การศึกษาปริมาณรังสี และค่าดัชนีบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงของปริมาณรังสี ในการถ่ายภาพ เอกซเรย์ทรวงอกเคลื่อนที่ของทารกแรกคลอดหอผู้ป่วยวิกฤติ

ผู้แต่ง

  • อุษณา แรงทอง โรงพยาบาลบางพลี

คำสำคัญ:

ทารกแรกคลอด, เอกซเรย์ทรวงอกเคลื่อนที่, ปริมาณรังสี, ค่าดัชนีบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงของปริมาณรังสี

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์:  เพื่อศึกษาปริมาณรังสีที่ทารกแรกคลอดได้รับจากการถ่ายภาพเอกซเรย์ทรวงอกเคลื่อนที่ วิเคราะห์ดัชนีบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงของปริมาณรังสี และประเมินความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณรังสี

รูปแบบการวิจัย: เป็นการศึกษา Cross-sectional descriptive study

วัสดุและวิธีการวิจัย: ศึกษาในทารกแรกคลอดหอผู้ป่วยวิกฤติ จำนวน 58 ราย วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างค่าปริมาณรังสีที่ผิวผู้ป่วยได้รับ (ESAK) กับพารามิเตอร์ต่างๆ ได้แก่ ค่ากระแสหลอดคูณเวลา (mAs) ค่าความต่างศักย์ไฟฟ้า (kVp) ความหนาของทรวงอก ขนาดลำรังสี และน้ำหนักของทารก

ผลการวิจัย: ก่อนการพัฒนาปรับปรุง ค่า ESAK เฉลี่ย 1.36 ± 0.05 mGy หลังปรับปรุงลดลงเหลือ 0.06 ± 0.01 mGy (ลดลงร้อยละ 95.58, p <.001) ค่า mAs มีความสัมพันธ์สูงที่สุดกับปริมาณรังสี (r = 0.991) รองลงมาคือ kVp (r = 0.885) และความหนาทรวงอก (r = 0.421) ส่วนขนาดลำรังสีและน้ำหนักไม่สัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ ค่า DI อยู่ในช่วงเหมาะสม (DI ± 3) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 55.17 เป็น 94.83 ภายหลังการปรับปรุง และ Overexposure ลดลงจากร้อยละ 44.83 เหลือ 5.17 ค่าปริมาณรังสีหลังปรับปรุงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอ้างอิงของประเทศไทย (≤ 0.06 mGy)

สรุปและข้อเสนอแนะ: การปรับปรุงเทคนิคการถ่ายภาพเอกซเรย์ทรวงอกเคลื่อนที่ช่วยลดปริมาณรังสีที่ทารกแรกคลอดได้รับได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่กระทบต่อคุณภาพภาพถ่ายสำหรับการวินิจฉัย โดยมีค่า mAs และ kVp เป็นปัจจัยหลักในการควบคุมปริมาณรังสี

เอกสารอ้างอิง

สำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. การป้องกันอันตรายจากเครื่องกำเนิดรังสีเอกซ์ทางการแพทย์. นนทบุรี: บริษัท ศูนย์การพิมพ์แก่นจันทร์ จำกัด; 2564.

สำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. การป้องกันอันตรายจากเครื่องกำเนิดรังสีเอกซ์ทางการแพทย์. นนทบุรี: สำนักรังสีและเครื่องมือแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข; 2566.

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. ค่าปริมาณรังสีอ้างอิงในการถ่ายภาพรังสีวินิจฉัยทางการแพทย์ของประเทศไทย 2566. บียอนด์ พับลิสชิ่ง; 2566.

ธานินทร์ ศิลป์จารุ. การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS และ AMOS. พิมพ์ครั้งที่ 18. กรุงเทพฯ: เอส อาร์ พริ้นติ้ง แมสโปรดักส์, 2563.

บรรจง เขื่อนแก้ว. บทนำสู่การสร้างภาพรังสีดิจิทัล. การสร้างภาพรังสีดิจิตอล. พิมพ์ครั้งที่ 1. ขอนแก่น: การผลิตตำรา มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2561.

ธัญรัตน์ ชูศิลป์, ฐิติพงศ์ แก้วเหล็ก. ตัวบ่งชี้ปริมาณรังสีในระบบการถ่ายภาพรังสีแบบดิจิทัล. วารสารรังสีเทคนิค. 2561;43(1):21-8.

The American Association of Physicists in Medicine. AAPM Response in Regards to CT Radiation Dose and its Effects [Internet]. 2009 [cited 2023 June 1]. Available from: http://w3.aapm.org/media/releases/CTDoseResponese.php.

ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล. Radiation Protection การป้องกันรังสี x-ray [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 12 ธันวาคม 65]. เข้าถึงได้จาก: https://www.rama.mahidol.ac.th/radiology/sites/default/files/public/training/Protection2018.pdf

ธนากร สมิธ. กฎกระทรวง ความปลอดภัยทางรังสี พ.ศ. 2561 [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2568]. เข้าถึงจาก: https://slideplayer.in.th/slide/16667955/

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

เผยแพร่ 2025-10-17 — ปรับปรุง 2025-10-17

เวอร์ชัน

รูปแบบการอ้างอิง

1.
แรงทอง อ. การศึกษาปริมาณรังสี และค่าดัชนีบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงของปริมาณรังสี ในการถ่ายภาพ เอกซเรย์ทรวงอกเคลื่อนที่ของทารกแรกคลอดหอผู้ป่วยวิกฤติ. J Res Health Inno Dev [อินเทอร์เน็ต]. 17 ตุลาคาม 2025 [อ้างถึง 5 ธันวาคม 2025];6(3):277-86. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jrhi/article/view/283325

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความต้นนิพนธ์