Satisfaction of Lecturers and Support Staff in Curriculum Development Services of the Office of Education Management and Student Affairs, Faculty of Public Health, Mahidol University
DOI:
https://doi.org/10.14456/jmu.2017.11Keywords:
Thai Qualifications Framework for Higher Education, Curriculum DevelopmentAbstract
This study aims to 1) evaluate the satisfaction of lecturers and support staff in curriculum development services and 2) determine the relationship between personal factors and their satisfaction. The study was conducted by surveying in 136 lecturers and support staff the satisfaction of curriculum development services of the Office of Education Management and Student Affairs (OEMSA), Faculty of Public Health, Mahidol University in academic year 2015 during April-July, 2015. Ninety six questionnaires were returned (70.58%). Data were analyzed using SPSS computer program for percentage, mean, standard deviation and the chi-squared test. The majority of subjects were female, aged 51 and lecturer position with holding doctoral degree. However, only 25% of them worked in the Master’s Degree Curriculum Development Committee. The survey was done in three points, i.e. the knowledge and skills of, the supporting services by and systemic administration by OEMSA staff. Our findings showed that the supporting services by OEMSA staff is most satisfied (score 4.25), particularly in the issue of politeness of the staff (score 4.54), followed by knowledge and skills of the staff (score 3.97), particularly in the issue of curriculum development knowledge (score 4.04), and systemic administration by the staff (score 3.87), particularly in managing the developed curriculums forwards to reviewing by certain committee (score 4.00). Finally, it was found that gender, age, academic degree and position are not related to the satisfaction of lecturers and support staff in curriculum development services (p > 0.05).
References
2. คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. (2558).การศึกษา. [Online] สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม, 2558 เข้าถึงได้จากhttp://www.ph.mahidol.ac.th/ed/dgree/phwtm.html
3. ทองสุข ธนูรัตน์. (2538). ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของอาจารย์วิทยาลัยเทคนิคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาทางด้านช่างอุตสาหกรรม. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
4. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล. (2558). ขั้นตอนการเสนอหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา. [Online] สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม, 2558 เข้าถึงได้จากhttp://intranet.grad.mahidol/syllabus/ step/.
5. ประคอง กรรณสูตร. (2542). สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
6. ปิยธิดา ตรีเดช, พีระ ครึกครื้นจิตร, สมชาติ โตรักษา. (2552). หลักการบริหารจัดการ. กรุงเทพฯ: บริษัท เอส.พี.เอ็น. การพิมพ์ จำกัด.
7. พิมล เมฆสวัสดิ์ (2549). การประเมินคุณภาพบริการสํานักหอสมุดกลางมหาวิทยาลัยศรีครินทรวิโรฒ. กรุงเทพฯ: สํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยศรนครินทรวิโรฒ.
8. พิณ ทองพูน. (2529). ความพึงพอใจที่มีต่อบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการการประถมศึกษาจังหวัดใน 14 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงขลา: ม.ป.ป. (อัดสำเนา).
9. พิทักษ์ ตรุษทิม. (2538). ความพึงพอใจของประชาชนต่อระบบและกระบวนการให้บริการของกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาพัฒนาสังคม, บัณฑิตวิทยาลัย, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
10. ไพรพนา ศรีเสน. (2544). ความคาดหวังของผู้รับบริการต่อคุณภาพบริการในงานผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศิริราช คณะแพทย์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหิดล, นครปฐม.
11. มหาวิทยาลัยรามคำแหง. (2555).ความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการให้บริการด้านการจัดการศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดตรัง. งานวิจัย. มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดตรัง.
12. ราชบัณฑิตสถาน. (2530). พจนานุกรมฉบับเฉลิมพระเกียรติ (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช จำกัด.
13. วรรณวิมล จงจรวยกุล. (2551).ความพึงพอใจในการให้บริการของงานทะเบียนและวัดผล. งานวิจัย R2R. มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์.
14. วรนารถ แสงมณี. (2547). การบริหารทรัพยากรมนุษย์/งานบุคคล (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: ประสิทธธิภัณฑ์แอนพริ้นติ้ง.
15. วิมลสิทธิ์ หรยางกูร. (2526). พฤติกรรมของมนุษย์กับสภาพแวดล้อม. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
16. วิชัย เหลืองธรรมชาติ (2531).ความพึงพอใจและการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมใหม่ของประชากร ในหมู่บ้านอพยพโครงการเขี่อนรัชชประภา(เชี่ยวหลาน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจ, สาขาบริหารธุรกิจ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
17. วีระพงษ์ เฉลิมจิระรัตน์. (2538). คุณภาพในงานบริการ. กรุงเทพฯ : สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น).
18. สงัด อุทรานันท์. (2532). พื้นฐานและการพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพฯ: มิตรสยาม.
19. สมิต สัชฌุกร. (2546). การต้อนรับและบริการที่เป็นเลิศ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์สานธาร.
20. สุเทพ พานิชพันธุ์. (2541). ความพึงพอใจของเกษตรกรในการเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
21. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
22. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา.(2552). ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2552. กรุเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.
23. หลุย จำปาเทศ. (2533). จิตวิทยาการจูงใจ.กรุงเทพฯ: บริษัทสามัคคีสาส์น จำกัด.
24. หทัยรัตน์ ประทุมสูตร. (2542). ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของพยาบาล โรงพยาบาลชุมชน จังหวัดพิษณุโลก. วิทยานิพนธ์ กศ.ม.,มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก.
25. Kenya Projects Organization [KENPRO]. (2015). Providing Project Management, Research, IT and Publishing projects Solutions.[Online] สืบค้นเมื่อ 16 สิงหาคม 2558 เข้าถึงได้จากhttp://www.kenpro.org/sample-size- determination-using-krejcie-and-morgan-table/.August 21, 2014.
26. Saylor and Alexander. (1974). การพัฒนา หลักสูตร. [Online] สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2557.เข้าถึงได้จาก http://www.kroobannok.com/blog/79031.
Downloads
Published
Issue
Section
License
ข้อความลิขสิทธิ์ (Copyright text)
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร Mahidol R2R e-Journal กองทรัพยากรบุคคล มหาวิทยาลัยมหิดล อนุญาตให้นำข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ไปพิมพ์เผยแพร่ได้ แต่ห้ามนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ หรือมีเจตนาเอื้อผลประโยชน์ในทางธุรกิจใดๆ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่าน ความรับผิดชอบ องค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
ผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflicts of Interest)
ผู้ประพันธ์ต้องเปิดเผยเป็นลายลักษณ์อักษร (ระบุในรายงาน)ถึงทุกปัจจัยรวมทั้งปัจจัยด้านการเงินที่อาจมีอิทธิผลต่อ การศึกษาผลการศึกษาหรือข้อสรุปจากรายงานการศึกษาวิจัย และจำเป็นต้องระบุหากได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก แหล่งทุนภายนอกเพื่อให้สอดคล้องกับคำประกาศของบรรณาธิการ ผู้ร่วมประพันธ์ทุกท่านต้องมีส่วนร่วมในผลงานการศึกษาวิจัย และควรมีการระบุไว้อย่างชัดเจนในหนังสือปะหน้าประกอบการส่งเรื่องที่จะตีพิมพ์ รวมทั้งระบุไว้ในส่วนของกิตติกรรมประกาศ (acknowledgements) ในตอนท้ายของรายงานต้นฉบับ