การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด โรงพยาบาลเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
แนวปฏิบัติการพยาบาล, ผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลและศึกษาผลลัพธ์ของการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลโรงพยาบาลเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
รูปแบบการวิจัย: เป็นการวิจัยการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Operation Research)
วัสดุและวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) บุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด 32 คน 2) ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด 45 คน การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบทดสอบความรู้และแบบสอบถามการปฏิบัติการพยาบาล และแบบบันทึกผลลัพธ์ทางคลินิก แบบสอบถามมีค่าดัชนีความตรงของเนื้อหาเท่ากับ 0.87 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Paired t-test และ Chi-square test
ผลการวิจัย: พบว่า แนวปฏิบัติที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 6 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) การคัดกรองและวินิจฉัยเบื้องต้น 2) การประเมินและเฝ้าระวัง 3) การรักษาเบื้องต้นภายใน 1 ชั่วโมง 4) การรักษาต่อเนื่อง 5) การป้องกันภาวะแทรกซ้อน และ 6) การจัดการระบบส่งต่อผู้ป่วย และภายหลังการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด พบว่า อัตราการเสียชีวิตลดลงจาก 28.9% เป็น 15.6% ระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลลดลงจาก 9.8 วันเป็น 7.2 วัน และระยะเวลาในการได้รับยาปฏิชีวนะครั้งแรกภายใน 1 ชั่วโมงหลังวินิจฉัยเพิ่มขึ้นจาก 65.5% เป็น 89.4 % อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05)
สรุปและข้อเสนอแนะ: การวิจัยครั้งนี้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด 6 องค์ประกอบหลัก ซึ่งส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตลดลง ระยะเวลานอนโรงพยาบาลสั้นลง และผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และควรขยายผลการใช้แนวปฏิบัตินี้ไปยังหน่วยงานอื่นในโรงพยาบาลและเครือข่ายบริการสุขภาพใกล้เคียง พร้อมทั้งจัดฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มสมรรถนะของบุคลากร และประเมินผลลัพธ์ในระยะยาวเพื่อความยั่งยืนของโครงการ
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Sepsis [Internet]. Geneva: WHO; 2020 [cited 2023 May 24]. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/sepsis
Chaisri S, et al. Epidemiology and burden of sepsis at Thailand's largest university hospital. J Infect Public Health. 2022;15(1):1–7.
โรงพยาบาลเสลภูมิ. รายงานการดำเนินงานประจำปี ของโรงพยาบาลเสลภูมิ. ร้อยเอ็ด: โรงพยาบาลเสลภูมิ; 2566.
Evans L, Rhodes A, Alhazzani W, Antonelli M, Coopersmith C M, French C, et al. Surviving Sepsis Campaign: international guidelines for management of sepsis and septic shock 2021. Intensive Care Med. 2023;47(11):1181–247.
National Health and Medical Research Council. [NMRC]. A guide to the developmental, implementation and evaluation of clinical practice guidelines. Commonwealth of Australia; 1999.
Singer M, Deutschman C S, Seymour C W, Shankar-Hari M, Annane D, Bauer M, et al. The third international consensus definitions for sepsis and septic shock (Sepsis-3). JAMA. 2016;315(8):801-10.
Rhodes A, Evans L E, Alhazzani W, Levy M M, Antonelli M, Ferrer R, et al. Surving Sepsis Campaign: international guidelines for management of sepsis and septic shock: 2016. Intensive Care Med. 2017;43(3):304-77.
Lim C L, Lee K S, Lee PY, et al. Impact of 1-hour sepsis bundle compliance on clinical outcomes in septic shock: a quasi-experimental study. Crit Care. 2021;25(1):322.
Dellinger R P, Levy M M, Rhodes A, et al. Surviving Sepsis Campaign: international guidelines for management of severe sepsis and septic shock, 2012. Intensive Care Med. 2013;39(2):165-228.
Tshitangano T G, Maputle S M, Netshikweta M L. Factors contributing to nurses' poor adherence to tuberculosis infection control guidelines in selected hospitals of Limpopo Province. Afr J Prim Health Care Fam Med. 2019;11(1):e1-e8.
Vincent J L, Rubenfeld G D, Rhodes A, Moreno R, Marshall J C, Dellinger R P, et al. Improving sepsis care through regionalization and tele-ICU support: A systematic review. Intensive Care Med. 2020;46(5):1063-1076.
Levy M M, Evans L E, Rhodes A. The surviving sepsis campaign bundle: 2018 update. Intensive Care Med. 2018;44(6):925-8.
Damiani E, Donati A, Serafini G, Rinald, Adrario E, Pelaia P, et al. ect of performance improvement programs on compliance with sepsis bundles and mortality: a systematic review and meta-analysis of observational studies. PLoS One. 2015;10(5):e0125827.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
เวอร์ชัน
- 2025-06-24 (2)
- 2025-06-24 (1)
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง