Template Development for Bachelor’s Degree Curriculum of Nakhon Pathom Rajabhat University
DOI:
https://doi.org/10.14456/jmu.2021.41Keywords:
template, curriculum, Bachelor’s DegreeAbstract
This research aimed to: 1) create a template for Bachelor's Degree curriculum of Nakhon Pathom Rajabhat University compliant with the Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation standard; and 2) study the satisfaction of curriculum coordinators with the template used, as classified by personal factors. Mixed method research was used in this study. The research population was 17 Bachelor's Degree curriculum coordinators of Nakhon Pathom Rajabhat University. The key informant was 3 experts who has curriculum standard control specialty and experience, derived by purposive sampling. The research instruments were a semi-structured interview and a questionnaire with the acceptable content validity. The statistics used for data analysis were mean, percentage, standard deviation, t-test, one-way analysis of variance, and content analysis.
The research results were as follows: 1) The template for Bachelor’s Degree curriculum of Nakhon Pathom Rajabhat University was compliant with the Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation standard. 2) Overall, the curriculum coordinators were satisfied with the template for Bachelor’s Degree curriculum of Nakhon Pathom Rajabhat University at a high level. There was no statistical difference at the level of .05 among curriculum coordinators with different personal factors.
References
กัญจนพร จันทร์คำ. (2562). คู่มือปฏิบัติงานการตรวจรูปแบบหลักสูตร มคอ.2. นครสวรรค์: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย เล่ม 1 (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2558. (2558). ราชกิจการนุเบกษา (เล่มที่ 132). ตอนพิเศษ 295ง 5-6 (13 พฤศจิกายน)
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง แนวทางการบริหารเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2558. (2558). ราชกิจการนุเบกษา (เล่มที่ 132). ตอนพิเศษ 295ง 25-30 (13 พฤศจิกายน)
พงษ์ศักดิ์ ผกามาศ, ปรางทิพย์ เสยกระโทก และนพมาศสิริ วงศ์บา. (2554). “การพัฒนาระบบไอซีทีเพื่อสนับสนุนการจัดการความรู้รายวิชาการวิจัยทางการศึกษา.”วารสารสารสนเทศศาสตร์, 29, 3 (กันยายน-ธันวาคม), 1-13.
ไมตรี ริมทอง และชัดชัย แก้วตา. (2557). การจัดการงานเอกสารด้วยโปรแกรม Microsoft Word. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
รัตนาภรณ์ ศรีหาพล และรอปีมิง แมะเราะ. (2556). รายงานการวิจัยเรื่อง ความพึงพอใจต่อการใช้บริการระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา. ยะลา: มหาวิทยาลัย-ราชภัฏยะลา.
วรรศร จันทรโสลิด.(2560).การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในองค์กร กรณีศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. งานค้นคว้าอิสระวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร, วิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย-ธุรกิจบัณฑิตย์.
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา.(2558). มคอ.2 รายละเอียดหลักสูตร. ค้นเมื่อ สิงหาคม 13,2563, จาก http://www.mua.go.th/users/bhes/front_home/catalog_form/Report_02-06-2558-12062560/2558-2- Programme%20Specification.pdf
สุคนธ์ทิพย์ คำจันทร์ และสุปราณี วงษ์แสงจันทร์. (2562). “การวิจัยและพัฒนาต้นแบบซอฟต์แวร์ระบบการจัดทำรายละเอียดรายวิชาตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ: กรณีศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย.” วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 13,2 (พฤษภาคม-สิงหาคม), 115-131
Downloads
Published
Issue
Section
License
ข้อความลิขสิทธิ์ (Copyright text)
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร Mahidol R2R e-Journal กองทรัพยากรบุคคล มหาวิทยาลัยมหิดล อนุญาตให้นำข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ไปพิมพ์เผยแพร่ได้ แต่ห้ามนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ หรือมีเจตนาเอื้อผลประโยชน์ในทางธุรกิจใดๆ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่าน ความรับผิดชอบ องค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
ผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflicts of Interest)
ผู้ประพันธ์ต้องเปิดเผยเป็นลายลักษณ์อักษร (ระบุในรายงาน)ถึงทุกปัจจัยรวมทั้งปัจจัยด้านการเงินที่อาจมีอิทธิผลต่อ การศึกษาผลการศึกษาหรือข้อสรุปจากรายงานการศึกษาวิจัย และจำเป็นต้องระบุหากได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก แหล่งทุนภายนอกเพื่อให้สอดคล้องกับคำประกาศของบรรณาธิการ ผู้ร่วมประพันธ์ทุกท่านต้องมีส่วนร่วมในผลงานการศึกษาวิจัย และควรมีการระบุไว้อย่างชัดเจนในหนังสือปะหน้าประกอบการส่งเรื่องที่จะตีพิมพ์ รวมทั้งระบุไว้ในส่วนของกิตติกรรมประกาศ (acknowledgements) ในตอนท้ายของรายงานต้นฉบับ