This is an outdated version published on 2020-10-01. Read the most recent version.

กลยุทธ์การพัฒนาคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ ตามหลักการเรียนรู้เป็นทีม

ผู้แต่ง

  • นันตศักดิ์ เศษสุวรรณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด

คำสำคัญ:

กลยุทธ์การพัฒนา, คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ, หลักการเรียนรู้เป็นทีม

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์:  เพื่อพัฒนากลยุทธ์การพัฒนาคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอตามหลักการเรียนรู้เป็นทีม และประเมินประสิทธิผลกลยุทธ์การพัฒนาคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอตามหลักการเรียนรู้เป็นทีม

รูปแบบการวิจัย:  การวิจัยและพัฒนา  (Research  and  Development  Research)

วัสดุและวิธีการวิจัย: การดำเนินการวิจัยมี 2 ระยะ คือ ระยะแรกเป็นการพัฒนากลยุทธ์การพัฒนาคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอตามหลักการเรียนรู้เป็นทีม ระยะที่สองเป็นการนำกลยุทธ์ไปทดลองใช้แล้วประเมินประสิทธิผล โดยทดลองใช้กับคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ(พชอ.) จำนวน  21  คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบประเมินสมรรถนะ แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบการทำงานเป็นทีมโดยใช้สถิติทดสอบ Wilcoxon signed  rank test

ผลการวิจัยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นชาย (66.7%) อายุเฉลี่ย 41.90 ปี (SD = 8.78) และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี (57.1%) กลยุทธ์การพัฒนาคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอตามหลักการเรียนรู้เป็นทีมประกอบด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน คือ การกำหนดเป้าหมายและวางแผนเรียนรู้ การเรียนรู้เป็นรายบุคคล  การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และตัดสินใจ การประยุกต์ใช้ความรู้และกระบวนการเรียนรู้ไปใช้และการประเมินผล หรือ PISAE Model และหลังการพัฒนาคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ มีคะแนนการทำงานเป็นทีมเพิ่มขึ้น (p = 0.0001) และมีคะแนนพฤติกรรมการเรียนรู้เป็นทีมค่อนข้างมาก (M =4.23,SD = 0.03) (95% CI = 4.16-4.29)

สรุปและข้อเสนอแนะ:  ผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ากลยุทธ์การพัฒนาการทำงานเป็นทีมส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งกระบวนการและพฤติกรรมการเรียนรู้ทำงานเป็นทีม ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำกลยุทธ์ไปใช้ในการพัฒนากลุ่มเป้าหมายในพื้นที่

References

1.สำนักงานสาธารณสุขอำเภอจตุรพักตรพิมาน. (2561). รายงานผลการปฏิบัติราชการตามยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุข ปีงบประมาณ พ.ศ.2561. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด.
2. ประภัสร์ อ่อนฤทธิ์, รัชนี นิธากรและขวัญดาว แจ่มแจ้ง. การพัฒนากลยุทธ์การจัดทำแผนชุมชนของหมู่บ้านในจังหวัดกำแพงเพชร. การประชุมสัมมนาวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและนาชาติ เครือข่ายบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ ครั้งที่ 15. 23 กรกฎาคม 2558 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
3.ลำเทียน เผ้าอาจ .(2559). การทำงานเป็นทีมของข้าราชการครูในโรงเรียนขยายโอกาสอำเภอเมืองตราด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด. วิทยานิพนธ์หลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.
4. Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing (5th ed.). New York: Harper Collins
Publishers. (pp.202-204)
5.สายพิน สีหรักษ์ .(2551). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามหลักการเรียนรู้เป็นทีมเพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้เป็นทีม และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 วิทยานิพนธ์ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน ภาควิชาหลักสูตร การสอนและเทคโนโลยีการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
6. เอกพงศ์ เกยงค์, ทวนทอง เชาวกีรติพงศ์ และกิตติพัทธ์ เอี่ยมรอด. การพัฒนากลยุทธ์การเสริมสร้างประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดสุโขทัย. วารสารมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม.13 (1): มกราคม–มิถุนายน 2562 ; 52-68.
7.วรางคณา ผลประเสริฐ .(2554). การจัดการเชิงกลยุทธ์ในโรงพยาบาล. เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 58708 สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
8. Knowles, M.S.(1980). The modern practice of adult education: Andragogy versus pedagogy. Englewood Cliffs, N. J. : Prentice Hall/Cambridge.
9. สุรีย์ภรณ์ เลิศวัชรสกุล และสุทธิพร ชมพูศรี. การมีส่วนร่วมการขับเคลื่อนกระบวนการจัดการเครือข่ายสุขภาพระดับอำเภอ จังหวัดพะเยา . วารสารการพยาบาล การสาธารณสุขและการศึกษา. 15(3) : กันยายน- ธันวาคม 2557; 69-81

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2020-10-01

Versions