ผลของแนวทางการส่งเสริมคุณภาพสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยด้านสุขภาพต่อพัฒนาการเด็ก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์
คำสำคัญ:
เด็กปฐมวัย, แนวทาง 4D, พัฒนาการ, สุขภาพ, ความพึงพอใจบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของแนวทางการส่งเสริมคุณภาพสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยด้านสุขภาพ (4D: Diet, Development & Play, Dental, Disease) ต่อพัฒนาการด้านสุขภาพของเด็กปฐมวัย และศึกษาความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
รูปแบบการวิจัย: การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental research) แบบกลุ่มควบคุมเปรียบเทียบก่อน-หลังการทดลอง (Pretest–Posttest Two-Group Design)
วัสดุและวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจำนวน 42 คน (กลุ่มทดลอง n=21, กลุ่มควบคุม n=21) โดยกลุ่มทดลองเข้าร่วมกิจกรรมตามแนวทาง 4D เป็นเวลา 4 เดือน ขณะที่กลุ่มควบคุมดำเนินกิจกรรมตามปกติ เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย แนวทาง 4D (เครื่องมือทดลอง) แบบประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัยของกรมอนามัย (DSPM) แบบบันทึกกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม และแบบประเมินความพึงพอใจ
ผลการวิจัย: พบว่า หลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยพัฒนาการด้านสุขภาพสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในทุกมิติ (p<.05) และคะแนนเฉลี่ยของกลุ่มทดลองยังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากก่อนการทดลอง สำหรับด้านความพึงพอใจ ทีมสหวิชาชีพมีความพึงพอใจโดยรวมในระดับมากที่สุด (Mean=4.65, SD.=0.37) ขณะที่ผู้ปกครองและครูผู้ดูแลเด็กมีความพึงพอใจโดยรวมในระดับมาก (Mean=4.25, SD.=0.45 และ Mean=4.10, SD.=0.36 ตามลำดับ) โดยทุกกลุ่มมีความพึงพอใจสูงสุดในด้านโภชนาการและการเจริญเติบโต และพัฒนาการและการเล่น อย่างไรก็ตาม ด้านที่ได้รับความพึงพอใจต่ำสุดจากครูคือด้านโภชนาการ และจากผู้ปกครองคือด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม
สรุปและข้อเสนอแนะ: แนวทาง 4D สามารถส่งเสริมพัฒนาการด้านสุขภาพของเด็กปฐมวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับการยอมรับในระดับสูงจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ผลวิจัยนี้สามารถใช้เป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับการวางแผนและดำเนินกิจกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพการดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Shonkoff J P, Phillips D A, editors. From neurons to neighborhoods: the science of early childhood development. Washington, DC: National Academies Press; 2000.
Center on the Developing Child. Brain architecture. Cambridge, MA: Harvard University; 2008.
กรมอนามัย. รายงานข้อมูลสุขภาพเด็กอายุ 0-5 ปี. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2567.
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย. นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข; 2566.
วงษ์ชัย จิราภรณ์, วงษ์จันทร์ ประนอม, สุริโย สุภาวดี. ผลของโครงการส่งเสริมสุขภาพช่องปากต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพและภาวะฟันผุของเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพชุมชน. 2562;5(1):79-90.
ชูเชิด พนิดา. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพเด็กโดยชุมชนมีส่วนร่วม. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. 2564;9(2):89-100.
Health Data Center สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์. รายงานสถานการณ์สุขภาพเด็กปฐมวัยอำเภอศรีเทพ ปี 2568. เพชรบูรณ์: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์; 2568.
กรมอนามัย. แนวทางส่งเสริมสุขภาพเด็กปฐมวัยด้วยนวัตกรรม 4D. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2566.
สถาพร โปธาคำ, อารีย์ เจริญสุข และคณะ. การพัฒนาแนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก. วารสารการศึกษาและพัฒนาสังคม. 2561;15(2):12-25.
Faul F, Erdfelder E, Lang A G, Buchner A. G*Power 3: A flexible statistical power analysis program for the social, behavioral, and biomedical sciences. Behavior Research Methods. 2007;39(2):175-91.
ทัศนีย์ อ่วมศรี. รายงานการวิจัยเรื่อง การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพแบบบูรณาการเพื่อป้องกันโรคอ้วนในเด็กปฐมวัยในจังหวัดนครปฐม. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม; 2562.
Vygotsky L S. Play and Its Role in the Mental Development of the Child. International Research in Early Childhood Education. 2016;6(2):3-25.
Vaughn M G, DeLisi M, Beaver K M. A systematic review of the effects of play-based learning interventions on children's academic and social-emotional outcomes. Journal of Experimental Child Psychology. 2020;190:104724.
Hossain M T, Sultana A, Haque S E. School-based hand washing promotion program for primary school children in Bangladesh: A clustered randomized controlled trial. International Journal of Environmental Research and Public Health. 2018;15(11):2419.
O' Connor E, Hynes D, O'Malley M. Community participation in the development and implementation of a health promotion program for children. Health Promotion International. 2019;34(4):761-70.
วิภาดา เพ็ชรรัตน์, ชุลีพร พรหมสาขา ณ สกลนคร, วราภรณ์ ไชยแสง. ผลของโปรแกรมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก. วารสารวิจัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2563;27(1):15-28.
ธิดารัตน์ พลอยทับทิม, จารุณี สุกสี. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการกินของเด็กปฐมวัย. วารสารโภชนาการ. 2562;12(1):45-56.
ปิยะดา สุขวัฒน์, รุ่งรัตน์ รุ่งรัตนธนกุล, สุชาดา ชัยวัฒนกุล. ความเชื่อมั่นของผู้ปกครองต่อคุณภาพสถานรับเลี้ยงเด็ก. วารสารพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. 2561;15(2):112-25.
ศูนย์วิจัยเพื่อพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล. รายงานการสำรวจสุขอนามัยในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย. นครปฐม: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2560.
จิราพร อิ่มเจริญ, นันทพร ปิยะมาท, รัตนา กิจภิญโญชัย. การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพเด็กปฐมวัยในพื้นที่ชนบท. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพชุมชน. 2564;7(2):89-100.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง