การพัฒนาโปรแกรมการดูแลผู้สูงอายุวัณโรคปอดระยะเปลี่ยนผ่านจากโรงพยาบาลถึงบ้าน
คำสำคัญ:
โปรแกรมการดูแล, ผู้สูงอายุวัณโรคปอด, การดูแลในระยะเปลี่ยนผ่านบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อพัฒนาโปรแกรมการดูแลผู้สูงอายุวัณโรคปอดระยะเปลี่ยนผ่านจากโรงพยาบาลถึงบ้าน
รูปแบบการวิจัย : การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research)
วัสดุและวิธีการวิจัย : การดำเนินการพัฒนา แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเตรียมการ วิเคราะห์สถานการณ์โดยการทบทวนเวชระเบียนผู้ป่วยวัณโรคปอดที่ลงทะเบียนที่โรงพยาบาลมหาสารคามตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 จำนวน 1,162 ราย จัดตั้งทีมผู้ร่วมงานวิจัยพัฒนาโปรแกรมการดูแลผู้สูงอายุวัณโรคปอดระยะเปลี่ยนผ่านจากโรงพยาบาลถึงบ้าน โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์และปรับปรุงแก้ไข ระยะดำเนินการ โดยการนำโปรแกรมการดูแลฯ สู่การปฏิบัติ ระยะประเมินผล เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก แนวทางสนทนากลุ่ม และแบบบันทึกภาวะสุขภาพ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ จำนวน ร้อยละ และข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย : 1) การศึกษาสถานการณ์ ผู้เกี่ยวข้องสะท้อนว่าควรมีการดูแลเพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยเห็นคุณค่าในตัวเองและความสำคัญของการรักษาเพื่อการรักษาสำเร็จ และสนับสนุนการดูแลแก่ผู้ดูแล ทีมต้องการแนวทางการดูแลที่ชัดเจน และต้องการพัฒนาโปรแกรมการดูแลผู้สูงอายุวัณโรคปอดระยะเปลี่ยนผ่านจากโรงพยาบาลถึงบ้านได้ปรับปรุงแก้ไข ประกอบไปด้วย (1) การประเมินความพร้อมในการดูแลตนเองที่บ้านของผู้สูงอายุวัณโรคปอด (2) การเตรียมความพร้อมผู้ป่วยและผู้ดูแลในการดูแลตนเองที่บ้าน และ (3) การใช้บทบาทเสริมเพื่อสนับสนุนการดูแลต่อเนื่องของผู้ป่วยหลังจำหน่ายจากโรงพยาบาล 2) ระยะดำเนินการ โดยนำโปรแกรมการดูแลฯ ไปใช้กับผู้สูงอายุวัณโรคปอด 3) ระยะประเมินผล พบว่าผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นวัณโรคปอดเข้าร่วมโปรแกรมการดูแลฯ จำนวน 16 ราย เพศชาย (50.00%) เท่ากับเพศหญิง อายุเฉลี่ย 71 ปี (SD=6.58) ส่วนใหญ่ไม่ได้ประกอบอาชีพ 8 ราย (50.00%) ผลการรักษาหายขาด 13 ราย (81.25%) แนวโน้มดีขึ้นและรักษาต่อเนื่อง 3 ราย (18.75%) (เนื่องจากเปลี่ยนสูตรยาทำให้ต้องขยายระยะเวลาในการรักษา) ผลการศึกษาเปรียบเทียบระดับคะแนนคุณภาพชีวิตภายหลังเข้าร่วมโปรแกรมฯ Mdn(IQR)=3.15(0.17) สูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมฯ Mdn(IQR)=3.03 (0.12)
สรุปและข้อเสนอแนะ : ผลการศึกษาครั้งนี้ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายมีการรักษาดีขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำโปรแกรมฯ นี้ไปใช้เพื่อพัฒนาผลการดำเนินงานต่อไป
References
กรมควบคุมโรค. สำนักวัณโรค. แนวทางการควบคุมวัณโรคประเทศไทย พ.ศ.2561 National Tuberculosis Control Program Guideline, Thailand, 2018. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซด์; 2561.
วัฒนา สว่างศรี. การพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยวัณโรคในชุมชน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม. 2562;16(3):116-29.
ศิโรตม์ จันทรักษา. ลักษณะและปัจจัยเสี่ยงของการเสียชีวิตในผู้ป่วยวัณโรคปอดเขตอำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม. 2564;18(2):88-96.
โรงพยาบาลมหาสารคาม. งานวัณโรค. บันทึกข้อมูลเวชระเบียนผู้ป่วยวัณโรคโรงพยาบาลมหาสารคามปี 2563 – 2565. มหาสารคาม: โรงพยาบาล; 2565.
กรมควบคุมโรค. ฐานข้อมูลผู้ป่วยวัณโรค NTIP Thailand [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 3 มีนาคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://ntip-ddc.moph.go.th/uiform/Login.aspx
ประคอง อินทรสมบัติ, สุปรีดา มั่นคง, สมทรง จุไรทัศนีย์, สุลักษณ์ วงศ์ธีรภัค, วิลาวัณย์ ประสารอธิคม, ปาริชาติ พรสวัสดิ์ชัย, และคนอื่นๆ. การดูแลผู้สูงอายุที่รับรักษาไว้ในโรงพยาบาลอย่างครบวงจรและต่อเนื่อง:การดูแลระยะเปลี่ยนผ่านจากโรงพยาบาลสู่บ้าน. รามาธิบดีพยาบาลสาร. 2556;19(2):194-205.
Meleis AI, Sawyer LM, Im EO, Hilfinger Messias DK, Schumacher K. Experiencing transitions: an emerging middle-range theory. ANS Adv Nurs Sci. 2000;23(1):12-28.
Kemmis S, McTaggart R. The Action Research Reader. 3rd ed. Victoria: Deakin University; 1988.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
Versions
- 2023-03-01 (4)
- 2023-02-22 (3)
- 2023-02-21 (2)
- 2023-02-21 (1)
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง