงเทพฯ : สำนักการพยาบาล กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.

อัมพรพรรณ ธีรานุตรและคณะ (2540). การศึกษาพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง.วารสารศูนย์การศึกษาต่อเนื่อง. 5(2):41-46.

อัมพรพรรณ ธีรานุตรและคณะ (2540). การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการดูแลตนเองในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วารสารกรมการแพทย์. 22(9):354-364.

อัมพรพรรณ ธีรานุตร (2542). โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง : การดูแลตนเองและการฟื้นฟูสภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 1. ขอนแก่น : โรงพิมพ์ศิริภัณฑ์ออฟเซ็ท.

American Lung Association (2004). Chronic obstructive pulmonary disease (COPD). Retrieved May 9,2011, from https://www.lungusa.org.

Anderson,K.L. (1995). The effect of Chronic obstructive pulmonary disease on quality of life.Research in Nursing and Health 18(6):547-556

Boot,C.R.L. (2004). Knowledge about asthma and COPD : associations with sick leave,health complaints,functional limitations,adaptation and perceived control. Patient Education and Counseling 52:257-262.

Brashers,V.L. (2002). Chronic obstructive pulmonary disease. In Clinical applications of pathophysiology : Assesment,diagnostic reasoning and management.St.Louis : Mosby.

British Thoracic Society (1997). Pulmonary rehabilitation. Thorax, 56, 827-834.

Devito,A.J. (1990). Dyspnea during hospitalization for acute phase of illness as recalled by patients with chronic obstructive pulmonary disease. Heart & Lung 19(1):186-191.

Fabio Pitta et al (2005). Characteristics of physical Activities in Daily Life in COPD. Am J Respir Crit Med 171:972-977.

Falk-Rafael,A.R. (2001). Empowerment as aprocess of evoling Consciousness : A model of Empowered Caring.Advance Nursing Science 24(1):1-16.

Gibson, C.H. (1991). A concept analysis of empowerment. Journal of Advanced Nursing, 16 (3), 354-361.

------ (1995). The process of empowerment in mother of chronically ill children. Journal of Advanced Nursing, 21(6), 1201-1210

Jadranka S,Michel D.M& Alejandra G,(2006). Effect of Inposed Pursed-Lip Breathing on Respiratory Mechanics and Dyspnea at rest and during in COPD. Chest (19):640-650.

John,L.M. (2001). Management of Dyspnea in patient with far-advanced lung disease: “Once I lose it,it's kind of hard to catch it…”. JAMA. 285(10):1331-1337.

Malas et al. (2003). Cadiac or pulmonary dyspnea in patients admitted to the emergency department. Respiratory Medicine 97:1271-1281.

Miller,J.F. (1992). Coping with chronic illness : Overcoming powerlessness. 2nd ed. Philadelphia : F.A.Davis.

Orem, D.E. (1995). Nursing : Concepts of Practice. St. Louis : Mosby Year Book.:101.

Orem, D.E, Taylor, S.G., Renpening, K.M. (2001). Nursing : concepts of Practice. St. Louis : Mosby Year Book.

Sandford,A.J., and Silverman,E.K. (2002). Chronic obstructive pulmonary disease:Susceptibility factor for COPD the genotype-environment interaction. Thorax 57:736-741.

Sassi-Dambrom,D.E.,Eakin,E.G.,Ries,and Kaplan,R.M. (1995). Treatment of dyspnea in COPD controlled clinical trial of dyspnea management strategies. Chest 107:724-729.

Scherer Y.K.,et al., (1997). The effect of pulmonary rehabilitation program on self-efficacy,perception of dyspnea and physical endurance. Heart & Lung 26(1):15-22.

Sheahan,S.L.,& Musialowski,R.(2001).Clinical implication of Respiratory system changes in aging.Journal of Gerontological Nursing 27(5):26-34.

Supaporn Duanhpaeng (2002). Chronic dyspnea management of Thai adults with Chronic obstructive pulmonary disease.Dissertion, Doctoral dissertation,Nursing Science Faculty of Graduate Studies Mahidol University.

Tiep,B.L. (1997). Review : Disease management of COPD withpulmonaryrehabilitation. Chest 112:1630-1659.

Truesdell,S.(2002).Helping patients with COPD manage episodes of acute shortnees of Breath. Medsurg Nursing 9(4):178-182.

Witta,K.M. (1997). COPD in the elderly : Controlling symptoms and improving quality of life. Advance for Nurse Practitioner 5(7):18-20,22-23,27,72.

Woo,K.(2000). A Pilot study to examine the relationships of dyspnea physical activity and fatigue in patients with COPD .Journal of Clinica l Nursing 9:526-533.

Downloads

Published

2013-08-31

Issue

Section

Research Article