การประยุกต์ใช้ทฤษฎีของโอเร็มในการพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะหายใจลำบากเฉียบพลัน ที่ได้รับการรักษาด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจ: กรณีศึกษา

Main Article Content

สุนิสา เดชพิชัย
จิราภรณ์ ชูวงศ์

บทคัดย่อ

         กลุ่มผู้ป่วยวิกฤตที่มีภาวะหายใจลำบากเฉียบพลัน ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาร่วมกับการใส่ท่อหลอดลมคอและใช้เครื่องช่วยหายใจ พยาบาลมีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น และลดอัตราการเสียชีวิตลงได้


          การศึกษาครั้งนี้ นำกรอบแนวคิดทฤษฎีการพยาบาลของโอเร็มมาประยุกต์ใช้ในการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตที่มีภาวะหายใจลำบากเฉียบพลัน โดยใช้ทฤษฎีระบบการพยาบาล 3 ระยะ คือ 1) ระยะทดแทนทั้งหมด 2) ระยะทดแทนบางส่วน และ 3) ระยะการพยาบาลแบบสนับสนุนและให้ความรู้ โดยนำมาใช้ในการดูแลกรณีศึกษา 2 ราย เพศชาย อายุ 16 และ 39 ปี ได้รับการวินิจฉัยเป็นภาวะหายใจลำบากเฉียบพลัน ซึ่งมีสาเหตุจากการติดเชื้อในกระแสเลือดแบบรุนแรง ระยะเวลาการรักษาตัวในโรงพยาบาล 11 วัน และ 10 วัน ตามลำดับ ปัญหาทางการพยาบาลแบ่งเป็น ระยะแรกรับ ระหว่างการได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจ การหย่าเครื่องช่วยหายใจ หลังหย่าเครื่องช่วยหายใจ และส่งต่อไปรับการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อวางแผนจำหน่าย ผลลัพธ์ภายหลังการดูแลผู้ป่วยทั้งสองราย พบว่า ผู้ป่วยสามารถผ่านภาวะวิกฤตได้อย่างปลอดภัย ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนขณะรับการรักษาและฟื้นหายจากภาวะเจ็บป่วย สามารถจำหน่ายกลับบ้านได้


          ข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษาคือ พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยหนักต้องมีความรู้ความเข้าใจในการนำทฤษฎีการพยาบาลของโอเร็มไปประยุกต์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะวิกฤต โดยเฉพาะการประเมินภาวะสุขภาพ เพื่อกำหนดข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลและใช้ทฤษฎีระบบการพยาบาลในการวางแผนและให้การพยาบาลอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากโรคและภาวะแทรกซ้อน


 

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

บท
กรณีศึกษา

References

ฉันชาย สิทธิพันธุ์ (2559). How to manage ARDS. ใน อำนาจ ชัยประเสริฐ, ต้นตนัย นำเบญจพล, สิริกานต์ เตชะวณิช, จันทราภา ศรีสวัสดิ์, และวิชัย ประยุรวิวัฒน์ (บ.ก.), Emergency Medicine (น. 107-116). กรุงเทพฯ: นำอักษรการพิมพ์.

ธนรัตน์ พรศิริรัตน์, และสุรัตน์ ทองอยู่. (2559). การพยาบาล ผู้ป่วยภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลันที่ใช้เครื่องพยุงการทำงานของหัวใจและปอด ECMO, เวชบันทึกศิริราช, 9(1), 44-50.

บดินทร์ ขวัญนิมิตร (2560). Sepsis 2017: Their guideline vs my practice ใน: ดุสิต สถาวร, ครรชิต ปิยะเวชวิรัตน์, สหดล ปุญญถาวร (บ.ก.), The Best ICU (น. 156-162). กรุงเทพฯ: บียอนด์เอ็นเทอร์ไพรซ์.

พารุณี วงษ์ศรี, และทีปทัศน์ ชินตาปัญญากุล. (2561). การประยุกต์ใช้ทฤษฎีของโอเร็มกับการดูแลและการให้คำแนะนำผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว. วารสารพยาบาลตำรวจ, 10(1), 209-219.

พิมพ์ลักษณ์ รังษีภโนดร, ชัชวาล วงค์สํารี และอัมพร เจียงวิริชัยกูร. (2561). การประยุกต์ใช้ทฤษฎีการดูแลตนเองของโอเร็มในการดูแลป้องกันการเกิดแผลที่เท้าของผู้ป่วยโรคเบาหวาน. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชียฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 12(3), 89-100.

พร้อมจิตร ห่อนบุญเหิม (2553). ทฤษฎีการพยาบาลองโอเร็มแนวคิดและการประยุกต์. มหาสารคาม: อภิชาติการพิมพ์.

พุทธพงศ์ นิภัสตรา (2561). กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน: การรักษาตามหลักฐานเชิงประจักษ์. พุทธชินราชเวชสาร, 35(1), 116-128.

ฟาริดา อิบราฮิม (2546). ปฏิบัติการพยาบาลตามกรอบทฤษฎีการพยาบาล. กรุงเทพฯ: สามเจริญพานิชย์.

เยาวรัตน์ มัชฌิม, และธาวินี ช่วยแท่น (2562). สถานการณ์ตัวอย่างผู้ป่วยที่มีภาวะหายใจวายจากกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน. ใน กันตพร ยอดใชย, ทิพมาส ชิณวงศ์, และเพลินพิศ ฐานิวัฒนานท์ (บ.ก.), การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุทางอายุรศาสตร์ 2 เล่ม 2 (น. 49-64). สงขลา: โอน้อย.

ฝ่ายเวชระเบียน โรงพยาบาลตรัง. (2562). สถิติผู้ป่วยโรงพยาบาลตรัง. ตรัง: โรงพยาบาลตรัง.

วีรพงศ์ วัฒนาวนิช, และสุพัตรา อุปนิสากร (2560). การบริหารยาผู้ป่วยวิกฤตและฉุกเฉิน. กรุงเทพฯ: สหมิตรพัฒนา.

สมจิต หนุเจริญกุล. (2543). การพยาบาล: ศาสตร์ของการปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: วี เจ พริ้นติ้ง.

อนัฆพงษ์ พันธุ์มณี (2559). Acute respiratory distress syndrome. ใน อนุพล พาณิชย์โชติ, ปณิตา ลิมปะวัฒนะ, ศิรภพ สุวรรณโรจน์, และจิตติมา ศิริจีระชัย (บ.ก.), อายุรศาสตร์ฉุกเฉิน Emergency medicine (น. 173-178). ขอนแก่น: คลังนานาวิทยา.

อมรชัย เลิศอมรพงษ์. (2559). Acute respiratory distress syndrome. ใน อำนาจ ชัยประเสริฐ, ต้นตนัย นำเบญจพล, สิริกานต์ เตชะวณิช, จันทราภา ศรีสวัสดิ์, และวิชัย ประยุรวิวัฒน์ (บ.ก.), Emergency Medicine (น. 107-116). กรุงเทพฯ: นำอักษรการพิมพ์.

อัสมา นวสกุลพงศ์. (2562). Ventilatory management in acute respiratory distress syndrome. ใน ดวงกมล เอี่ยวเรืองสุรัติ, และพัฒน์ ก่อรัตนคุณ (บ.ก.), อายุรศาสตร์สงขลานครินทร์ เล่ม 1: การดูแลผู้ป่วยวิกฤตและฉุกเฉินทางอายุรศาสตร์ (น. 2-17). กรุงเทพฯ: ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

Berbiglia, V. (2014). Orem’s self-care deficit theory in nursing practice. In M. R. Alligood. (Ed.), Nursing theory utilization & application (5th ed.) (p. 222-244). St. Louis: Mosby.

Carlucci, M., Graf, N., Simmons, J. Q., & Crbridge, S. J. (2014). Effective management of ARDS. Nurse Practitioner, 39(12), 35-40. DOI: 10.1097/01.NPR.0000454981.96541.e6

Marion, B. S. A. (2001). Turn for the Better: Prone Positioning of Patients with ARDS: A guide to the physiology and management of this effective, underused intervention. American Journal of Nursing, 101(4): 26-34.

Matthay, M. A., & Zemans, R. L. (2011). The Acute respiratory distress syndrome: Pathogenesis and treatment. Annual Review of Pathology, 28(6), 147-163.

Orem, D. E., Taylor, S. G., & Renpenning, K. M. (2001). Nursing: Concepts of practice (6th ed.). St. Louis: Mosby.